ขยะทำพิษ ในวิกฤตน้ำท่วม ก่อก๊าซมีเทน พบเหยื่อเคราะห์ร้าย 5 ราย ป่วยหนัก 1 ราย
จากกรณีมีสารพิษรั่วไหลในพื้นที่น้ำท่วมบริวเณอุตสาหกรรม จ.นนทบุรี ว่า นั้น ล่าสุด วันนี้ ( 26 ต.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งภายหลังได้รับรายงานว่า มีผู้ได้รับสารพิษจำนวน 5 ราย โดยสารพิษดังกล่าวเกิดจากกองขยะบริเวณด้านหลังของโรงงานผลิตน้ำมันพืช ซึ่งถูกน้ำท่วม จึงเกิดการทำปฏิกิริยากลายเป็นก๊าซมีเทน ขณะนี้ไม่มีการทำปฏิกิริยาและแก๊สไม่มีการกระจายแล้ว โดยผู้ได้รับผลกระทบ มีที่พักอยู่ห่างจากกองขยะประมาณ 1-2 เมตร ในจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีอาการหนัก 1 รายอยู่ในห้องไอซียู โดยผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัวเป็นมะเร็งเม็ดเลือด จึงจำเป็นต้องตรวจสอบด้วยการเจาะเลือดไปตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ ว่า อาการที่เกิดขึ้นเป็นจากแก๊สมีเทนหรือไม่ ส่วนอีก 4 ราย กลับบ้านได้แล้ว
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า หากสูดดมแก๊สมีเทนเข้าสู่ร่างกาย แก๊สชนิดนี้จะเข้าไปแย่งที่ของออกซิเจน โดยปกติเม็ดเลือดจะจับออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย แต่หากมีเทนเข้าร่างกายไปเม็ดเลือดจะจับมีเทนแทนออกซิเจน หากได้รับแก๊สปริมาณไม่มาก เพียงอยู่ในที่โล่งและสูดออกซิเจนเข้าไปก็สามารถรักษาอาการได้ แต่หากร่างกายได้รับมีเทนในปริมาณมาก จะส่งผลให้ออกซิเจนในเลือดลดลง เกิดภาวะพร่องออกซิเจน อวัยวะต่างๆ ของร่างกายจะได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงน้อย หากเปอร์เซ็นต์ออกซิเจนต่ำมาก อาจเป็นลม หมดสติ และช็อก
นพ.สมศักดิ์ นุกูลอุดมพรพาณิชย์ รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) จ.นนทบุรี กล่าวว่าสารพิษที่รั่วไหลน่าจะมาจากโรงงานผลิตน้ำมันพืชทิพย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.นนทบุรี และเป็นเขตเชื่อมต่อกับ จ.ปทุมธานี โดยสารเคมีที่รั่วออกมาจะมีกลิ่นคล้ายก๊าซไข่เน่า คณะแพทย์สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะมาจากสารเคมี 3 ชนิด คือ ก๊าซมีเทน, สารกำมะถัน หรือไข่เน่า และ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ โดยสารทั้ง 3 ชนิด มีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะมีเทน หากรับในปริมาณอาจก่อให้เกิดมะเร็ง ก่อให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือทำให้หญิงตั้งครรภ์แท้งบุตรได้ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเกิดจากสารชนิดใดกันแน่ ต้องรอผลการตรวจเลือดจากผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบทุกคน
