“เทือก” อ้างรัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงที่จะสลายการชุมนุมให้เกิดความรุนแรง แต่ต้องรักษากฎหมาย แนะกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องรับฟังเสียงประชาชนที่เดือดร้อนด้วย ชี้ ผบ.ตร.มีอำนาจเต็มในการสั่งการ
วันนี้ (10 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการชุมนุมของภาคประชาชนต่างๆ อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ยังเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่สามารถยุบสภาได้ ว่า ไม่เป็นอย่างนั้น ตนคิดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะเป็นสองกลุ่มสามกลุ่มอะไรก็แล้วแต่ ในที่สุดก็ต้องเข้าใจว่าให้โอกาสประเทศไทยและให้โอกาสประชาชนไทย ได้เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศให้นำไปสู่การนับหนึ่งเริ่มต้นใหม่ เพราะถ้าช่วยกันดูสถานการณ์ให้สงบเรียบร้อยทุกอย่างก็ราบรื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยังให้โอกาสรัฐบาลนับหนึ่งเริ่มต้นใหม่หรือไม่ เพราะ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร บังคับใช้วันที่ 2 แล้วแต่ยังไม่สามารถทำอะไรได้ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ต้องให้โอกาสเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงาน ส่วนที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯท้าให้มาจับ ถ้าหากมีเหตุที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบของกฎหมายได้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูแล้ววางแผนผังในการที่จะแก้ไขปัญหายังมองไม่เห็นทาง นายสุเทพ กล่าวว่า ก็จะค่อยๆเห็น ส่วนที่ พล.ต.จำลอง พูดในลักษณะท้าทายกฎหมาย โดยระบุว่า ไม่ว่าจะนำกฎหมายอะไรมาบังคับใช้ ก็จะไม่ออกจากที่ชุมนุม นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ต.จำลอง เองก็คงต้องฟังเสียงประชาชนข้างนอกด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ด้วยความพยายามเพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ท่านก็คงจะแข็งขืนต่อไปไม่ได้ทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมาย
เมื่อถามว่า พล.ต.จำลอง จะทำตัวอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ใช่ครับ ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรฯให้เหตุผลว่าการชุมนุมยังเป็นไปด้วยความสงบ ยังไม่เงื่อนไขตาม พ.ร.บ.มั่นคง นายสุเทพ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวการชุมนุมด้วยความสงบต้องไม่ปิดถนน 24 ชั่วโมงจนคนสัญจรไปมาไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายใน 15 วันที่ พ.ร.บ.มั่นคงบังคับใช้ทุกอย่างจะเรียบร้อยหรือไม่ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ก็จะพยามยามทำ อย่าไปขีดว่าเป็นวันนี้เวลานี้ เมื่อถามว่า เห็นบอกว่ามีการขีดเส้นตายเอาไว้เวลา 10 นาฬิกาของวันนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะพยายามทำ และตนก็จะพยามยามให้เจ้าหน้าที่รายงานให้ทราบเป็นระยะ
ต่อข้อถามว่าจะได้คืนสักหนึ่งตารางเมตรหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็จะพยามยามครับ ตนเข้าใจว่าพี่น้องประชาชนก็รู้สึกไม่ชอบใจ กับการที่มาปิดถนนแล้วคนเดือดร้อน แล้วผู้ชุมนุมก็ต้องมีเหตุผลมีคนชุมนุมอยู่ไม่เท่าไหร่ แล้วจะไปปิดถนนทำไมให้คนเดือดร้อนไปทั้งบ้านทั้งเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องสลายการชุมนุม นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลหลีกเลี่ยงและไม่เคยใช้การสลาย พยามยามหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องรักษากฎหมาย
ส่วนในวันศุกร์ที่ 11 ก.พ.จะมีการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ทางกลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยฯ ระบุว่า มาตรา 190 ถ้าผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ก็เท่ากับความซักฟอกให้ MOU 43 เห็นชอบไปด้วยโดยกฎหมาย และถ้ามีการผ่านความเห็นชอบก็จะมีการเคลื่อนไปที่สภา นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้ ไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาไม่ได้ และการที่จะเอา 2 เรื่องมาโยงกันไม่ใช่เรื่องที่แท้จริง
เมื่อถามว่า การเคลียร์เส้นทางต้องมารายงานท่านก่อน หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีสิทธิ์และอำนาจที่จะสั่งการได้เลยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ท่าน ผบ.ตร.ท่านเป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ท่านก็ดำเนินการได้ทุกอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามระหว่างตนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช.) ก็จะประสานกันเป็นประจำมีความคืบหน้าอย่างไรก็จะมารายงานให้ตนทราบ หรือถ้ามีประเด็นอะไรที่ต้องการปรึกษาท่านก็มาปรึกษา อย่างไรก็ตาม ผ่านมาหนึ่งวันแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รายงานเรื่องความพยายามเจรจา แต่ยังไม่สำเร็จ
