xs
xsm
sm
md
lg

ดีเดย์ 14 ก.พ.ใช้ตั๋วร่วมบีทีเอส-บีอาร์ที พร้อมตอกเสาเข็มลิฟต์คนพิการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กทม.ดีเดย์ 14 ก.พ.ใช้ตั๋วร่วม บีทีเอส-บีอาร์ที เผย ยอดผู้ใช้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษเพิ่มขึ้น เล็ง 2 ปีทำยอดให้ครบ 3 หมื่นคนต่อวัน ส่วนการทดลองให้รถยนต์ 3 คนนั่ง วิ่งเลนบีอาร์ที ทำจราจรคล่องระบายรถได้กว่า 300 คน “ธีระชน” เผย พร้อมตอกเสาเข็มสร้างลิฟต์ให้ผู้พิการทุกสถานีบีทีเอส

วันนี้ (3 ก.พ.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยการก่อสร้างลานอเนกประสงค์จุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส กับ รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ (BRT) บริเวณแยกสาทร-ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมให้สัมภาษณ์ภายหลัง ว่า กทม.เตรียมพร้อมในการเปิดให้บริการประชาชนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถบีอาร์ทีในวันที่ 14 ก.พ.นี้ โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานในพิธีเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการ โดยจุดเชื่อมต่อดังกล่าวจะเปิดใช้ระบบตั๋วร่วมในการเดินทาง นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการใช้ตั๋วโดยสารแบบนี้ โดยคาดว่า ประชาชนจะเลือกใช้บริการกับระบบขนส่งมวลชนดังกล่าวมากยิ่งขึ้น และอนาคต คาดว่า จะเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าใต้ดินในการใช้ตั๋วร่วม เพราะนอกจากลดค่าใช้จ่ายจากการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลแล้ว ยังช่วยลดปัญหาหารจราจร รวมทั้งลดปัญหามลพิษได้อีกทางหนึ่งด้วย

นายธีระชน กล่าวอีกว่า ในวันเดียวกัน กทม.จะเริ่มตอกเสาเข็มดำเนินการก่อสร้างลิฟต์โดยสารสำหรับคนพิการในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ให้ครบทุกสถานีภายในปีงบประมาณ 2554 โดยจะเร่งรัดให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้กับผู้พิการ และระบบขนส่งมวลชน มีความสมบูรณ์จากเดิมมีแผนถึงปี 2556 สำหรับปริมาณผู้ใช้บริการรถบีอาร์ทีขณะนี้มีเพิ่มขึ้นประมาณ 14,000-15,000 คนต่อวัน จากเดิมที่มีประมาณ 12,000 คนต่อวัน โดยตนเอง.ตั้งเป้าไว้ว่า ภายใน 2 ปี ที่ยังดำรงตำแหน่งจะพยายามเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้ได้ถึง 30,000 คนต่อวัน

นายธีระชน กล่าวด้วยว่า จากที่มีการบังคับใช้กฎหมายห้ามจอดอย่างเคร่งครัด และมีการอนุญาตให้รถยนต์ที่มีผู้โดยสารตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เข้าใช้ช่องรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที ตั้งแต่สถานีพระราม 3-สถานีเจริญราษฎร์ ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็นนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งจากที่ได้ทดลองให้รถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามาวิ่ง ปรากฏว่า ใน 1 ชั่วโมงสามารถระบายรถได้ 300 กว่าคัน ซึ่งทำให้การจราจรมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งรถบีอาร์ที และการจราจรของรถอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การปรับเปลี่ยนไม่มีการติดขัด ในขณะที่สามารถให้ประโยชน์กับทุกฝ่ายได้ นอกจากนี้ จะจัดให้มีระบบส่งต่อผู้โดยสารมากยิ่งขึ้นโดยได้มีการหารือกับ ขสมก.ในการปรับเปลี่ยนเส้นทางจำนวน 5 เส้นทาง ซึ่งมี 1 เส้นทางที่ซับซ้อนและยังไม่ได้ข้อตกลงโดยจะมีการเจรจาหาข้อยุติกันต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น