ป.ป.ท.คาดอีก 3 เดือนผลตรวจสอบเบื้องต้น กรณีการใช้ยาเกินความจำเป็นออก เปรยลงพื้นที่ตรวจสอบ รพ.ทั่วประเทศ 5 แห่ง พบใช้ยารักษาาโรคเรื้อรังมากสุด
จากกรณีที่มีม็อบผู้ป่วย ชุมนุมเรียกร้องให้มีการย้ายนพ.ธวัตชัย วงค์คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี เพื่อเรียกร้องให้มีย้าย พญ.นภาพร ลิมป์ปิยากร แพทย์อายุรกรรม กลับมาประจำการที่ รพ.พระนั่งเกล้า หลังจากที่ กระทรวงสาธารณสุข และกรมบัญชีกลาง ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบแพทย์รายดังกล่าว เกี่ยวกับการใช้ยาเกินความจำเป็น ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นพ.ธวัตชัย ได้เคยพยายามที่จะชี้แจงต่อม็อบผู้ป่วยหลายครั้ง ในส่วนของการดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีการใช้ยาเกินความจำเป็นของแพทย์รายนี้ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ (DSI) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่วนกรณีการกระทำผิดของแพทย์หญิงรายดังกล่าวนั้น ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า มีการใช้ยาเกินความจำเป็นจริง หรือไม่ โดยขณะนี้ทั้ง 3 หน่วยงานนั้น ยังไม่มีการรายงานผลการสอบสวนออกมา
ล่าสุด วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางมาเจรจาเกี่ยวกับข้อมูลการสั่งจ่ายยาของ รพ.พระนั่งเกล้า เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว โดย นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในการเดินทางมายังโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ในวันนี้ เป็นการมาพบผู้อำนวยการเพื่อรวบรวมข้อมูลเอกสารที่จำเป็น สำหรับการใช้ประกอบการสืบสวนสอบสวน เรื่องระบบสั่งจ่ายยา ซึ่งทางทีมสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการเก็บข้อมูลในโรงพยาบาลทั่วประเทศใน ลักษณะเดียวกัน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วทั้งในส่วนของโรงพยาบาลทั้งโรงพยาบาลทั่วไปและ โรงเรียนแพทย์ในพื้นที่ กทม.และภูมิภาคจำนวน 5 แห่ง โดยส่วนมากพบความผิดปกติเรื่องระบบการจ่ายยาในโรงพยาบาลประจำจังหวัด จะพบว่ามีการสั่งจ่ายยาในกลุ่มรักษาโรคเรื้อรังมากกว่ากลุ่มอื่น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดผลการสอบสวนที่ชัดเจนได้ เพราะยังต้องอาศัยข้อมูลอื่นๆ อีกมาก ซึ่งทางดีเอสไอก็ได้เตรียมพยานเป็นผู้ป่วยไว้สอบสวนเพิ่มเติม
ขณะที่ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ รองเลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวว่า หลังจากที่กรมบัญชีกลาง และ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีคำสั่งให้ทาง ป.ป.ท.และ ดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบในเรื่องของระบบการสั่งจ่ายยา ว่า มีความสมเหตุสมผลหรือไม่ ตลอดจนการตรวจสอบการนำเข้า และจำหน่ายยาของบริษัทยา ทั้ง 2 หน่วยงานก็ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในอีกราว 3 เดือน จะทราบว่ามีการใช้จ่ายยาเกินความจำเป็นในกลุ่มใดบ้าง
ด้าน นพ.ธวัตชัย วงค์คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า ในกรณีของการดำเนินงานของ คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดเกี่ยวกับ พญ.นภาพร นั้น ผลสรุปก็ยังไม่ออกมา ดังนั้น อยากให้ผู้ป่วยที่ออกมาเคลื่อนไหวอดทนรอผลจากทุกภาคส่วนเสียก่อน เนื่องจากการที่ม็อบผู้ป่วยออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นการสร้าความกดดันแก่เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล และทำลายภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลอย่างมาก ดังนั้น อยากให้ทราบว่า ในเมื่อดีเอสไอ และ ป.ท.ท.ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ผลการสืบสวนสอบสวนยังไม่ออกมาก็อยากให้เห็นใจในส่วนนี้