กรมควบคุมโรค ประกาศร่วมมือเป็นภาคีเครือข่ายกับร่วมสัมมนาวิชาการเพื่อพัฒนาคุณภาพบริการด้านเอชไอวีของโรงพยาบาลกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ มุ่งสู่คุณภาพการดูแลด้านเอชไอวี
วันนี้ (8 ส.ค.) โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตันฯ กรุงเทพฯ นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาวิชาการ การพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ระดับประเทศ ครั้งที่ 3 ว่า จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทยล่าสุด (31 มีนาคม 2554) พบว่ามีผู้ป่วยเอดส์จำนวน 372,874 ราย เสียชีวิตแล้ว 98,153 ราย แนวโน้มของผู้ป่วยเอดส์และผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ลดลงกว่าในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากการรักษาด้วยยาต้านไวรัสทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อแยกตามอายุแล้ว ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงานและวัยเจริญพันธุ์ (15-59 ปี) ร้อยละ 95 ซึ่งพบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 30-34 ปี ร้อยละ 25 รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 25-29 ปี ร้อยละ 22 และกลุ่มอายุ 35-39 ปี ร้อยละ 18 ตามลำดับ ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่มีอาชีพใช้แรงงานร้อยละ 46 รองลงมาเป็นอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 20
นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดการสัมมนาวิชาการ การพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ระดับประเทศ ครั้งที่ 3 หัวข้อหลักของการสัมมนา คือ “กระบวนทัศน์ใหม่ : ก้าวต่อไปสู่การรับรองคุณภาพ” โดยเป็นความร่วมมือของ 4 หน่วยงานหลัก คือ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข ผู้เข้าประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1-12 เครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ จากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ ผู้แทนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั้ง 13 สาขา และส่วนกลาง ผู้แทนจากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) ผู้แทนจากศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข เครือข่ายผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย เครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านคุณภาพการให้การปรึกษา ผู้แทนภาคประชาสังคม คณะศึกษาดูงานจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว วิทยากร และผู้นำเสนอผลงานทางวิชาการ รวมแล้วประมาณ 1,262 คน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้อนาคตของงานคุณภาพเอชไอวี/เอดส์อยู่ที่การสร้างระบบบริการที่มีความเข้าใจในมิติด้านวัฒนธรรม จิตวิญญาณ และความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่พัฒนาคุณภาพทางด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงเข้ากับงานพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลด้วยดังนั้นความสำเร็จของการพัฒนาคุณภาพขึ้นอยู่กับความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดการมีส่วนร่วมของเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ญาติและชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาผู้ให้การดูแลต้องเข้าใจทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ สามารถพัฒนากระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานที่มีในโรงพยาบาล โดยสามารถใช้เครื่องมือวัด/ประเมินศักยภาพการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ และพัฒนาคุณภาพบริการได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ รวมถึงสามารถใช้ชีวิตในชุมชนและสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ถูกตีตราและถูกเลือกปฏิบัติจากคนในสังคม และชุมชนในพื้นที่ประเทศไทย
วันนี้ (8 ส.ค.) โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตันฯ กรุงเทพฯ นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาวิชาการ การพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ระดับประเทศ ครั้งที่ 3 ว่า จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทยล่าสุด (31 มีนาคม 2554) พบว่ามีผู้ป่วยเอดส์จำนวน 372,874 ราย เสียชีวิตแล้ว 98,153 ราย แนวโน้มของผู้ป่วยเอดส์และผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ลดลงกว่าในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากการรักษาด้วยยาต้านไวรัสทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อแยกตามอายุแล้ว ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงานและวัยเจริญพันธุ์ (15-59 ปี) ร้อยละ 95 ซึ่งพบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 30-34 ปี ร้อยละ 25 รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 25-29 ปี ร้อยละ 22 และกลุ่มอายุ 35-39 ปี ร้อยละ 18 ตามลำดับ ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่มีอาชีพใช้แรงงานร้อยละ 46 รองลงมาเป็นอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 20
นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดการสัมมนาวิชาการ การพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ระดับประเทศ ครั้งที่ 3 หัวข้อหลักของการสัมมนา คือ “กระบวนทัศน์ใหม่ : ก้าวต่อไปสู่การรับรองคุณภาพ” โดยเป็นความร่วมมือของ 4 หน่วยงานหลัก คือ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข ผู้เข้าประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1-12 เครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ จากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ ผู้แทนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั้ง 13 สาขา และส่วนกลาง ผู้แทนจากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) ผู้แทนจากศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข เครือข่ายผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย เครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านคุณภาพการให้การปรึกษา ผู้แทนภาคประชาสังคม คณะศึกษาดูงานจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว วิทยากร และผู้นำเสนอผลงานทางวิชาการ รวมแล้วประมาณ 1,262 คน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้อนาคตของงานคุณภาพเอชไอวี/เอดส์อยู่ที่การสร้างระบบบริการที่มีความเข้าใจในมิติด้านวัฒนธรรม จิตวิญญาณ และความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่พัฒนาคุณภาพทางด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงเข้ากับงานพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลด้วยดังนั้นความสำเร็จของการพัฒนาคุณภาพขึ้นอยู่กับความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดการมีส่วนร่วมของเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ญาติและชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาผู้ให้การดูแลต้องเข้าใจทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ สามารถพัฒนากระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานที่มีในโรงพยาบาล โดยสามารถใช้เครื่องมือวัด/ประเมินศักยภาพการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ และพัฒนาคุณภาพบริการได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ รวมถึงสามารถใช้ชีวิตในชุมชนและสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ถูกตีตราและถูกเลือกปฏิบัติจากคนในสังคม และชุมชนในพื้นที่ประเทศไทย