เลขาฯ สปสช.เผย เตรียมทบทวนเกณฑ์การให้ยาต้านไวรัสเอดส์ 18 เม.ย.นี้ หลังคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์ หวั่นให้ยาเร็วอาจเสี่ยงดื้อยาเพิ่มขึ้น
วันนี้ (7 เม.ย.)นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เคยมีนโยบายเรื่องการเริ่มให้ยาแก่ผู้ติดเชื้อที่มีซีดีโฟร์ต่ำกว่า 350 จากเดิมที่กำหนดค่าซีดีโฟร์ที่ 200 ว่า เนื่องจากการประชุมของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์ ได้เคยประชุมย่อยเมื่อไม่นานมานี้ และมีฝ่ายที่เห็นคัดค้านเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นห่วงว่าจะมีอัตราการดื้อยาที่อาจเพิ่มมากขึ้น หากผู้ป่วยได้รับยาต้านไวรัสเร็ว ซึ่งเรื่องนี้ความจริงแล้ว คณะอนุกรรมการ ไม่ได้ถึงกับคัดค้าน 100% เพียงแต่ยังเห็นว่ามาตรฐานดังกล่าวยังไม่ควรใช้กับผู้ป่วยทุกคน แม้ว่าจะเป็นข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ตาม แต่สิ่งที่โต้แย้ง คือ ในผู้ป่วยเอชไอวีบางราย อาจมีข้อบ่งชี้ด้านสุขภาพอย่างอื่นที่ต้องเร่งให้ยา เช่น เป็นไวรัสอักเสบ อาจต้องให้ยาต้านไวรัสทันทีที่พบว่าค่าดีโฟร์ต่ำกว่า 350 โดยไม่ต้องรอให้ลดลงถึง 200 ขณะที่ผู้ป่วยรายอื่นที่ไม่มีปัญหาก็ควรให้ตามมาตรฐาน
นพ.วินัย กล่าวด้วยว่า จริงๆ เรื่องนี้ยังไม่เคยมีใครนำเข้าไปพูดในการประชุมบอร์ดเลย ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปข้อตกลงได้ ว่า จะแก้ไขมาตรฐานอีกหรือไม่ แต่การหารือเป็นแค่การหารือในส่วนของคณะอนุกรรมการเอดส์ เท่านั้น ทั้งนี้ ในวันที่ 18 เม.ย.ที่จะถึงนี้ บอร์ด สปสช.ซึ่งมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เป็นประธานจะมีการนำประเด็นนี้เข้าหารืออย่างเป็นทางการและจะชี้แจงผลการหารือให้ทราบอีกครั้ง เนื่องจากมีการประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วในการประชุมครั้งที่ผ่านมา เคยศึกษาเรื่องผลกระทบของการปรับเกณฑ์มาตรฐานการให้ยาต้านไวรัสแบบใหม่บ้างหรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า ครั้งที่ผ่านมาเราเพียงแต่เดินหน้าตามเกณฑ์ของ WHO เท่านั้น แต่เมื่อมีผู้โต้แย้งก็คงต้องพิจารณาอีกครั้ง ส่วนจะรื้อมาตรการใหม่หรือเปล่า ต้องรอมติที่ประชุม