ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่สนกระแสเลื่อยขาเก้าอี้ ระบุไม่ยึดติด ลั่น “จะไปก็ไป” ตกบันไดพลอยโจนเผยไม่มีการจัดฉากจับ 5 ผู้ต้องหาเตรียมบึ้มป่วนการชุมนุมของพันธมิตรฯ เผยได้รับรายงานก่อนการจับกุม 1 วันแล้ว ขณะที่ผู้การนครบาล 6 หนึ่งในชุดจับกุมแจงไม่มีการจัดฉากแน่นอน เผยไม่เคยท้อ ระบุตำรวจถูกด่าเป็นเรื่องธรรมดา
วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการจับกุมผู้ต้อง 5 คนที่เตรียมก่อเหตุวางระเบิดแสวงเครื่องใส่กลุ่มผู้ชุมนุมว่า ก่อนที่จะมีการจับกุม 1 วัน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่ามีการติดตามกลุ่มดังกล่าวว่าจะมีการก่อเหตุก่อกวน ไม่ได้มีการจัดฉากแน่นอน ทุกอย่างว่ากันไปตามการสอบสวน ก่อนจับกุมต้องมีการเตรียมข้อมูล เตรียมการ ต้องใช้เวลา การจับกุมก็ต้องใช้ความระมัดระวัง และผู้ต้องหาเองก็รับสารภาพ ไม่มีใครคิดที่จะจัดฉาก เอาบ้านเมืองมาล้อเล่น ไม่มีใครทำแบบนั้น ใครมาเอาตำรวจเป็นเป้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ใครคิดแบบนี้ก็ผิดแล้ว
ลั่น “จะไปก็ไป” ไม่ยึดติดเก้าอี้
เมื่อถามถึงกระแสการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เป็นการเลื่อนขาเก้าอี้ ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ตนเองเป็นตำรวจมาถึงยศ พล.ต.อ.แล้ว มาทำงานก็เพื่อแทนคุณแผ่นดิน ไม่เอาบ้านเมืองมาล้อเล่น ทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าใครคิดว่าตนเองทำหน้าที่ไม่เหมาะสม จะไปก็ไป ไม่ได้ยึดติดกับเก้าอี้ ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10)ที่ผ่านมา การทำงานต่างๆ ก็ได้รายงานให้ตนเองทราบตลอดตามขั้นตอน ไม่ได้ไปรายงานนายกรัฐมนตรีโดยตรง
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้ให้หลักการทำงานแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าให้เป็นกลไกในการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยให้ได้ ในภาวะที่บ้านเมืองแตกแยกก็ต้องวางตัวเป็นกลาง โดยใช้หลักของกฎหมาย แต่หากกฎหมายไม่พอ ถ้าหากต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ต้องร้องขอรัฐบาล หรือให้ทหารมาช่วย แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยได้
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า เราพยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจำกัดไว้ให้ ผู้ชุมนุมอ้างว่ามีจำนวนผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมากก็ต้องปิดการจราจรถนนราชดำเนินช่วงที่มีการชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมของเวลา 2-3 วันเพื่อเรียกร้องเหตุผลในการชุมนุม เมื่อเป็นที่พอใจก็จะแยกย้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถห้ามไม่ให้มีการกางเต็นท์ ตั้งเวที ก็ต้องจำยอมผ่อนผันให้เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวต่อว่า ได้ไปตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเองทุกคืน เพื่อกำชับแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจนว่า ไม่ให้ปิดล้อม ทำเนียบฯ สภาฯ โดยเด็ดขาด และกำชับเรื่องความพร้อมในการทำหน้าที่ บางส่วนก็ต้องแก้ไขให้มีความพร้อมมากกว่านี้ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องการสับเปลี่ยนกำลัง เพราะต้องนำกำลังจากพื้นที่ บช.ภ.1-2-7-ตชด.- บช.ก.ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมาช่วย เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการทำงานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง บอกจะยกระดับการชุมนุมหากไม่ได้ตามข้อเรียกร้องเหตุการณ์จะซ้ำรอยครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ตำรวจก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ยอมมาเยอะแล้ว ก็ทำให้เกิดปัญหาอย่างที่ว่า ตำรวจกลายเป็นเป้า ที่ผ่านมายอมให้เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเราก็ต้องทำหน้าที่ของเรา
“สุวัฒน์” แจงไม่มีการจัดฉาก
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 หนึ่งในชุดจับกุม กล่าวถึงการจับกุมนายธวัชชัย หรือดำ เอี่ยมนาค พร้อมพวก 5 คน ขณะขี่จยย.จะนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นขยายผลยึดระเบิด เครื่องยิงระเบิด และกระสุนปืนจำนวนมาก ท่ามกลางกระแสข่าวว่า น่าจะเป็นการจัดฉาก ว่า คิดง่ายๆว่าเราจะไปจ้างใคร หรือจะไปจัดให้มารับโทษที่มีอัตราโทษจำคุกถึง 20 ปี คิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ วิจารณญาณของแต่ละคน คิดว่าก็น่าจะมีอยู่แล้ว คงน่าจะคิดได้
พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ต้องหานั้น ชุดสืบสวนก็มีการติดตาม และมีทีมงานทำเรื่องนี้มานานตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่เริ่มมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น รวมทั้งไม่ได้มีการทำเพียงลำพัง ประสานกับหน่วยงานหลายหน่วย เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สันติบาล หน่วยข่าวทางทหาร หน่วยข่าวทางมหาดไทย เป็นต้น และทำข้อมูลกัน เป้าหมายก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้เกิดระเบิดต้องใช้ทุกวิธี ทั้งที่เปิดเผยได้ และเปิดเผยไม่ได้ โดยอยู่ในกรอบของกฎหมาย เราไม่ได้ต้องการจะไปไล่ หรือไล่จับอะไรใคร แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องจับกุม
“ถ้าป้องกันไม่ได้ แล้วเกิดเหตุระเบิดก็ต้องจับคนร้ายให้ได้ เป็นเรื่องที่ทำมาเยอะ เพียงแต่ว่า อาจจะไม่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ กรณีดังกล่าวอาจจะเป็นข้อสงสัยได้ ก็เป็นสิทธิ์ที่จะสงสัย แต่ผมขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนทำโดยไม่คิดอะไร ว่าใครจะเอาเรื่องนี้เพื่อไปทำอะไร หรือเอาไปเป็นประเด็น แต่ทุกคนก็ทำตามหน้าที่” ผบก.น.6 กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำงานแล้วมีกระแสวิจารณ์ในทางลบ รู้สึกท้อหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า อาชีพตำรวจถูกด่าประจำอยู่แล้ว วันไหนไม่ถูกด่าก็อาจจะรู้สึกว่า เราไม่มีอะไรทำหรือเปล่า เรื่องแบบนี้เรื่องธรรมดา ขอกันกินมากกว่านี้
วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการจับกุมผู้ต้อง 5 คนที่เตรียมก่อเหตุวางระเบิดแสวงเครื่องใส่กลุ่มผู้ชุมนุมว่า ก่อนที่จะมีการจับกุม 1 วัน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่ามีการติดตามกลุ่มดังกล่าวว่าจะมีการก่อเหตุก่อกวน ไม่ได้มีการจัดฉากแน่นอน ทุกอย่างว่ากันไปตามการสอบสวน ก่อนจับกุมต้องมีการเตรียมข้อมูล เตรียมการ ต้องใช้เวลา การจับกุมก็ต้องใช้ความระมัดระวัง และผู้ต้องหาเองก็รับสารภาพ ไม่มีใครคิดที่จะจัดฉาก เอาบ้านเมืองมาล้อเล่น ไม่มีใครทำแบบนั้น ใครมาเอาตำรวจเป็นเป้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ใครคิดแบบนี้ก็ผิดแล้ว
ลั่น “จะไปก็ไป” ไม่ยึดติดเก้าอี้
เมื่อถามถึงกระแสการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เป็นการเลื่อนขาเก้าอี้ ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ตนเองเป็นตำรวจมาถึงยศ พล.ต.อ.แล้ว มาทำงานก็เพื่อแทนคุณแผ่นดิน ไม่เอาบ้านเมืองมาล้อเล่น ทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าใครคิดว่าตนเองทำหน้าที่ไม่เหมาะสม จะไปก็ไป ไม่ได้ยึดติดกับเก้าอี้ ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10)ที่ผ่านมา การทำงานต่างๆ ก็ได้รายงานให้ตนเองทราบตลอดตามขั้นตอน ไม่ได้ไปรายงานนายกรัฐมนตรีโดยตรง
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้ให้หลักการทำงานแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าให้เป็นกลไกในการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยให้ได้ ในภาวะที่บ้านเมืองแตกแยกก็ต้องวางตัวเป็นกลาง โดยใช้หลักของกฎหมาย แต่หากกฎหมายไม่พอ ถ้าหากต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ต้องร้องขอรัฐบาล หรือให้ทหารมาช่วย แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยได้
