“เทือก” ยัน พธม.ชุมนุมไม่มีผลให้ยุบสภาเร็วขึ้น เชื่อไม่ยึดทำเนียบ

“เทพเทือก” อ้างเคารพในเหตุผลของผู้ชุมนุม แต่ 3 ข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ รัฐบาลปฏิบัติยาก บอกจะทำให้ประเทศเสียหาย เชื่อ “มหาจำลอง” ไม่นำพันธมิตรฯ บุกยึดทำเนียบ ยันการชุมนุมกดดันไม่ส่งผลให้มีการยุบสภาเร็วขึ้นแน่นอน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ว่า หลังรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 2 ว่า เงื่อนไข 3 ข้อที่นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าจะเป็นปัจจัยให้มีการยุบสภานั้น ขณะนี้ 2 เงื่อนไข คือ เรื่องของเศรษฐกิจ และรัฐธรรมนูญก็น่าจะเป็นไปด้วยดี เหลือเพียงเรื่องความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งเราต้องพูดคุยกันเพื่อหาทางคลี่คลายความเห็นที่ไม่ตรงกัน เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เงื่อนไขนี้จะใช้เวลานานหรือไม่ เพราะขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มมากดดันรัฐบาลอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังมองโลกในแง่ดีอยู่ ตนเคารพในความมีเหตุผลของทุกฝ่าย และคิดว่า แต่ละฝ่ายก็มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง เพียงแต่ความเห็นอาจไม่ตรงกัน ก็ต้องค่อยๆ ปรับกันไป

“สำหรับเงื่อนไขของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ทั้ง 3 ข้อนั้น เป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลปฏิบัติยาก เพราะหากรัฐบาลปฏิบัติตามนั้น ก็ทำให้ประเทศเสียหาย ถ้าเลิก MOU ก็จะทำให้กระทบกระทั่งกันที่ชายแดน, การผลักดันชาวกัมพูชา ก็ลำบาก เพราะไม่ใช่เฉพาะชาวกัมพูชาที่อยู่ชายแดนไทย คนชาติอื่นก็อยู่ รวมถึงคนไทยที่ไปอยู่ในเขตแดนประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งเราก็ต้องปฏิบัติเหมือนกันหมด ดังนั้น การทำอะไรก็ต้องระวัง ส่วนการถอนตัวจากกรรมการมรดกโลกนั้น เราเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ดังนั้น ก็มีพันธะที่จะต้องร่วมมือกับเขาอยู่ ซึ่งข้อเรียกร้อง 3 ข้อนั้น ทำได้หากเราพิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นได้ว่าเราถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่เป็นเรื่องที่ไกลออกไปหน่อย ซึ่งต้องไปหาผู้ที่มีความสันทัดช่วยวิเคราะห์วิจัยให้ชัดเจนว่า ผลดีผลเสียอันไหนมากอันไหนน้อยกว่ากัน ในประเทศไทยมีสถานที่หลายแห่ง ทั้งที่เป็นสถานที่ธรรมชาติและโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นจุดที่จะทำให้เราสามารถดูแลพัฒนาที่เหล่านั้นได้ เปิดให้ชาวโลกได้มาชื่นชมได้ก็มีผลดี ส่วนผลเสียเพิ่งมีกรณีนี้ก็ลองมาชั่งกันดู

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวว่า หากเหลืออดรัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง 3 ประการ จะเข้ามาเยี่ยมเยียนในทำเนียบรัฐบาลคิดอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว คงไม่ทำอะไรที่ขัดต่อสายตาคนทั้งประเทศ ตนคิดว่า ท่านคงไตร่ตรองคงไม่น่าจะเป็นปัญหามาก เมื่อถามว่า รัฐบาลได้มีการจัดคนเข้าไปชี้แจงกับกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เปิดกว้างพยายามปรึกษาหารือกัน แต่ไม่ทราบว่าการประสานงานไปถึงไหนอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ขณะนี้มีการปิดจราจรข้างทำเนียบสองฝั่ง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจเรื่องนี้ ตนเห็นใจประชาชนคนธรรมดาที่ใช้รถใช้ถนนอยู่ พอมีการชุมนุมเด็กที่ไปโรงเรียนพี่น้องประชาชนก็เดือดร้อนทุกที เราพยายามที่จะพูดจากับผู้ชุมนุมทุกครั้งว่าต้องเห็นแก่วิถีชีวิตปกติคนอื่นบ้าง แต่พอผู้ชุมนุมมากพูดยาก แต่อย่างไรตนก็ได้กำชับตำรวจนครบาล พยายามเหลือช่องจราจรช่องใดช่องหนึ่งพอให้ไปได้ ก็พยายามแก้ปัญหา อะไรที่เจรจาได้ก็ต้องพูดขอร้องกันคนไทยด้วยกัน

