เครือข่ายงดเหล้าเร่ง รบ.จัดระเบียบเหล้าช่วงสงกรานต์และเทศกาลต่างๆ เครือข่ายงดเหล้า ยื่นข้อเสนอถึง รบ.จัดระเบียบเล่นน้ำสงกรานต์ เร่งออกมาตรการห้ามดื่มแอลกอฮอล์บนรถ ชม รบ.ลดสถิติคนตายช่วงสงกรานต์ได้ 25% พร้อมแสดงละครล้อเลียนการเล่นสงกรานต์ที่ไร้สติ อนาจาร
วันนี้ (20 เม.ย.2554) ที่ประตูด้านหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. เครือข่ายองค์กรงดเหล้า พร้อมด้วยเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กว่า 50 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาล เพื่อขอบคุณภาครัฐที่ร่วมรณรงค์ทำให้อุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ลดลง พร้อมทั้งเสนอมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดปัญหาให้มีผลในสงกรานต์ปีต่อไป นอกจากนี้ทางเครือข่ายละคร DDD ได้ร่วมกันแสดงละครเพื่อล้อเลียนการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ไร้สติ อนาจาร ตีกัน ทำลายประเพณีไทย อีกด้วย
โดย พล.ต.สนั่น แสดงความชื่นชมมาตรการที่นำเสนอ พร้อมกล่าวว่า จะมีการเพิ่มมาตรการจับกุมผู้ค้าเหล้าปั่น โดยจะเริ่มทันที เพราะปัจจุบันมีเยาวชนเข้าไปดื่มและเกิดปัญหาตามมาจำนวนมาก
นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า ทางเครือข่ายขอชื่นชมทุกภาคส่วนที่ร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา จากภาพรวมมียอดอุบัติเหตุลดลงจากปีที่แล้วถึง 301 ครั้ง หรือ 8.56% ยอดเสียชีวิตลดลง 90 ราย หรือ 24.93% และบาดเจ็บลดลง 326 ราย หรือ 8.57 % จึงเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีการปรับตัวและมีทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามเพื่อให้มาตรการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อรักษาเทศกาลสงกรานต์ ให้เป็นวัฒนธรรมอันดีงาม ป้องกันไม่ให้สังคมเสื่อมเสีย ทำลายการท่องเที่ยว และเพื่อไม่ให้เกิดพื้นที่ปัญหาซึ่งขาดคนรับผิดชอบ จึงขอเสนอมาตรการเพิ่มเติมดังนี้ 1.เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อกำหนดมาตรการ ป้องกันปัญหาจากการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ไม่ปลอดภัย ยั่วยุ อนาจาร โดยกำหนดมาตรการที่ชัดเจนก่อนจะถึงเทศกาลสงกรานต์ในปีถัดไป เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และการปรับตัวของประชาชน ธุรกิจ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
นายธีระ กล่าวว่า สำหรับข้อ 2 .ขอให้ทุกจังหวัดกำหนดพื้นที่เล่นน้ำที่ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (โซนนิ่ง) และให้พิจารณาบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมมิให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์ที่อันตราย โดยเฉพาะบนรถหรือท้ายกระบะ ในทุกจังหวัด (ตามมติ ครม. 20 เมษายน 2553) และไม่ออกใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบชั่วคราวในบริเวณ และรอบๆเขตโซนนิ่ง 3. เร่งผ่านมาตรการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนรถหรือท้ายกระบะ ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว 4.เร่งรัดในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยเฉพาะหน้าที่ของผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493 รวมถึงประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ว่าด้วยการควบคุมเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ 5.ขอให้พิจารณาจัดสรรส่วนแบ่งค่าปรับ จากความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เพื่อสนับสนุนการทำงานและเป็นขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย ในลักษณะเดียวกับส่วนแบ่งค่าปรับความผิดการจราจรทางบก
"ทั้งนี้จากการสังเกตการณ์กรณีหาเสียงของพรรคการเมืองในปัจจุบันยังพบว่า ไม่มีพรรคใดกล่าวถึงนโยบายเรื่องการป้องกันและปราบปรามปัยหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย แสดงให้เห็นเป้นไปได้ว่า ปัญหาดังกล่าว ยังถูกมองข้ามดังนั้น การขับเคลื่อนของเครือข่ายฯหลังจากนี้น่าจะเป็นการกระตุ้นพรรคการเมืองให้นำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นหลักๆ เพื่อให้ตั้งเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรมกว่าที่เป็นอยู่ " นายธีระ กล่าว
นางสาวเกสร ศรีอุทิศ ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของอุบัติเหตุและเสียชีวิตยังมาจากการเมาสุรา ซึ่งเป็นสถิติที่สะท้อนประสิทธิภาพการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการเอาจริงกับปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีอำนาจโดยตรงในการผลักดันมาตรการเพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุ และส่งผลให้ผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงตามไปด้วย ทั้งนี้จากการสำรวจความคิดเห็น ของชาว กทม. พบว่า กว่า 85 % เห็นด้วยกับมาตรการห้ามดื่มเหล้าบนรถหรือท้ายกระบะขณะอยู่บนที่หรือทางสาธารณะ และหากมีการบังคับใช้ออกเป็นกฎหมาย ไม่เพียงแต่จะลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์เท่านั้น แต่จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกเทศกาลด้วย ทั้งนี้เชื่อว่าในปีต่อไปหากทุกจังหวัดสามารถจัดพื้นที่สงกรานต์ปลอดเหล้าได้เช่นที่ จ.ขอนแก่น จ.เชียงใหม่ เชื่อว่าปัญหาแบบที่พบในกทม.เช่น สีลม หรือ จ.พิจิตร ก็คงจะเบาบางลงไปเพราะคนมีสติมากขึ้น
นางสาวจิราภรณ์ กมลรังสรรค์ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า การเล่นน้ำสงกรานต์ที่ไม่ปลอดภัย ยั่วยุ อนาจาร ตามที่เป็นข่าว ในถนนสีลม โดยพฤติกรรมการเล่นน้ำของวัยรุ่นหญิง 3 คน เลยเถิดถึงขั้นอนาจารและเต้นโชว์หน้าอก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจอย่างมาก เพราะเป็นการทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้เสื่อมไป จึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจริงจังในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมกับควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีการออกมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่เล่นน้ำและบริเวณใกล้เคียง เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิดเรื่องดังกล่าวแล้ว ยังเป็นที่มาของการทะเลาะวิวาท และอุบัติเหตุอีกด้วย นอกจากนี้ขอให้อุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ มีจิตสำนึกเห็นแก่เด็กและเยาวชน ไม่ทำการตลาดแบบ “เซ็กซี่มาร์เกตติ้ง” เพราะจะนำไปสู่การเลียนแบบของเด็ก แม้จะกระตุ้นยอดขายได้แต่ความเจ็บปวด ความสูญเสียก็จะเกิดขึ้น