เปิดใจ‘รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช’
มองก้าวใหม่ของ “สวนสุนันทา”
ศิริรัตน์ สวัสดิ์หว่าง
ทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยกำลังเร่งรัดปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาตนเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจใหม่ และสังคมฐานความรู้ เพื่อให้ประเทศมีศักยภาพในการแข่งขันทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการศึกษา มหาวิทยาลัยถือเป็นขุมกำลังทางปัญญาที่จะชี้นำสังคมไปในทิศทางที่ถูกต้อง
รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา (มร.สส.) มองว่า มร.สส.หลีกเลี่ยงไม่ได้จึงจำเป็นต้องเร่งรัดพัฒนา และปรับเปลี่ยนการจัดการศึกษาและการเรียนการสอน เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง จุดเริ่มต้นสำคัญคือต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการที่ดีและการใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุก เพื่อให้การจัดการศึกษามีคุณภาพ สนองตอบความต้องการของสังคม และสามารถแข่งขันกับมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศในท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์
รศ.ดร.ช่วงโชติ กล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ เพื่อการพัฒนามหาวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2554 ว่า เน้นความเป็นเลิศ 4 ด้าน คือ วิทยาศาสตร์สุขภาพ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ศิลปะการแสดง และการพัฒนาครูสู่มืออาชีพ พร้อมคัดเลือก 1 สาขา 1 คณะ สู่ความเป็นเลิศ
สำหรับกลุ่มที่ 1 ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เน้นการผลิตบัณฑิต วิจัย และพัฒนา และการบริการทางวิชาการ ในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ การดูแลสุขภาพ กายภาพบำบัด การพยาบาล และแพทย์ทางเลือก เพื่อพัฒนายกมาตรฐานการดูแลรักษาสุขภาพตามภูมิปัญญาไทยสู่สากล
กลุ่มที่ 2 ด้านอุตสาหกรรมบริการ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวการโรงแรมและที่พัก เน้นความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรมและหารบริการ ได้แก่ อาหารวังสวนสุนันทา อาหารประจำท้องถิ่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคารและที่พัก ให้แก่ชุมชนและท้องถิ่นให้สู่มาตรฐานสากล และเป็นมืออาชีพ เพิ่มรายได้ สร้างมูลค่าให้แก่ชุมชน ตั้งเป้าหมายเพิ่ม
กลุ่มที่ 3 ด้านศิลปะ วัฒนธรรม สื่อสาร บันเทิง และการแสดง (Edutainment Centre) เน้นความเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแสดงละคร สื่อสารการบันเทิง การผลิตและสร้างภาพยนตร์ โทรทัศน์ การออกแบบกราฟิกและสื่อประสม การจำลองภาพ และแพร่ภาพและเสียงผ่านระบบสื่อดิจิตอล (New media)
กลุ่มที่ 4 ด้านผลิตครูและพัฒนาครูสู่มืออาชีพ เน้นการพัฒนาคุณภาพการผลิตครูและพัฒนาครูประจำการให้มีคุณภาพและสู่ความเป็นครูมืออาชีพ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคมศาสตร์ และกาออกแบบและเทคโนโลยี รวมทั้งการพัฒนารูปแบบโรงเรียนต้นแบบให้มีคุณภาพและมาตรฐานสากล ตั้งเป้าสร้างโรงเรียนต้นแบบปีละ 2 โรงเรียน
รศ.ดร.ช่วงโชติ บอกอีกว่า ในปีการศึกษา 2554 มร.สส. จะเปิดรับสมัครนักศึกษาเพิ่ม ปีละ 30% ประมาณกลุ่มละ 500 คนต่อปี และ ไม่เกิน 4,000 คนต่อปีการศึกษา นอกจากนี้ยังได้กำหนดกฎเกณฑ์การคัดเลือก 1 สาขา 1 คณะ สู่ความเป็นเลิศ เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยตั้งเป้าในปี 2554-2556 โดยกำหนดคุณสมบัติให้กับสาขาและคณะที่ถูกคัดเลือกว่าจะต้องอยู่ในแผนยุทธ์ศาสตร์ 4 กลุ่ม และเป็นสาขาที่ตรงกับความต้องการของตลาดและสังคม ทั้งในปัจจุบัน อนาคต และทิศทางการพัฒนาประเทศ มีความโดดเด่นทั้งนักศึกษาและอาจารย์
อธิการบดี มร.สส กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่จะพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาให้ความเป็นเลิศทางสากล หรือระดับนานาชาติ เน้นการสร้างเรียนรู้นอกห้องเรียน และสร้างผลงานให้เป็นที่รู้จักตั้งแต่ระดับอุดมศึกษา ระดับชาติ ระดับเอเชีย และระดับนานาชาติ
“คาดหวังว่า ภายใน 3 ปี เราจะมี 1 สาขา 1 คณะที่สามารถนำสู่ระดับนานาชาติได้ เด็กนักศึกษาทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความสามารถ เราพยายามที่จะให้ทุกหน่วยงาน ตั้งแต่คณบดี หัวหน้าสาขา และคณาจารย์ และนักศึกษา ร่วมกันสร้างผลงานทั้งระดับอุดมศึกษา ระดับชาติ ซึ่งทั้งนี้จะเป็นหน้าที่ของคณบดี หัวหน้าสาขา และอาจารย์สาขาที่ต้องนำเสนอโครงการ และแผนพัฒนาสาจาสู่ความเป็นเลิศ ภายใน 3 ปี ทั้งด้านการเรียนการสอน การวิจัย และการบริการทางวิชาการ ตลอดจนการทำนุบำรุง” รศ.ดร.ช่วงโชติทิ้งท้าย