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า เราพยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจำกัดไว้ให้ ผู้ชุมนุมอ้างว่ามีจำนวนผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมากก็ต้องปิดการจราจรถนนราชดำเนินช่วงที่มีการชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมของเวลา 2-3 วันเพื่อเรียกร้องเหตุผลในการชุมนุม เมื่อเป็นที่พอใจก็จะแยกย้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถห้ามไม่ให้มีการกางเต็นท์ ตั้งเวที ก็ต้องจำยอมผ่อนผันให้เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวต่อว่า ได้ไปตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเองทุกคืน เพื่อกำชับแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจนว่า ไม่ให้ปิดล้อม ทำเนียบฯ สภาฯ โดยเด็ดขาด และกำชับเรื่องความพร้อมในการทำหน้าที่ บางส่วนก็ต้องแก้ไขให้มีความพร้อมมากกว่านี้ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องการสับเปลี่ยนกำลัง เพราะต้องนำกำลังจากพื้นที่ บช.ภ.1-2-7-ตชด.- บช.ก.ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมาช่วย เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการทำงานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง บอกจะยกระดับการชุมนุมหากไม่ได้ตามข้อเรียกร้องเหตุการณ์จะซ้ำรอยครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ตำรวจก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ยอมมาเยอะแล้ว ก็ทำให้เกิดปัญหาอย่างที่ว่า ตำรวจกลายเป็นเป้า ที่ผ่านมายอมให้เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเราก็ต้องทำหน้าที่ของเรา
“สุวัฒน์” แจงไม่มีการจัดฉาก
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 หนึ่งในชุดจับกุม กล่าวถึงการจับกุมนายธวัชชัย หรือดำ เอี่ยมนาค พร้อมพวก 5 คน ขณะขี่จยย.จะนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นขยายผลยึดระเบิด เครื่องยิงระเบิด และกระสุนปืนจำนวนมาก ท่ามกลางกระแสข่าวว่า น่าจะเป็นการจัดฉาก ว่า คิดง่ายๆว่าเราจะไปจ้างใคร หรือจะไปจัดให้มารับโทษที่มีอัตราโทษจำคุกถึง 20 ปี คิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ วิจารณญาณของแต่ละคน คิดว่าก็น่าจะมีอยู่แล้ว คงน่าจะคิดได้
พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ต้องหานั้น ชุดสืบสวนก็มีการติดตาม และมีทีมงานทำเรื่องนี้มานานตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่เริ่มมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น รวมทั้งไม่ได้มีการทำเพียงลำพัง ประสานกับหน่วยงานหลายหน่วย เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สันติบาล หน่วยข่าวทางทหาร หน่วยข่าวทางมหาดไทย เป็นต้น และทำข้อมูลกัน เป้าหมายก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้เกิดระเบิดต้องใช้ทุกวิธี ทั้งที่เปิดเผยได้ และเปิดเผยไม่ได้ โดยอยู่ในกรอบของกฎหมาย เราไม่ได้ต้องการจะไปไล่ หรือไล่จับอะไรใคร แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องจับกุม
“ถ้าป้องกันไม่ได้ แล้วเกิดเหตุระเบิดก็ต้องจับคนร้ายให้ได้ เป็นเรื่องที่ทำมาเยอะ เพียงแต่ว่า อาจจะไม่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ กรณีดังกล่าวอาจจะเป็นข้อสงสัยได้ ก็เป็นสิทธิ์ที่จะสงสัย แต่ผมขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนทำโดยไม่คิดอะไร ว่าใครจะเอาเรื่องนี้เพื่อไปทำอะไร หรือเอาไปเป็นประเด็น แต่ทุกคนก็ทำตามหน้าที่” ผบก.น.6 กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำงานแล้วมีกระแสวิจารณ์ในทางลบ รู้สึกท้อหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า อาชีพตำรวจถูกด่าประจำอยู่แล้ว วันไหนไม่ถูกด่าก็อาจจะรู้สึกว่า เราไม่มีอะไรทำหรือเปล่า เรื่องแบบนี้เรื่องธรรมดา ขอกันกินมากกว่านี้