xs
xsm
sm
md
lg

คุรุสภายันดึงคนเก่งเป็นครูสาขาขาดแคลน ยังต้องเรียนครูเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
คุรุสภา เล็งปลดล็อค ม.44 พ.ร.บ.สภาครูฯ ให้ คกก.สามารถพิจารณาอนุมัติผู้ใบอนุญาตฯเป็นรายกรณีได้ “ดิเรก” ระบุมอบนิติกรไปศึกษาแนวทาง ยันไม่เปิดกว้างทั่วไปเบื้องต้นจะเน้นสาขาขาดแคลนโดยหากแก้ไข กม.จะประกาศหลักเกณฑ์กำกับไว้ พร้อมจัดแบ่งประเภทต่างหาก ชี้แม้จะมาช่องทางพิเศษก็ต้องเรียนครูเพิ่มและผ่านการประเมินตามที่คุรุสภากำหนด 
 
นายดิเรก พรสีมา ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยความคืบหน้าในการแก้ไขมาตรา 44 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546  ซึ่งกำหนดไว้ว่า   ผู้ที่เป็นครูจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และผู้ที่จะมีสิทธิขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้นั้น จะต้องมีวุฒิปริญญาทางการศึกษาหรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง  หรือ ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด ว่า ขณะนี้ได้มอบให้ฝ่ายนิติกรของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ไปพิจารณาและศึกษาแนวทางการแก้ไขมาตราดังกล่าว และนำมาเสนอในที่ประชุมคราวต่อไป
 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากฎหมายได้ล็อกคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิขอใบอนุญาตฯ และไม่ได้เปิดโอกาสให้คณะกรรมการคุรุสภาสามารถใช้ดุลพินิจในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตฯเป็นรายกรณี ดังนั้น  แนวทางเบื้องต้นที่ได้หารือกันจะเป็นการปลดล็อคในเรื่องดังกล่าว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ไม่ได้จบในสาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์มาเป็นครูได้ แต่จะเปิดโอกาสให้เฉพาะผู้ที่มีความรู้ความสามารถในสาขาที่ขาดแคลน หรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งหากเป็นแนวทางนี้คุรุสภาก็จะต้องกำหนดและประกาศเป็นหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการปฏิบัติ ว่าสาขาที่ขาดแคลนนั้นมีอะไรบ้างที่เราอนุญาตและต้องมีการจัดแบ่งประเภทต่างหากด้วย
 

“การเปิดช่องทางดังกล่าวไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะแม้ว่าจะมาในช่องทางนี้แต่ก็ต้องไป เรียนเพิ่มเติมในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู และต้องผ่านการประเมินตามมาตรฐานที่คุรุสภากำหนดด้วยไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ หรือคุณธรรมจริยธรรม เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญมากเราจึงเข้มงวดไม่ย่อหย่อนไปกว่ากัน นอกจากนี้ อาจจะต้องมีการกำหนดคณะกรรมการเพื่อมาประเมินเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายกำหนดไว้ว่ากฎหมายจะสมบูรณ์ประกาศใช้เป็นทางการได้จะต้องผ่านการประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นก่อน เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้จึงยังไม่ใช่ข้อยุติยังเป็นเพียงความเห็นเท่านั้น จากนี้ต้องรอฟังข้อเสนอแนะจากนิติกรอีกครั้งหนึ่งเพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจนต่อไป” นายดิเรกกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น