กรมอนามัยการันตีความสะอาด ปลอดภัยให้ผู้บริโภคด้วยบัตรผู้สัมผัสอาหารที่มอบให้แก่ผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรของกรมอนามัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค พร้อมเน้นย้ำให้คนไทยใส่ใจสุขอนามัยด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ป้องกันเชื้ออี.โคไล
ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังความปลอดภัยเชื้ออี.โคไลในร้านอาหารว่า กรมอนามัยมีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนให้สถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหาร เพื่อเป็นการรับประกันความสะอาด ปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้ออี.โคไลในขณะนี้ร้านอาหารเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายของกรมอนามัยที่ต้องมีการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารและน้ำ เพื่อลดการปนเปื้อนของเชื้อดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ ทำให้ขณะนี้มีร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารทั่วประเทศได้มาตรฐานตามโครงการอาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste) ร้อยละ 86.13 แบ่งเป็นร้านอาหาร จำนวน 42,211 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 86.06 และแผงลอยจำหน่ายอาหาร จำนวน 78,067 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 86.17
ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อว่า ผู้สัมผัสอาหารถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่อาจจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคสู่ผู้บริโภคได้ หากมีพฤติกรรมด้านสุขาภิบาลอาหารที่ไม่ถูกต้อง ในปี 2553 ที่ผ่านมา กรมอนามัยจึงได้จัดทำหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารขึ้น เพื่อให้ผู้สัมผัสอาหารมีความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ และสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานดียิ่งขึ้น โดยผู้สัมผัสอาหารที่ผ่านหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารจะได้รับบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นมืออาชีพด้านความปลอดภัยของอาหาร ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวมั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย
ดร.นพ.สมยศ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมอนามัยได้มอบบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารให้แก่ผู้ผ่านการอบรมในจังหวัดตรังเป็นจังหวัดแรก โดยมีผู้รับมอบบัตรทั้งสิ้น 385 คน และล่าสุดได้มอบบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารตามมาตรฐานของกรมอนามัย จำนวน 348 คน ให้กับพนักงานของบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งรับผิดชอบในฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ประกอบด้วย ผู้เตรียม ผู้ปรุงประกอบ ผู้จำหน่าย ผู้ให้บริการ และพนักงานทำความสะอาด พร้อมทั้งมีแผนขยายการมอบบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารให้ครอบคลุมร้านอาหารต่างๆ มากขึ้น
“ทั้งนี้ บัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารถือเป็นการรับประกันในเรื่องความสะอาด ปลอดภัย ด้านสุขาภิบาลอาหารและสุขอนามัย อันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้รับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานด้านอาหารต่างๆ ที่ต้องการพัฒนาพนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ และสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนผู้บริโภคก็ต้องมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมเช่นเดียวกัน โดยต้องรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำที่สะอาด ใช้ช้อนกลางทุกครั้งที่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ที่สำคัญหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำทุกครั้งทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร และหลังการใช้ส้วม จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้ออี.โคไลได้” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว
ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังความปลอดภัยเชื้ออี.โคไลในร้านอาหารว่า กรมอนามัยมีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนให้สถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหาร เพื่อเป็นการรับประกันความสะอาด ปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้ออี.โคไลในขณะนี้ร้านอาหารเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายของกรมอนามัยที่ต้องมีการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารและน้ำ เพื่อลดการปนเปื้อนของเชื้อดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ ทำให้ขณะนี้มีร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารทั่วประเทศได้มาตรฐานตามโครงการอาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste) ร้อยละ 86.13 แบ่งเป็นร้านอาหาร จำนวน 42,211 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 86.06 และแผงลอยจำหน่ายอาหาร จำนวน 78,067 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 86.17
ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อว่า ผู้สัมผัสอาหารถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่อาจจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคสู่ผู้บริโภคได้ หากมีพฤติกรรมด้านสุขาภิบาลอาหารที่ไม่ถูกต้อง ในปี 2553 ที่ผ่านมา กรมอนามัยจึงได้จัดทำหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารขึ้น เพื่อให้ผู้สัมผัสอาหารมีความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ และสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานดียิ่งขึ้น โดยผู้สัมผัสอาหารที่ผ่านหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารจะได้รับบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นมืออาชีพด้านความปลอดภัยของอาหาร ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวมั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย
ดร.นพ.สมยศ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมอนามัยได้มอบบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารให้แก่ผู้ผ่านการอบรมในจังหวัดตรังเป็นจังหวัดแรก โดยมีผู้รับมอบบัตรทั้งสิ้น 385 คน และล่าสุดได้มอบบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารตามมาตรฐานของกรมอนามัย จำนวน 348 คน ให้กับพนักงานของบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งรับผิดชอบในฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ประกอบด้วย ผู้เตรียม ผู้ปรุงประกอบ ผู้จำหน่าย ผู้ให้บริการ และพนักงานทำความสะอาด พร้อมทั้งมีแผนขยายการมอบบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารให้ครอบคลุมร้านอาหารต่างๆ มากขึ้น
“ทั้งนี้ บัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารถือเป็นการรับประกันในเรื่องความสะอาด ปลอดภัย ด้านสุขาภิบาลอาหารและสุขอนามัย อันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้รับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานด้านอาหารต่างๆ ที่ต้องการพัฒนาพนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ และสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนผู้บริโภคก็ต้องมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมเช่นเดียวกัน โดยต้องรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำที่สะอาด ใช้ช้อนกลางทุกครั้งที่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ที่สำคัญหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำทุกครั้งทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร และหลังการใช้ส้วม จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้ออี.โคไลได้” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว
