ม็อบผู้ป่วย รพ.พระนั่งเกล้า ก่อตั้งชมรมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยฯ ลงความเห็นพอใจในการรักษาของ “หมอนภาพร” รวมตัวชุมนุม จวกสสจ.-รพ.ปกปิดผลสืบสวนข้อเท็จจริง แถมแจ้งความฐานหมิ่นประมาท เหมือนจงใจแกล้งคนไข้ ด้าน “ผอ.ธวัตชัย” ปัด ไม่ทราบผลสรุปของ คกก.สืบสวนฯ ยันการชุมนุมไม่ใช่ทางออก
จากกรณีที่เครือข่ายผู้ป่วย รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี เคยเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณ(สธ.) มีการสั่งย้าย นพ.ธวัตชัย วงค์คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ รพ.พระนั่งเกล้า ออกจากโรงพยาบาลที่สังกัดอยู่ และเรียกร้องให้มีคำสั่งย้าย พญ.นภาพร ลิมป์ปิยากร แพทย์อายุรกรรมที่อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีสั่งจ่ายยาเกินความจำเป็นนั้นกลับมา
ล่าสุด วันนี้ (8 มี.ค.) นายพัฒนพงษ์ เจียมเผ่า ตัวแทนผู้ป่วย กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ว่า รวมตัวกันจัดตั้งชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ป่วย นนทบุรี แล้วชุมนุมหน้าอาคารผู้ป่วยนอก รพ.พระนั่งเกล้า อีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้นำตัว พญ.นภาพร กลับมาประจำการที่ รพ.ดังเดิม โดยทาง นางจำเนียร เจียมอ่อน ในฐานะผู้ประสานงานของชมรมได้ทำเป็นแบบสอบถามจำนวนกว่า 1,000 ชุด เพื่อให้กรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับความพึงพอใจในการรับบริการด้านสุขภาพจาก พญ.นภาพร ซึ่งพบว่า ผู้ป่วยกว่า 90% มีความพึงพอใจในการรับบริการ ดังนั้นในระหว่างรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนและสมาชิกทราบว่า พญ.คนดังกล่าวมาประจำการในวันอังคาร-พุธ จึงได้มาพบแพทย์ตามนัด ซึ่งทุกคนคาดหวังว่าจะสามารถเข้ารับการรักษาได้โดยตรงตามวันและเวลาที่ระบุในใบนัด แต่สิ่งที่ได้รับ คือ ถูกพยาบาลและพนักงานของ รพ.ให้ใบลงทะเบียนใหม่ตั้งแต่เริ่มแรก หลายคนจึงต้องเลื่อนเวลาจากการตรวจภาคเช้าไปอยู่ภาคบ่าย จึงอยากตั้งคำถามกับ ผอ.รพ.ว่า การกระทำของบุคลากรนั้นเหมาะสมแล้วหรืออย่างไร อยากให้ ผอ.ธวัตชัย เข้ามาชี้แจงด้วยตนเอง
นายพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า ระหว่างที่ผู้ป่วยทุกคนเดือดร้อนกันมากๆ จึงได้รวมตัวกันชุมนุมหน้า รพ.อย่างต่อเนื่องกระทั่ง นพ.ธวัตชัย ได้แจ้งความตน ต่อสถานีตำรวจ อ.เมือง นนทบุรี (สภ.นนทบุรี) ในข้อหาหมื่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งทาง สภ.นนทบุรี ได้เชิญตนเข้าไต่สวนในวันที่ 10 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตามเรื่องการแจ้งความนั้นไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก แต่อยากให้ ผอ.ให้ความสำคัญกับความคืบหน้าของการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ พญ.นภาพร มากกว่า เพราะทางชมรมฯได้เคยสอบถามไปยัง คณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ที่มี นพ.สมศักดิ์ นุกูลอุดมพานิชย์ รองสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นนทบุรี แล้วทราบว่า ทาง คกก.ดังกล่าวได้ข้อสรุปมายัง รพ.พระนั่งเกล้าแล้ว ส่วนการเผยแพร่ข้อเท็จจริงเป็นหน้าที่ของ ผอ.ธวัตตชัย จึงอยากให้เจ้าตัวเร่งชี้แจงโดยเร็ว เพราะเคยบอกว่าผลการสืบสวนนั้นจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.ขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมานาน อยากทราบว่าแล้วอะไร คือ ความจริงที่ผู้ป่วยควรทราบ ซึ่งผอ.ควรที่จะเร่งอธิบาย ไม่ใช่มัวแต่กลั่นแกล้งผู้ป่วยให้เดือดร้อนเช่นนี้
“การกระทำของผู้บริหารไม่ควรเป็นอย่างนี้ ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไรควรที่จะต้องอธิบายต่อสังคมไม่ใช่เงียบ แล้วปล่อยให้พวกเรามาชุมนุมเรียกร้องอยู่ฝ่ายเดียว แล้วจ้องกลั่นแกล้งด้วยการแจ้งความเอาผิดเช่นนี้ ทำแบบนี้เหมือนโดยลูกความรับผิดชอบกลับไปกลับมาหาข้อยุติไม่ได้” นายพัฒนพงษ์
นพ.ธวัตชัย วงค์คงสวัสดิ์ ผอ.พระนั่งเกล้า กล่าวว่า การที่ตนต้องแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้ต้องการตอบโต้ผู้ป่วย แต่เห็นว่าการกดดันโดยการชุมนุมไม่ใช้ทางออกของปัญหา เพราะถึงอย่างไรก็ออกมาชี้ชัดตอนนี้ไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยอ้างว่า ตนกลั่นแกล้งนั้น ขอปฏิเสธเนื่องจากทาง รพ.มีระบบบริการที่เป็นธรรมอยู่แล้ว สำหรับข้อสรุปของ คกก.สืบสวนข้อเท็จจริงนั้นตนขอยืนยันว่ายังไม่ทราบเรื่อง แต่ถึงแม้จะมีผลที่แน่ชัด ก็เป็นเรื่องของ สสจ.ที่จะดำเนินการชี้แจง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ รพ.ทำได้ขณะนี้ คือ บริการผู้ป่วยตามความเหมาะสม และเดินหน้าให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อทีมสืบสวน สอบสวนเท่านั้น
จากกรณีที่เครือข่ายผู้ป่วย รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี เคยเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณ(สธ.) มีการสั่งย้าย นพ.ธวัตชัย วงค์คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ รพ.พระนั่งเกล้า ออกจากโรงพยาบาลที่สังกัดอยู่ และเรียกร้องให้มีคำสั่งย้าย พญ.นภาพร ลิมป์ปิยากร แพทย์อายุรกรรมที่อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีสั่งจ่ายยาเกินความจำเป็นนั้นกลับมา
ล่าสุด วันนี้ (8 มี.ค.) นายพัฒนพงษ์ เจียมเผ่า ตัวแทนผู้ป่วย กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ว่า รวมตัวกันจัดตั้งชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ป่วย นนทบุรี แล้วชุมนุมหน้าอาคารผู้ป่วยนอก รพ.พระนั่งเกล้า อีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้นำตัว พญ.นภาพร กลับมาประจำการที่ รพ.ดังเดิม โดยทาง นางจำเนียร เจียมอ่อน ในฐานะผู้ประสานงานของชมรมได้ทำเป็นแบบสอบถามจำนวนกว่า 1,000 ชุด เพื่อให้กรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับความพึงพอใจในการรับบริการด้านสุขภาพจาก พญ.นภาพร ซึ่งพบว่า ผู้ป่วยกว่า 90% มีความพึงพอใจในการรับบริการ ดังนั้นในระหว่างรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนและสมาชิกทราบว่า พญ.คนดังกล่าวมาประจำการในวันอังคาร-พุธ จึงได้มาพบแพทย์ตามนัด ซึ่งทุกคนคาดหวังว่าจะสามารถเข้ารับการรักษาได้โดยตรงตามวันและเวลาที่ระบุในใบนัด แต่สิ่งที่ได้รับ คือ ถูกพยาบาลและพนักงานของ รพ.ให้ใบลงทะเบียนใหม่ตั้งแต่เริ่มแรก หลายคนจึงต้องเลื่อนเวลาจากการตรวจภาคเช้าไปอยู่ภาคบ่าย จึงอยากตั้งคำถามกับ ผอ.รพ.ว่า การกระทำของบุคลากรนั้นเหมาะสมแล้วหรืออย่างไร อยากให้ ผอ.ธวัตชัย เข้ามาชี้แจงด้วยตนเอง
นายพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า ระหว่างที่ผู้ป่วยทุกคนเดือดร้อนกันมากๆ จึงได้รวมตัวกันชุมนุมหน้า รพ.อย่างต่อเนื่องกระทั่ง นพ.ธวัตชัย ได้แจ้งความตน ต่อสถานีตำรวจ อ.เมือง นนทบุรี (สภ.นนทบุรี) ในข้อหาหมื่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งทาง สภ.นนทบุรี ได้เชิญตนเข้าไต่สวนในวันที่ 10 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตามเรื่องการแจ้งความนั้นไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก แต่อยากให้ ผอ.ให้ความสำคัญกับความคืบหน้าของการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ พญ.นภาพร มากกว่า เพราะทางชมรมฯได้เคยสอบถามไปยัง คณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ที่มี นพ.สมศักดิ์ นุกูลอุดมพานิชย์ รองสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นนทบุรี แล้วทราบว่า ทาง คกก.ดังกล่าวได้ข้อสรุปมายัง รพ.พระนั่งเกล้าแล้ว ส่วนการเผยแพร่ข้อเท็จจริงเป็นหน้าที่ของ ผอ.ธวัตตชัย จึงอยากให้เจ้าตัวเร่งชี้แจงโดยเร็ว เพราะเคยบอกว่าผลการสืบสวนนั้นจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.ขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมานาน อยากทราบว่าแล้วอะไร คือ ความจริงที่ผู้ป่วยควรทราบ ซึ่งผอ.ควรที่จะเร่งอธิบาย ไม่ใช่มัวแต่กลั่นแกล้งผู้ป่วยให้เดือดร้อนเช่นนี้
“การกระทำของผู้บริหารไม่ควรเป็นอย่างนี้ ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไรควรที่จะต้องอธิบายต่อสังคมไม่ใช่เงียบ แล้วปล่อยให้พวกเรามาชุมนุมเรียกร้องอยู่ฝ่ายเดียว แล้วจ้องกลั่นแกล้งด้วยการแจ้งความเอาผิดเช่นนี้ ทำแบบนี้เหมือนโดยลูกความรับผิดชอบกลับไปกลับมาหาข้อยุติไม่ได้” นายพัฒนพงษ์
นพ.ธวัตชัย วงค์คงสวัสดิ์ ผอ.พระนั่งเกล้า กล่าวว่า การที่ตนต้องแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้ต้องการตอบโต้ผู้ป่วย แต่เห็นว่าการกดดันโดยการชุมนุมไม่ใช้ทางออกของปัญหา เพราะถึงอย่างไรก็ออกมาชี้ชัดตอนนี้ไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยอ้างว่า ตนกลั่นแกล้งนั้น ขอปฏิเสธเนื่องจากทาง รพ.มีระบบบริการที่เป็นธรรมอยู่แล้ว สำหรับข้อสรุปของ คกก.สืบสวนข้อเท็จจริงนั้นตนขอยืนยันว่ายังไม่ทราบเรื่อง แต่ถึงแม้จะมีผลที่แน่ชัด ก็เป็นเรื่องของ สสจ.ที่จะดำเนินการชี้แจง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ รพ.ทำได้ขณะนี้ คือ บริการผู้ป่วยตามความเหมาะสม และเดินหน้าให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อทีมสืบสวน สอบสวนเท่านั้น
