ทนายความของนายกสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ ขอเลื่อนคดีฟ้องแกนนำเครือข่ายผู้ป่วยฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาอีกรอบ อ้างยังไม่ได้รับเอกสารตามหมายเรียก ขณะที่ศาลเสนอให้มีการไกล่เกลี่ย
จากกรณีที่ นายธีระ ฉกาจนโรดม นายกสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (พรีม่า) ได้ยื่นฟ้องกล่าวโทษ นายบริพัตร ดอนมอญ ประธานมูลนิธิเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย นายฐากูร สการกุล ประธานเครือข่ายผู้ป่วยจิตเวช และ นางพรรณธร จงสุวัฒน์ สมาชิกเครือข่ายเพื่อนมะเร็ง ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารจากการที่ผู้นำเครือข่ายผู้ป่วยทั้งสาม และชมรมเพื่อนโรคไตได้ร้องสภาเภสัชกรรมให้สอบจรรยาบรรณวิชาชีพเภสัชกรรมของ นายธีระ ฉกาจนโรดม ฐานให้ความเห็นเกี่ยวกับการประกาศบังคับใช้สิทธิ (ซีแอล) ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคมและอาจไม่เหมาะสมในฐานะการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพนั้น
ในการไต่สวนมูลฟ้องวันนี้ (7 เม.ย.) ที่ศาลแขวงนนทบุรี นายณรงค์ฤทธิ์ เพชรฤทธิ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายธีระ ฉกาจนโรดม ได้ขอเลื่อนการไต่สวนโดยอ้างว่ายังไม่ได้รับเอกสารตามหมายเรียกที่ขอไปยังสภาเภสัชกรรม ขณะที่ผู้นำเครือข่ายผู้ป่วย นายบริพัตร ดอนมอญ ประธานมูลนิธิเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย นายฐากูร สการกุล ประธานเครือข่ายผู้ป่วยจิตเวช ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ ส่วนนางพรรณธร จงสุวัฒน์ สมาชิกเครือข่ายเพื่อนมะเร็ง อยู่ระหว่างการรักษาตัวจึงส่งทนายความมา ซึ่งทนายฝ่ายจำเลยทั้ง 3 แถลงร่วมกันว่าพร้อมที่จะให้ศาลไต่สวนมูลฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลเสนอให้มีการไกล่เกลี่ย โดยทนายฝ่ายโจทก์ต้องการให้เครือข่ายผู้ป่วยลงข้อความโฆษณาในวารสารสภาเภสัชกรรมว่า ร้องเรียนไปเพราะเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ผู้นำเครือข่ายผู้ป่วยฯ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ใช้สิทธิในฐานะประชาชนโดยสุจริต และจะเห็นชอบให้ลงข้อความในวารสารสภาเภสัชกรรมว่า ต่างฝ่ายต่างใช้สิทธิของตน เรื่องจึงเป็นอันยุติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทนายฝ่ายโจทก์ได้เพียงแต่รับปากจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับนายธีระ ฉกาจนโรดม ลูกความก่อน โดยอ้างว่า นายธีระอยู่ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ขอให้นายธีระกล้าที่จะมาปรากฏตัวต่อศาล เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่กระบวนการสอบสวนในชั้นสภาเภสัชกรรม นายธีระไม่เคยมาด้วยตัวเอง แต่มอบหมายให้ทนายความทำแทนตลอด
ในที่สุด ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนการพิจารณาไปในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน โดยศาลกำชับทนายความของนายธีระ ฉกาจนโรดม ให้รับติดตามเอกสารและพร้อมนำสืบในนัดต่อไป โดยจะไม่มีการให้เลื่อนไต่สวนอีกแล้ว
จากกรณีที่ นายธีระ ฉกาจนโรดม นายกสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (พรีม่า) ได้ยื่นฟ้องกล่าวโทษ นายบริพัตร ดอนมอญ ประธานมูลนิธิเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย นายฐากูร สการกุล ประธานเครือข่ายผู้ป่วยจิตเวช และ นางพรรณธร จงสุวัฒน์ สมาชิกเครือข่ายเพื่อนมะเร็ง ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารจากการที่ผู้นำเครือข่ายผู้ป่วยทั้งสาม และชมรมเพื่อนโรคไตได้ร้องสภาเภสัชกรรมให้สอบจรรยาบรรณวิชาชีพเภสัชกรรมของ นายธีระ ฉกาจนโรดม ฐานให้ความเห็นเกี่ยวกับการประกาศบังคับใช้สิทธิ (ซีแอล) ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคมและอาจไม่เหมาะสมในฐานะการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพนั้น
ในการไต่สวนมูลฟ้องวันนี้ (7 เม.ย.) ที่ศาลแขวงนนทบุรี นายณรงค์ฤทธิ์ เพชรฤทธิ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายธีระ ฉกาจนโรดม ได้ขอเลื่อนการไต่สวนโดยอ้างว่ายังไม่ได้รับเอกสารตามหมายเรียกที่ขอไปยังสภาเภสัชกรรม ขณะที่ผู้นำเครือข่ายผู้ป่วย นายบริพัตร ดอนมอญ ประธานมูลนิธิเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย นายฐากูร สการกุล ประธานเครือข่ายผู้ป่วยจิตเวช ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ ส่วนนางพรรณธร จงสุวัฒน์ สมาชิกเครือข่ายเพื่อนมะเร็ง อยู่ระหว่างการรักษาตัวจึงส่งทนายความมา ซึ่งทนายฝ่ายจำเลยทั้ง 3 แถลงร่วมกันว่าพร้อมที่จะให้ศาลไต่สวนมูลฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลเสนอให้มีการไกล่เกลี่ย โดยทนายฝ่ายโจทก์ต้องการให้เครือข่ายผู้ป่วยลงข้อความโฆษณาในวารสารสภาเภสัชกรรมว่า ร้องเรียนไปเพราะเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ผู้นำเครือข่ายผู้ป่วยฯ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ใช้สิทธิในฐานะประชาชนโดยสุจริต และจะเห็นชอบให้ลงข้อความในวารสารสภาเภสัชกรรมว่า ต่างฝ่ายต่างใช้สิทธิของตน เรื่องจึงเป็นอันยุติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทนายฝ่ายโจทก์ได้เพียงแต่รับปากจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับนายธีระ ฉกาจนโรดม ลูกความก่อน โดยอ้างว่า นายธีระอยู่ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ขอให้นายธีระกล้าที่จะมาปรากฏตัวต่อศาล เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่กระบวนการสอบสวนในชั้นสภาเภสัชกรรม นายธีระไม่เคยมาด้วยตัวเอง แต่มอบหมายให้ทนายความทำแทนตลอด
ในที่สุด ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนการพิจารณาไปในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน โดยศาลกำชับทนายความของนายธีระ ฉกาจนโรดม ให้รับติดตามเอกสารและพร้อมนำสืบในนัดต่อไป โดยจะไม่มีการให้เลื่อนไต่สวนอีกแล้ว