เมื่อหลายฉบับก่อน ชวนท่านผู้อ่านไปชิมอาหารทะเลกันมาแล้ว ฉบับนี้เลยขออนุญาตพาไปกินปลาแม่น้ำกันบ้าง และร้านที่จะพาไปกินนี้ รับรองว่ามีสารพันปลาแม่น้ำให้อิ่มอร่อยเพียบ
ร้านกุ่ยโภชนา เดิมอยู่แถวตลาดกลาง วิเศษชัยชาญ ร้านนี้ถ้านับอายุมาถึงตอนนี้รวม 2 รุ่น ก็ร่วมร้อยปีเข้าไปแล้ว เริ่มตั้งแต่รุ่นแป๊ะเล้าจากซัวเถา เสื่อผืนหมอนใบมาอยู่อ่างทอง ใช้ความรู้ติดตัวมาคือ การทำอาหารประเภทพะโล้แบบแต้จิ๋ว มาเปิดร้านข้าวต้มกุ๊ยอยู่หน้าตลาด ขายดิบขายดี เรียกได้ว่าข้าวต้มร้านนี้ร้อนตลอด เพราะต้มข้าวแทบไม่ทัน
อาแป๊ะเล้า มีลูกชายชื่อ เฮียกุ่ย ซึ่งมาช่วยเป็นลูกมือจนเมื่ออาแป๊ะเล้าเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 90 กว่าปี เฮียกุ่ยก็รับช่วงต่อ จนมาวันหนึ่ง หม่อมถนัดศรี แวะผ่านมาแล้วมาชิมอาหาร ติดอกติดใจจึงมอบเชลล์ชวนชิมให้
ตอนนี้ ร้านกุ่ยโภชนา ย้ายออกมาจากตลาดได้ 5 ปีแล้ว มาตั้งอยู่แถวถนนเอเชีย กม.44-45 ข้อดีของย่านนี้คือ น้ำไม่ท่วม ลูกค้าสามารถแวะไปชิมได้ตลอดทั้งปี
ร้านนี้มีของดีของอร่อยให้กินเยอะแยะไปหมด จนเลือกไม่ถูก ถ้าจะกินตามรอยเชลล์ชวนชิม ก็ต้องสั่งเป็ดพะโล้ (100/180 บาท ตัวละ 340 บาท) ใช้เป็ดอ่อนลูกผสมตัวใหญ่ที่เนื้อแยะแต่มันน้อย มาต้มกับสูตรพะโล้ของแป๊ะเล้า กลิ่นหอมอบอวล เนื้อนุ่มมากๆ พุ้ยกับข้าวสวยร้อนๆ ราดพริกน้ำส้มที่ใส่กระเทียมสับลงไปด้วย เพลินจนข้าวเกือบหมดจาน
ปลาดุกทอดกรอบผัดเผ็ด (60/80 บาท) จานนี้ถ้าไม่สั่งมากินถือว่ายังมาไม่ถึงร้านนี้ สมกับที่ได้เชลล์ฯ เพราะทอดปลาดุกได้กรอบทั้งเนื้อทั้งก้าง ผัดกับพริกแกงสดๆ ที่โขลกเองทุกวัน เคี้ยวกรอบๆ ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดหางแบบกินคุ้มค่าจริงๆ
ผัดตับหมู (80/100 บาท) ใครชอบเครื่องในแนะนำเลยว่าสั่งแล้วไม่ผิดหวัง เพราะเฮียกุ่ยใช้ตับชิ้นโตๆ มาผัดกับไฟแรงๆ เหมือนผัดน้ำมันหอย ความอร่อยอยู่ตรงตับที่สุกกำลังดี เลยพองโตขึ้นมาน่ากินมากๆ กัดลงไปได้ความหวานหอมของน้ำเนื้อตับที่อยู่ครบถ้วน
สลัดเนื้อสันน้ำใส (100 บาท) จานนี้ถือเป็นเมนูเก่าที่หากินได้ตามร้านอาหารจีน ทีเด็ดของเฮียกุ่ยคือหมักเนื้อได้นุ่มหอม ส่วนน้ำสลัดแบบจีนๆ ออกรสเปรี้ยวหวานไม่เลี่ยนเหมือนน้ำสลัดฝรั่ง