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นอย่างนั้น ยังไม่จำเป็น พยายามใช้กฎหมายปกติไป เมื่อถามต่อว่า วันนี้บริเวณถนนราชดำเนินรถจะวิ่งได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวตนจะดู แต่คิดว่าส่วนใหญ่ใช้ได้อยู่แล้ว แต่ตนจะฟังว่าตำรวจนครบาลเขาแก้ไขอย่างไร เมื่อถามว่า การปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมนานในอนาคตต่อไปรัฐบาลจะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า นี่เป็นเรื่องที่หนักใจ เมื่อทุกฝ่ายต้องการแสดงออกสิทธิเสรีภาพของตนเองในการมาชุมนุม รัฐบาลก็ไม่ได้ไปห้ามปรามกีดกัน แต่ว่าน่าเสียดายที่ผู้มาชุมนุมไม่ได้คิดถึงคนอื่นที่ใช้ชีวิตปกติ ว่า จะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างไรก็เป็นปัญหาของรัฐบาลที่ต้องเผชิญความกดดัน และต้องหาทางคลี่คลายต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยอมให้เข้ามาชุมนุมในทำเนียบหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ยอมหรอกครับ หากเข้ามาก็เป็นการบุกรุกสถานที่ราชการ มาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของราชการไม่ใช่เฉพาะทำเนียบ แต่สถานที่ราชการอื่นๆ ด้วย ส่วนหากมีการชุมนุมระยะยาวจะทำอย่างไรนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพิจารณาแก้ไขไปตามสถานการณ์ ตนก็ต้องระมัดระวังในการพูดจาถ้าพูดไปว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นการข่มขู่ท้าทาย ยั่วยุก็ไม่ดี แต่ขอให้ความเห็นใจรัฐบาล เจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมและประชาชนคนอื่น ไม่ให้สิทธิเสรีภาพคนอื่นๆ ถูกรุกล้ำด้วย และอย่าพูดว่ากฎหมายจัดการกับการชุมนุมไม่ได้ รัฐบาลพยายามทำอยู่

ส่วนช่วงที่นายกรัฐมนตรีไปทำภารกิจที่ต่างประเทศ กังวลหรือไม่ว่าจะมีการใช้โอกาสนี้ เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า เวลานายกรัฐมนตรีไม่อยู่ในประเทศก็จะให้ตนรักษาการแทนนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ซึ่งตนก็รักษาการมาหลายครั้งแล้วในช่วงที่เกิดเหตุ ตนก็ปฏิบัติไปอย่างที่เคยทำมา

ต่อข้อถามว่า จะให้กลุ่มผู้ชุมนุมชุมนุมอีกกี่วัน ถึงจะมีการเรียกหน่วยความมั่นคงมาดูแล นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนวัน เราไม่ใช่คนกะเกณฑ์ ตนคงไม่สามมารถกะเกณฑ์ได้ว่าเขาจะชุมนุมกี่วัน เรื่องพูดคุยเจรจาเป็นของฝ่ายอื่น หน้าที่ตนคือดูแลให้การชุมนุมไม่ไปส่งผลร้ายต่อการใช้ชีวิตปกติของประชาชนทั่วไป

เมื่อถามว่า จะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือไม่เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่อยู่จะมีการเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมในที่ต่างๆ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่ามองโลกในแง่ร้าย บางคนก็มีบทเรียนที่เจ็บปวดมาแล้วทั้งสิ้น การทำอะไรที่เป็นเรื่องความรุนแรงไม่ได้เสียหายกับคนที่ถูกกระทำ แต่เสียหายแก่ประเทศไทยทั้งประเทศแก่คนไทยทั้งชาติ พี่น้องประชาชนที่เฝ้าดูอยู่ก็ไม่ชอบใจที่เห็นใครทำอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การยุบสภาจะเกี่ยวข้องกับการชุมนุมในครั้งนี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่คิดว่าจะเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกัน เมื่อถามว่า คิดว่าแรงกดดันจะส่งผลให้การยุบสภาเร็วขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ในทางกลับกัน ถ้าบ้านเมืองไม่เรียบร้อย วุ่นวาย รัฐบาลก็ต้องคิดหนักในการจัดการเลือกตั้ง ถ้าคนมีความคิดแตกแยกกันมาใช้กำลังตัดสินก็ไม่ไหว