ผู้บริหารการประปาฯ โอดเป็นแพะรับบาป ถูกชาวบ้านด่าทำน้ำท่วม ฉะ ศปภ.ไร้กึ๋นบริหารน้ำ ชี้ ปล่อยน้ำเข้าท่วมคลองประปา-โรงผลิต หวั่นอีก 7 วัน วิกฤต เสี่ยงโรงผลิตบางเขนจมน้ำ ทำกำลังผลิตลด 70% ทำคนกรุงไม่มีน้ำใช้ แฉ มท.3 ไม่ใส่ใจช่วยกู้ปัญหา ห่วงแต่แจกน้ำเอาหน้า ด้าน “กรณ์” เตรียมยื่นหนังสือด่วนถึง “ยิ่งลักษณ์” จี้แก้ปัญหาก่อนเกิดวิกฤตคนกรุงไม่มีน้ำใช้
วันนี้ (21 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.นายกรณ์ จาติกวณิช และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพปัญหาบริเวณเลียบคลองประปาพบว่า มีรอยรั่วซึมจากบริเวณคันกั้นน้ำ (เบอริเรอร์) ตลอดแนวให้น้ำไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านประชาชนจนได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการอุดรอยรั่วดังกล่าวได้ ทำให้ นายอภิรักษ์ แจ้งทีมงาน ส.ก.-ส.ข.ให้รีบโพสต์ข้อความขออาสาสมัครจากประชาชน เพื่อช่วยกันตักทรายและวางแนวกระสอบทรายอุดรอยรั่วต่างๆ
จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังการประปานครหลวง บางเขน เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำ และสอบถามถึงปัญหาการทำงานของการประปา โดยมี นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง และผู้บริหารให้ข้อมูลที่ทำให้น้ำจากคลองเชียงราก ไหลเข้าคลองประปาว่าเกิดจากการมีรอยแตกเกิดขึ้นบริเวณไซฟ่อนคลองรังสิต ทำให้น้ำไหลใช้ช่องทางดังกล่าวสู่คลองประปา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปิดช่อง แต่ไม่สามารถประสบความสำเร็จ เนื่องจากน้ำไหลแรง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาชาวบ้านไม่เข้าใจการทำงานของการประปา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาคุณภาพน้ำในคลองประปา เพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตน้ำให้คนกรุงเทพใช้ ทำให้เกิดความขัดแย้งจากประชาชนสองฝากบ่อยครั้ง และไม่สามารถแก้ปัญหาการระบายน้ำออกจากคลองประปาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า มีการวัดตรวจสอบคุณภาพน้ำแล้วยังสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตน้ำประปาได้ ทั้งนี้ สิ่งที่อยากให้รัฐบาลช่วยคือไม่ควรคิดถึง แต่การแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่ต้องประชาสัมพันธ์กับประชาชนเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องรักษาคลองประปาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำชี้แจงของผู้บริหารการประปา ทำให้เห็นถึงความอึดอัดต่อการทำงานของ ศปภ.ถึงขนาด นายมานิตย์ พงษ์เฉลิมพร ผอ.ฝ่ายโรงงานผลิต ระบุว่า ศปภ.ไม่มีความรู้เรื่องนี้ ไม่มีการจัดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมาช่วยแก้ปัญหา ทำให้การบริหารจัดการน้ำไม่มีประสิทธิภาพ และขณะนี้กลายเป็นว่า การประปาฯถูกชาวบ้านตำหนิว่าเป็นคนทำให้น้ำท่วม ทั้งที่หน้าที่ของเรา คือ รักษาคลองประปาไว้ ส่วนการแก้ปัญหาน้ำท่วมเป็นของ ศปภ.จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจในส่วนนี้ด้วยว่าหากคลองประปาเสียหาย ผลกระทบก็จะเกิดกับคนกรุงเทพทั้งหมด