ใครมาร้านนี้ต้องสั่ง กุ้งแม่น้ำทอดเกลือ (ขนาด 3 ตัวโล เฉลี่ยตัวละ 280-300 บาท) กุ้งแม่น้ำตัวโตนำมาแกะเปลือกออกผ่ากลางลำตัว เว้นตรงหัวเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้มันกุ้งไหลเยิ้ม เอากุ้งทั้งตัวไปอบโดยใช้ถาดรองด้านล่าง เพื่อเก็บน้ำและมันกุ้งที่ไหลออกมา แล้วนำน้ำทั้งหมดไปผัดกับน้ำมันปรุงรสด้วยเกลือ แล้วค่อยนำกลับมาราดตัวกุ้ง กุ้งแม่น้ำที่นี่สดแบบเนื้อแน่นหวานสนิท ฉีกเนื้อกุ้งใส่จานแล้วต้องตักน้ำขลุกขลิกมาราด รสชาติจะเค็มปะแล่ม แต่อร่อยจริงๆ โดยเฉพาะมันกุ้งที่ยังอยู่ครบถ้วน
ทอดมันปลากราย (90/120 บาท) ใช้เนื้อปลากรายสดๆ มาตีให้เหนียวคลุกกับพริกแกงที่โขลกเอง กัดลงไปจะรู้สึกถึงความเหนียวหยุ่นอันเป็นคุณสมบัติพิเศษของเนื้อปลากราย ที่แปลกคือ “น้ำจิ้ม” ที่ใช้มะละกอขูดฝอยแทนแตงกวา เพราะแตงกวาเมื่อเจอกับน้ำส้มแล้วจะคายน้ำออกมา เลยทำให้น้ำจิ้มรสจืดไปนั่นเอง
ลูกชิ้นปลากรายผัดฉ่า ( 80/100 บาท) ใช้เนื้อปลากรายล้วน ๆ มาตีจนเหนียวแล้วปั้นเป็นลูกขนาดไม่ใหญ่นัก นำมาผัดฉ่าแบบสมุนไพรสด ๆ เนื้อลูกชิ้นเด้งดึ๋งดั๋งโชว์ความสดของเนื้อปลา เวลากินต้องเคี้ยวกกับสมุนไพรสด ๆ จะได้ความเผ็ดร้อนสมกับเป็นอาหารไทย
คนกรุงเทพฯ อย่างผู้เขียน พอมารับฟังว่าที่นี่มีปลาแม่น้ำแปลกๆ เยอะแยะให้เลือก เลยอยากกินไปหมดทุกเมนู ถ้าไม่รู้จะสั่งอะไรดี เฮียกุ่ยและภรรยาที่มีความรู้เรื่องปลาเป็นอย่างดี จะแนะนำได้ว่าปลาอะไรเหมาะจะทำอะไรได้บ้าง อย่าง ปลาคัง ต้องนำมาแกงป่า ต้มยำ ปลาม้าควรนำมานึ่งมะนาว ผัดฉ่าหรือทอดกระเทียม ปลาน้ำเงิน เป็นปลาแม่น้ำตัวใหญ่เนื้อเยอะ นำมาต้มขิง นึ่งซีอิ้ว หรือ ปลาค้าว ซึ่งเป็นปลาตัวใหญ่ขนาด 3-4 กิโล ก็แล่แต่เนื้อนำมาทำห่อหมกอร่อยสุดๆ (กระทงละ 40 บาท) แต่จะทำเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น
เมนูยังมีให้เลือกอีกเป็นร้อย แต่พื้นที่ในกระเพาะมีเพียงแค่นี้จริงๆ ใครอยากจะลิ้มลองความอร่อยแบบบ้านๆ แวะไปชิมกันได้ พิกัดของร้านนี้ให้ขับรถไปถนนสายเอเชีย มุ่งสู่อยุธยา พอเจอหลักกิโลเมตรที่ 44 ก็ให้ชิดขวากลับรถ เพราะร้านจะอยู่ถนนเอเชียขาเข้ากรุงเทพฯ
ร้านกุ่ยโภชนา ตั้งอยู่ที่ 79 ม.3 ถนนสายเอเชีย ม.44-45 ต.บ้านใหม่ พระนครศรีอยุธยา เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และอังคารที่ 3ของเดือน) โทร. 08-1848-9016
Text by : ปราณ ชีวิน
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net