xs
xsm
sm
md
lg

แพทยสภาหนุนเบิกจ่ายยาข้อเข่าเสื่อมแบบมีเงื่อนไข ผอ.รพ.รามาฯ เสนอให้ผู้ป่วยร่วมจ่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
แพทยสภายืนกรานให้เบิกจ่ายยาข้อเข่าเสื่อม แบบมีเงื่อนไข  ผอ.รพ.รามาฯ เสนอ หากต้องการคุมค่ายาให้ผู้ป่วยร่วมจ่าย ในส่วนของยาต้นตำหรับ

นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวถึงกรณีที่ สวัสดิการรักษาพยาบาลคณะกรรมการบริหารระบบข้าราชการ เกี่ยวกับการควบคุมการเบิกจ่ายกลุ่มยาบรรเทาอาการข้อเสื่อม (กลูโคซามีน) เห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานโดยเชิญผู้แทนจากแพทยสภา คณะทำงานวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง นำหลักฐานที่เป็นผลทางการรักษาจากการใช้ยามาพิสูจน์ให้ชัดเจนสรุปว่าควรให้มีการสั่งเบิกจ่ายยาดังกล่าวต่อไปหรือไม่ หลังจากมีการร้องเรียนจำนวนมาก ว่า แพทยสภา ยืนยันความเห็นตามที่ได้เคยส่งหนังสือ มติของคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาทบทวนและรับรองประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของยาแบบองค์รวม ซึ่งมีองค์ประกอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบ ทั้งราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย วิทยาลัยแพทย์ออโธปิดิกส์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตัวแทนคณะแพทยศาสตร์จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล  โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป (รพ.ศ/รพ.ท.) ฯลฯ  ซึ่งมีความเห็นร่วมกัน

นพ.สัมพันธ์  กล่าวว่า ข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการ ได้เห็นพ้องกันว่า ผลการวิจัยในส่วนยากลูโคซามีนนั้น มีทั้งเห็นว่าได้ผล และไม่ได้ผล ซึ่งข้อเสนอได้อิงประโยชน์ผู้ป่วยและทำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด คือ ให้สั่งจ่ายได้แบบมีเงื่อนไข ตามที่ทุกฝ่ายเห็นร่วมกันว่า ควรจ่ายให้แก่ผู้ป่วยที่มีอาการในระยะกลาง ระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน และไม่จ่ายยาเพื่อป้องกัน หรือ ให้แก่ผู้ป่วยอาการระยะท้าย เพราะไม่มีประโยชน์ ซึ่งเชื่อว่า การสั่งจ่ายแบบมีเงื่อนไข จะสามารถช่วยลดงบประมาณของกรมบัญชีกลางลงได้ รวมทั้งไม่ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์จากการที่ตัดสิทธิประโยชน์ดังกล่าวทั้งหมด  ทั้งนี้ เห็นด้วยกับการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกรมบัญชีกลางและหน่วยงานอื่นๆ  เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปเพราะความเห็นจากแพทยสภา ได้มาจากการหารือร่วมกันจากทุกฝ่าย ทั้งผู้จ่ายยา ผู้ใช้ยา นักวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ และ อย.
 

นพ.ธันย์   สุภัทรพันธุ์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า  เมื่อการหารือยังไม่ได้ข้อสรุปก็ต้องยึดตามระเบียบเดิมของกรมบัญชีกลาง โดยผู้ป่วยทุกคนที่เข้ารับการรักษาจะได้รับแจ้งจากแพทย์ ว่า ไม่สามารถเบิกยาดังกล่าวได้ ต้องจ่ายเองทั้งหมด  แต่จะมีทางเลือกโดยการใช้ยาในกลุ่ม Local made ซึ่งเป็นยาที่หมดสิทธิบัตรแล้ว และนำเข้าวัตถุดิบมาจากประเทศอื่น แต่มาบรรจุในประเทศไทย โดยราคาถูกกว่ายาต้นแบบมาก อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนมองว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ ควรให้ผู้ป่วยใช้ยากลุ่มข้อเข่าเสื่อม แต่เป็นกลุ่ม Local made แทน และต้องตั้งราคากลางเพื่อควบคุมคุณภาพยา ซึ่งข้อเสนอนี้ทางกรมบัญชีกลางทราบดี และเคยมีการหารือแล้ว ส่วนหากจะใช้ยาต้นตำรับ อาจให้ผู้ป่วยร่วมจ่ายด้วย
 
กำลังโหลดความคิดเห็น