“ความจริงกรมชลประทาน มีหน้าที่ในการจัดหาน้ำดิบให้การประปาฯ ส่วนการประปาฯมีหน้าที่ผลิตน้ำที่มีคุณภาพให้ประชาชนใช้ ถามว่า ทำไมในวันที่น้ำเต็มเขื่อนถึงไม่มีการบริหารจัดการพร่องน้ำ จนทำให้ปัญหาลุกลามมาขนาดนี้ เราทำงานเต็มที่จนแทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอน แล้วต้องเจอประชาชนโทรมาต่อว่าตลอดเวลาว่าทำน้ำท่วม ทั้งที่การดูแลเรื่องน้ำท่วมไม่ใช่หน้าที่ของเรา และเราได้ทำอย่างเต็มกำลังเพื่อรักษาคลองประปาเอาไว้” ผอ.ฝ่ายโรงงานผลิต กล่าวและยังฝากว่า หากพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล สิ่งที่ต้องเตรียมแผนล่วงหน้า คือ การรวมน้ำจากแหล่งน้ำดิบสำรองอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำแม่กลอง ขณะที่ผู้บริการบางคนเสนอว่าควรจะมีองค์กรอิสระเช่นเดียวกับ กสทช.มาดูแลการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
จากนั้น นายมานิตย์ ได้นำคณะไปดูขั้นตอนการผลิตน้ำประปา เพื่อยืนยันถึงคุณภาพน้ำว่าไม่มีปัญหา และได้ชี้ให้เห็นว่าโรงผลิตน้ำบางเขนกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการจมน้ำด้วยเช่นกัน เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นวันละ 5 ซม.หากยังไม่สามารถปิดรูรั่ว บริเวณไซฟ่อนคลองรังสิตได้ น้ำก็จะเพิ่มปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ หากเลย 80 ซม.ก็มีโอกาสล้นทะลักาท่วมโรงผลิตน้ำประปาจนกระทบต่อการผลิตทันที ทำให้ปริมาณน้ำที่หล่อเลี้ยงคนกรุงเทพหายไป 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ผลิตที่โรงผลิตประปามหาสวัสดิ์ก็ไม่มีแรงดันมากพอที่จะแจกจ่ายเข้ามาหล่อเลี้ยงในกรุงเทพชั้นใน
“เรื่องนี้เป็นภาวะวิกฤตที่ ศปภ.ยังไม่เคยส่งคนมาดูปัญหาหน้างานแม้แต่ครั้งเดียว นายชูชาติ (หาญสวัสดิ์ รมช มหาดไทย) เคยเดินทางมา แต่ก็ทำแค่นำน้ำประปาที่บรรจุขวดไปแจกชาวบ้านเท่านั้น ขณะนี้ระดับน้ำในแต่ละวันสูงขึ้นประมาณ 5-10 ซม.และปลายเดือนนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงอีก ถือเป็นช่วงอันตรายที่ต้องเร่งแก้ปัญหาให้ได้ ไม่เช่นนั้นคนกรุงเทพจะเหลือน้ำใช้คนละ 5 ลิตร ต่อวันเท่านั้น แต่ปัญหาคือโรงผลิตที่มหาสวัสดิ์ไม่มีแรงดันน้ำมากพอจะส่งน้ำเข้ามาในเมือง ยกเว้นฝั่งธนบุรี ผมพูดได้เลยว่า ถ้าโรงผลิตนี้อยู่ไม่ได้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ เพราะคนกรุงเทพจะได้รับผลกระทบมหาศาล ภาคอุตสาหกรรม โรงพยาบาลก็จะได้รับผลกระทบด้วย”
ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงว่ารัฐบาลมีปัญหาในการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา โดยความจำเป็นเร่งด่วนนอกเหนือจากการดูแลปัญหาน้ำท่วมแล้วยังต้องปกป้องคลองประปา ซึ่งหากได้รับผลกระทบก็จะทำให้คนกรุงเทพเดือดร้อนมหาศาล และขณะนี้ถือว่าปัญหาเข้าขั้นวิกฤตแล้ว โดยเฉพาะกรณีโรงผลิตน้ำประปาบางเขน ภายใน 7 วันนี้ คือว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการได้รับความเสียหายต่อน้ำท่วม อันจะส่งผลให้กำลังผลิตน้ำประชาชนลดลงทันที แต่รัฐบาลกลับไม่ให้ความสำคัญที่จะแก้ปัญหาไม่มีใครมาดูสภาพปัญหาที่แท้จริง ซึ่งทางพรรคจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการชี้ให้รัฐบาลเห็นปัญหา พร้อมข้อเสนอแนะเพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้
“น่าเสียดาย เพราะนายอภิสิทธิ์ได้เคยสะท้อนปัญหาผ่านนายยงยุทธ ตั้งแต่ปัญหาพึ่งเริ่มต้น ถ้ารัฐบาลใส่ใจและตระหนักถึงความสำคัญก็จะไม่ลุกลามเหมือนที่เป็นอยู่ขณะนี้ อยากให้ประชาชนเข้าใจด้วยว่าคลองประปาไม่ใช่ช่องทางระบายน้ำ แต่เป็นแหล่งวัตถุดิบในการผลิตน้ำประปา คนกรุงเทพก็มีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพน้ำ ดังนั้น จึงต้องเร่งปิดช่องบริเวณไซฟ่อนด่วนเพื่อไม่ให้น้ำจากคลองเชียงรากไหลเข้ามาอีก หวังว่าในครั้งนี้ที่พรรคเห็นปัญหาและจะแจ้งไปยังนายกฯ จะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลในการเข้ามาแก้ปัญหานี้เร่งด่วนก่อนคนกรุงเทพจะต้องอยู่ในสภาพไม่มีน้ำกินน้ำใช้” นายกรณ์ ระบุ