ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จังหวัดเชียงใหม่ติวเข้มผู้ประกอบการ MICE หวังเป็นตัวชูโรงเศรษฐกิจโดยรวมโตขึ้น และการกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจและบริการอย่างทั่วถึง
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ในการจัดการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ MICE ของเชียงใหม่ ซึ่งมีตัวแทนผู้ประกอบการเข้าร่วมระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย.54 ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน นั้น นายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งมีความคล่องตัวกว่าภาคราชการ
ขณะเดียวกัน สถาบันการศึกษา จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์อย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อ 2 ก.ย.54 ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งด้านการพัฒนาองค์ความรู้การตลาด และการประชาสัมพันธ์
รวมทั้งได้มีการเปิดตัวโครงการ MICE 4 YOUTH เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยภาคเหนือทั้ง 9 สถาบัน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ในฐานะธุรกิจสำคัญก่อให้เกิดการสร้างงาน ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีโอกาสที่จะได้รับการพัฒนา และได้ประโยชน์สูงสุดจากอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งด้านความเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม และการกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจและบริการอย่างทั่วถึง
รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ บอกอีกว่า เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลและการแสดงสินค้านานาชาติ หรือที่เรียกว่า “อุตสาหกรรมไมซ์” เป็นอุตสาหกรรมหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญในฐานะอุตสาหกรรมที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ
จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ซึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับจังหวัด คือ ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ โดยมีศักยภาพทั้งด้านแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์อายุกว่า 715 ปี แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ สวยงาม แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่น่าสนใจ เช่น เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์เชียงใหม่ ซูอควาเรียม และสวนราชพฤกษ์ ที่จะเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2554 - 14 มีนาคม 2555
นอกจากนี้ ในเร็วๆ นี้ จังหวัดเชียงใหม่ก็จะมีหอดูดาวแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่บริเวณสถานีทวนสัญญาณ ทีโอที (กม.44.4) อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,457 เมตร ซึ่งมีภูมิประเทศและทัศนวิสัยที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
ทั้งนี้ หากแล้วเสร็จจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร พร้อมระบบโดมอัตโนมัติซึ่งเป็นกล้องโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นศูนย์กลางการวิจัยด้านดาราศาสตร์ของประเทศ สามารถรองรับงานวิจัยทางดาราศาสตร์ได้ทัดเทียมกับนานาชาติ
รวมทั้งยังมีการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ประมาณกลางปี 2556 นี้ด้วย
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ในการจัดการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ MICE ของเชียงใหม่ ซึ่งมีตัวแทนผู้ประกอบการเข้าร่วมระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย.54 ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน นั้น นายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งมีความคล่องตัวกว่าภาคราชการ
ขณะเดียวกัน สถาบันการศึกษา จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์อย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อ 2 ก.ย.54 ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งด้านการพัฒนาองค์ความรู้การตลาด และการประชาสัมพันธ์
รวมทั้งได้มีการเปิดตัวโครงการ MICE 4 YOUTH เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยภาคเหนือทั้ง 9 สถาบัน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ในฐานะธุรกิจสำคัญก่อให้เกิดการสร้างงาน ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีโอกาสที่จะได้รับการพัฒนา และได้ประโยชน์สูงสุดจากอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งด้านความเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม และการกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจและบริการอย่างทั่วถึง
รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ บอกอีกว่า เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลและการแสดงสินค้านานาชาติ หรือที่เรียกว่า “อุตสาหกรรมไมซ์” เป็นอุตสาหกรรมหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญในฐานะอุตสาหกรรมที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ
จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ซึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับจังหวัด คือ ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ โดยมีศักยภาพทั้งด้านแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์อายุกว่า 715 ปี แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ สวยงาม แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่น่าสนใจ เช่น เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์เชียงใหม่ ซูอควาเรียม และสวนราชพฤกษ์ ที่จะเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2554 - 14 มีนาคม 2555
นอกจากนี้ ในเร็วๆ นี้ จังหวัดเชียงใหม่ก็จะมีหอดูดาวแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่บริเวณสถานีทวนสัญญาณ ทีโอที (กม.44.4) อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,457 เมตร ซึ่งมีภูมิประเทศและทัศนวิสัยที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
ทั้งนี้ หากแล้วเสร็จจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร พร้อมระบบโดมอัตโนมัติซึ่งเป็นกล้องโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นศูนย์กลางการวิจัยด้านดาราศาสตร์ของประเทศ สามารถรองรับงานวิจัยทางดาราศาสตร์ได้ทัดเทียมกับนานาชาติ
รวมทั้งยังมีการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ประมาณกลางปี 2556 นี้ด้วย