“แรงงาน” ชะลอเก็บเงินกองทุนต่างด้าวชี้หวั่นกระทบขึ้นทะเบียน

รองอธิบดีกรมจัดหางานเผยกรณีชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ต่างด้าว เหตุจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง อาจกระทบต่อการขึ้นทะเบียนของแรงงานต่างด้าว ยืนยันไม่ได้เกิดจากความไม่พร้อมในการจัดเก็บ

วันนี้ (5 ม.ค.) ณ ห้องประชุมกรมการจัดหางาน ชั้น 10 กระทรวงแรงงาน นายประวิทย์ เคียงผล รองอธิบดีกรมการจัดหางาน แถลงข่าวชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ออกไปอีก 1 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าให้เลื่อนไปมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2555 ซึ่งเป็นนโยบายของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในการเสนอ ครม.เพื่อขอเลื่อนการจัดเก็บออกไปก่อน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากความไม่พร้อมในการจัดเก็บและวิธีการนำส่ง เพราะกรมการจัดหางานได้วางระบบไว้เรียบร้อยแล้ว

โดย นายประวิทย์กล่าวว่า จากพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 ได้กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนฯ เพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร โดยจะเริ่มเก็บในเดือนมกราคม 2554 ต้องเลื่อนไปเก็บในช่วงเดือนมกราคม 2555 แทน สาเหตุจากสถานการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ลูกจ้างแรงงานต่างด้าวสัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา ได้รับการพิสูจน์สัญชาติจากประเทศของตน จึงเปลี่ยนสถานะเป็นคนเข้าเมืองที่ถูกกฎหมาย มีหนังสือเดินทาง มีวีซ่า ทำให้นายจ้างและคนต่างด้าวไม่ควรที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ ประกอบกับช่วงระยะเวลาที่มีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ มีการคาบเกี่ยวกับระยะเวลาการออกใบอนุญาตทำงาน ทำให้เป็นภาระของนายจ้างหรือสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าว และอาจกระทบต่อการขึ้นทะเบียนของแรงงานต่างด้าว

นายประวิทย์กล่าวต่ออีกว่า จะให้สถาบันการศึกษาเข้ามาศึกษาผลกระทบทั้งข้อดี ข้อเสีย และยังให้มีการศึกษาจากในประเทศต่างๆ ว่ามีการจัดการในเรื่องนี้อย่างไร เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการต่อไป

โดยเมื่อวานนี้ ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงแรงงาน เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดการทำงานและจำนวนเงินที่ลูกจ้างต้องส่งเข้ากองทุนดังกล่าว รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการออกใบรับรอง หนังสือรับรอง และใบแทนรับรองการส่งเงิน (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป