xs
xsm
sm
md
lg

รพ.พระนั่งเกล้า ย้ำย้าย “หมอนภาพร” รอผลสอบจริยธรรมใช้ยาเกินจำเป็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผอ.พระนั่งเกล้า ย้ำชัด กรณีสั่งหมอนภาพร ไปวัดแคนอก ไม่ได้ลงโทษ แต่ย้ายเเพราะรอผลสอบจริยธรรมกรณีใช้ยาเกินจำเป็น สูงถึง 1.8 ล้านบาท

จากกรณีที่นพ.ธวัตชัย วงศ์คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า มีคำสั่งย้ายพญ.นภาพร ลิมป์ปิยากร แพทย์แผนกอายุรกรรม ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชนวัดแคนอก เนื่องจากมีการเบิกจ่ายยาเกินความจำเป็น ทำให้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งไม่พอใจและเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม นพ.ธวัตชัย แถลงข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า การย้าย พญ.นภาพรไปยังศูนย์บริการสาธารณสุขไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรือลงโทษในข้อกล่าวหาการใช้ยาโดยไม่มีเหตุผลตามที่กรมบัญชีกลางมีหนังสือร้องให้ตรวจสอบ แต่เนื่องจาก พญ.นภาพร เป็นแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและมีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีนโยบายลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลใหญ่

นพ.ธวัตชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เคยมีหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับ พญ.นภาพร กรณีการใช้ยาเกินความจำเป็น ซึ่งทางโรงพยาบาลไดเข้าตรวจสอบและพบว่า มีการใช้ยาไม่มีเหตุผล โดยไม่มีการวินิจฉัยโรคและไม่มีข้อบ่งชี้สนับสนุนทางห้องปฏิบัติกา ซึ่งขณะนั้นตนได้ทำการตักเตือนและขอร้องไม่ให้ทำเช่นนั้นอีก โดยไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด กระทั่งกรมบัญชีกลางได้รับข้อมูลการใช้ยาไม่เหมาะสมของโรงพยาบาลและได้ทำการซุ่มตรวจการสั่งจ่ายยาของแพทย์ จำนวน 48 ราย ซึ่งพบว่ามีแพทย์บางคนใช้ยาไม่เหมาะสม จึงได้ขอเรียกเงินคืน จำนวน 2.2 ล้านบาท ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า พญ.นภาพร มีการใช้ยาไม่เหมาะสม โดยมีการสั่งจ่ายยาเพิ่มโปรตีน ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายเกินความจำเป็น คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.8 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลสรุป

“สิ่งที่อยากชี้แจง คือ พญ.นภาพร ไม่ได้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม การสั่งจ่ายยาโดยไม่มีการประเมิน จะส่งผลเสียต่อการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็เข้าใจดี มีเพียงผู้ป่วยบางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ ทั้งนี้อยากเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจากส่วนกลางเข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางโรงพยาบาลได้ทำหนังสือส่งไปยังกระทรวงสาธารณสุข กรมบัญชีกลางและแพทยสภาให้เข้ามาตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและมีข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้กระจ่าง” นพ.ธวัตชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น