ผู้ป่วยอาการสาหัส รพ.ชลประทานรังสฤษฏ์ เสียชีวิตแล้ว ขณะ คร.ยังเร่งสอบสวนต่อ รับเป็นไปได้ยากเนื่องจากน้ำท่วมวงกว้าง ทาง รพ.เผยผู้ป่วยอีก 3 ราย รอเช็กร่างกายเพิ่ม หวั่นปอดอักเสบ
วันนี้ (27 ต.ค.) นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้ป่วยที่คาดว่าอาจได้รับสารพิษจากการทำปฏิกิริยาของขยะในระหว่างน้ำท่วม ที่รักษาตัวใน โรงพยาบาล (รพ.)ชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ว่าได้รับรายงานจากผู้อำนวยการ รพ.แล้วว่า ผู้ป่วยอาการหนักซึ่งเป็นหญิงวัย 45 ปี ที่มีโรคประจำตัวนั้นเสียชีวิตลงแล้วในเวลาประมาณ 08.00 น.เหตุเพราะผู้ป่วยรายดังกล่าวนั้นมีโรคประจำตัวและชีพจรอ่อนอยู่แล้ว ซึ่งในวันนี้ญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เชื่อว่าในพื้นที่เกิดน้ำท่วม ซี่ง กรมควบคุมโรค ได้มีการสอบสวนโรคมาตั้งแต่วานนี้ (26 ต.ค.) ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีสารพิษอื่นๆปะปนด้วยหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมขยายวงกว้าง ยากต่อการตรวจหาสารพิษแต่ละอย่างชัดเจน ซึ่งขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็ยังพยายามตรวจสอบอยู่ อย่างไรขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่า สาเหตุของการเสียชีวิตนั้นเกิดจากผลกระทบจากโรงงานจริงหรือไม่
ด้าน นพ.สมดี รัตนาวิบูลย์ ผอ.รพ.ชลประทานรังสฤษฏ์ กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ ชื่อ นส.ปิยพร ซึ่งเป็นผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งวันที่เข้ารักษาตัวนั้น มีอาการหายใจลำบากและชีพจรอ่อนแรง และยืนยันว่าแพทย์พยายามช่วยอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถยื้อไว้ได้ กรณีนี้ยอมรับว่า หลักฐานทางการแพทย์นั้นไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้เสียชีวิตได้รับผลกระทบจากการสูดดมก๊าซพิษที่เป็นอันตรายจริงหรือไม่ ดังนั้นหากทางหน่วยงานอื่นต้องการความชัดเจนคงต้องขึ้นแอยู่กับญาติว่าต้องการพิสูจน์ต่อไปหรือเปล่า แต่ค่อนยากพอสมควร เนื่องจากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสารที่ก่อพิษหลายอย่าง ขณะที่ผู้ป่วยรายอื่นในครอบครัวเดียวกัน 3 รายนั้นทาง รพ.ได้นัดมาตรวจร่างกายอีกครั้งในวันอาทิตย์ ที่ 30 ต.ค. เพื่อดูว่าปอดอักเสบหรือไม่ เพราะถ้าได้รับสารพิษอย่างมีเทน และก๊าซไข่เน่า และก๊าซคาร์บอนมอนออไซด์ย่อมขวางทางของก๊าซออกซิเจน และส่งกระทบต่อปอดได้ ส่วนสมาชิกครอบครัวที่ไม่ได้ป่วยนั้นหากมีอาการผิดปกติทางร่างกายในภายหลังก็แนะนำว่า ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจอาการเช่นกัน เพราะการที่สมาชิกทั้งหมด 5 ราย ป่วยถึง 4 ราย ก็ถือว่าผิดปกติแล้ว เพราะมีสมาชิกรายหนึ่งซึ่งมารดาของผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ วัย 78 ปี มีระดับฮีโมโกบินที่มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เกาะอยู่ ซึ่งแต่เดิมนั้นทาง รพ.ให้ผู้ป่วยนอนพักเพื่อรอดูอาการแต่เนื่องจากมีสมาชิกเสียชีวิต จึงจำเป็นต้องไปทำธุระเรื่องงานศพให้เสร็จสิ้น
//////////////////////////////////////////