“สุขุมพันธุ์” วอนรัฐบาลลดน้ำคลองประปา เร่งซ่อมแบริเออร์ หวั่นทะลักวิภาวดี สั่งเลื่อนเปิดเทอมโรงเรียน 116 แห่งใน 9 เขตเสี่ยง คาดเปิดเรียนได้ 15 พ.ย. นี้ เล็งสอนเสริมในเสาร์-อาทิตย์
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 ตุลาคม ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม กรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน กทม.ว่า สถานการณ์ทั่วไปยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฝนมีการขาดช่วงบ้าง โดยเมื่อวานนี้พื้นที่เขตลาดกระบังในตกมากที่สุด วัดได้ 18 มิลลิเมตร ขณะทีระดับน้ำหนุนสูงสุดไม่ถึง 1 เมตร ในวันนี้จะอยู่ที่ 0.98 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และวันนี้คาดว่าจะสูง 2.12 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทั้งนี้ กทม.ได้เปิดประตูระบายน้ำกว้างกว่าปกติ โดยที่คลอง 2 กว้างกว่า 1.10 เมตร ขณะที่คลองทวีวัฒนาเปิด 1 เมตร อย่างไรก็ตาม ตนได้พิจารณาให้เปิดประตูกว้างขึ้นในพื้นทื่ที่สามารถเปิดกว้างได้ ยืนยันว่าได้ร่วมมือเต็มที่กับรัฐบาล ทั้งนี้ประตูระบายน้ำที่ยังไม่ได้เปิด ไม่ได้เป็นของ กทม.หากแต่เป็นของกรมชลประทาน ที่ยังไม่ได้เปิดประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ที่ห่วงมากที่สุดคือคลองประปา เช้าวันน้ำระดับน้ำยังไม่ลด มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อวาน เมื่อคืนประมาณ 01.00 น. ตนได้เดินทางไปตรวจพื้นที่พบว่า น้ำไม่ซึมจากแนวคันกั้นน้ำคอนกรีต (แบริเออร์) แต่เป็นการเอ่อล้นไหลเข้าเขตหลักสี่และดอนเมือง ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบและต้องการถุงทรายเป็นจำนวนมาก แต่ทาง กทม.มีข้อจำกัด เนื่องจากได้นำไปสร้างแนวคันกั้นน้ำที่สายไหม อย่างไรก็ตาม ทางปลัดกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้รองปลัด กทม.2 ท่าน เข้าไปติดตามสถานการณ์ทั้ง 2 เขตนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการสั่งการอย่างเป็นประสิทธิภาพมากที่สุด
“เราได้ประสาน ศปภ.แล้ว เพื่อขอให้ลดระดับน้ำใสคลองประปาและขอให้เร่งซ่อมแบริเออร์ ซึ่งจะมีผลอย่างมากถ้าไม่ดำเนินการทันที เพราะจะก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ ทั้งแบริเออร์และประชาชนโดยรอบ และที่ห่วงมากตอนนี้ คือ ปริมาณน้ำในคลองประปาได้ล้นเข้าสู่คลองเปรมประชากร จากปกติที่คลองเปรมฯมีระดับน้ำ 50 ซม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่เมื่อเช้านี้มีระดับสูง 1 เมตร ซึ่งส่งผลให้พื้นที่บางส่วนของถนนแจ้งวัฒนะและข้างเคียงประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว เป็นห่วงว่าหากน้ำจากคลองประปาสูง 1.30-1.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จะทำให้ถนนวิภาวดีได้รับผลกระทบทันที ถ้าท่วมถนนวิภาวดีได้จะเกิดปัญหา เพราะเป็นใจกลางเมือง ด้วยเหตุนี้จึงได้ประสาน ศปภ.เพื่อลดระดับน้ำในคลองประปา เพ่อให้น้ำในคลองเปรมอยู่ในระดับที่ปลอดภัย ซึ่งประชาชนเขตหลักสี่และดอนเมืองก็จะเดือดร้อนน้อยลง” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวอีกว่า ยืนยันว่ายังเป็นห่วงในจุดเสี่ยง 3 จุด ซึ่งที่ถนนพหลโยธินตัดคลองรังสิต กทม.ยังเป็นผู้ดูแล เพราะยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเสริมคันกั้นน้ำ ขณะที่คันกั้นน้ำที่คลองหกวา ระยะทาง 6 กิโลเมตร ซึ่งได้มีการเพิ่มกระสอบทรายกว้าง 3 แถว สูง 3 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง คาดว่าจะเสร็จวันนี้ อาจมีความล่าช้าบ้างเพราะเมื่อคืนนี้เกิดจราจรติดขัด เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยอดผู้อพยพอยู่ที่ศูนย์อพยพของกทม. จำนวน 320 คนใน 10 เขต เช่น เขตดุสิต 92 คน ลาดกระบัง 93 คน สายไหม 45 ดอนเมือง 37 คน เป็นต้น โดยได้สั่งการให้แต่ละเขตเตรียมการรองรับผู้อพยพที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กทม.ได้มีการเลื่อนเปิดเรียนโรงเรียนในสังกัด กทม. ทั้งหมด 8 เขต ได้แก่ มีนบุรี คลองสามวา หนองจอก ลาดกระบัง ดอนเมือง หลักสี่ สายไหม คันนายาว บางเขน รวม 116 โรงเรียน ซึ่งจากเดิมจะเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะขยายเวลาการเปิดเรียนคาดเปิดได้ 15 พ.ย. แต่ยังคงต้องเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไป โดยจะมีการให้สอนชดเชยหลังจากเปิดภาคเรียนไปแล้วในวันเสาร์-อาทิตย์ นอกจากนี้ กทม.ยังเฝ้าระวังในเรื่องของคุณภาพประปา โดยได้ประสานกับการประปานครหลวงให้ดูแลเรื่องของคุณภาพน้ำดิบ ขณะที่ กทม.กระทรวงสาธารณสุขจะดูแลเรื่องของคุณภาพน้ำประปา โดยจะต้องมีการตรวจคุณภาพน้ำความขุ่น ความเป็นด่าง-กรด และปริมาณคลอรีน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยอมรับหรือไม่ว่า กทม.ไม่สามารถประเมินน้ำว่าจะถึงกรุงเทพฯ เมื่อใด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า น้ำไม่เหมือนรถไฟ ไม่มีตารางเวลาเดินทาง ตนจึงบอกไม่ได้ เมื่อคืนได้นอนเพียง 2 ชั่วโมง
ด้าน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เสนอแนะการแก้ไขปริมาณน้ำที่เข้ามากกว่าปริมาณน้ำออก อันส่งผลให้ระดับน้ำในคลองยกตัว ซึ่งเป็นให้น้ำล้นคลองประปา โดยในทางวิศวกรรมควรที่จะแก้ไขดังนี้ 1.ตรวจปริมาณน้ำออกจากประตูระบายน้ำสามเสน ด้วยการวัดอัตราการไหลออกจริง 2.ควบคุมการปล่อยน้ำเข้าคลองต้นทางให้สูงกว่าน้ำออก
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครประจำวันนี้ว่า ปริมาณน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและพระราม 6 วัดได้ 4,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้ 34 ลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปริมาณน้ำผ่านบางไทรวัดได้ 3,617 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มจากเมื่อวานนี้ 13 ลุกบาศก์เมตร โดยระดับน้ำจะสูงสุดเวลา 15.04 คาดว่าระดับ 2.12 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำในคลองต่างๆ เปรียบเทียบเมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบว่า ระดับน้ำกรุงเทพฯด้านเหนือ ที่คลองพระยาสุเรนทร์ คลอง 13 น้ำทรงตัว ขณะที่คลอง 2 ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 2 ซม. ส่วนระดับน้ำชายแดนกรุงเทพฯตะวันออก ระดับน้ำในคลองทวีวัฒนา (ด้านนอก) ระดับ 1.89 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลดลง 1 ซม. อย่างไรก็ตาม กทม.จะเฝ้าระวังน้ำจากคลองรพีพัฒน์ตั้งแต่คลอง 1-14 และปริมาณน้ำล้นจากคลองประปา รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำทุ่งเป็นระยะ ส่วนพื้นที่เฝ้าระวัง 9 เขต ได้แก่ ดอนเมือง หลักสี่บางเขน สายไหม ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก คลองสามวา คันนายาว ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนระดับน้ำคลองสามเลนช่วงเชื่อมต่อคลองประปาระดับต่ำกว่าสันเขื่อน 1.81 เมตร น้ำในคลองประปาไหลเข้าคลองสามเสนในอัตราที่ต่ำกว่าที่คาด
