“เผดิมชัย” ลั่น คุมเข้มแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทยโดยผิดกฎหมาย ด้านรองอธิบดี กกจ.เผย ก.คลัง อนุมัติงบ 432 ล้าน ให้ทำไบโอดาต้าแรงงานต่างด้าว ที่ขึ้นทะเบียนรอบล่าสุดกว่า 1 ล้านคน เร่งทบทวนขั้นตอนคัดเลือกบริษัท หลังมีบริษัทไม่ผ่านร้องเรียน ชี้ หากขั้นตอนขัดกฎหมายพร้อมยกเลิกผลคัดเลือกเริ่มต้นใหม่
วันนี้ (19 ก.ย.) เวลา 11.00 น.ที่กระทรวงแรงงาน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เป็นประธานพิธีเปิดงานนัดพบแรงงาน “สานฝัน สร้างชีวิต พิชิตความจน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ และปล่อยขบวนรถของชุดเฉพาะกิจด้านตรวจสอบปราบปรามและจับกุมดำเนินคดีแรงงาน ต่างด้าวลักลอบทำงาน และกระบวนการค้ามนุษย์ และเยี่ยมชมสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว ที่กรมการจัดหางาน โดยมีผู้บริหารกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ
นายเผดิมชัย กล่าวว่า การจัดงานนัดพบแรงงานของกระทรวงแรงงาน มีเป้าหมายเพื่อให้โอกาสให้ผู้ว่างงานและนักศึกษาได้มาหางานทำที่เหมาะสมกับ ความรู้และความสามารถของตนเอง ซึ่งมีบริษัทเอกชนเข้าร่วมกิจกรรม 70 บริษัท และมีตำแหน่งงานรองรับประมาณ 1.5 หมื่นตำแหน่ง ทั้งนี้ คาดหวังว่า ผู้ว่างงานและนักศึกษาที่มาเข้าร่วมงาน ทุกคนจะได้งานทำทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้ มีผู้ที่สนใจลงทะเบียนสมัครงานล่วงหน้าประมาณ 1 พันคน อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมนี้แล้ว ผู้ว่างงานและนักศึกษายังสามารถเข้ามาสมัครงานได้ที่เว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน
รมว.แรงงาน ยังกล่าวถึงการดูแลและแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าไทยโดยผิดกฎหมาย ว่า จะใช้มาตรการกวดขันเพิ่มขึ้น ทั้งแรงงานต่างด้าวและสถานประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย โดยเน้นการปราบปรามและจับกุมดำเนินคดี และดูแลแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมายให้เป็นระบบมากขึ้น ตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551
ทั้งนี้ ได้มีการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางาน ที่ดูแลแรงงานต่างด้าว ซึ่งในวันนี้ได้ปล่อยคาราวานเจ้าหน้าที่ จำนวน 500 คน ออกไปดำเนินการตามนโยบาย ส่วนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว ทั้งลาว พม่า และกัมพูชา นั้น จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ และเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน
นายประวิทย์ เคียงผล รองอธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้อนุมัติงบประมาณ 423 ล้านบาท มาให้แก่ กกจ.ในการดำเนินการจัดทำระบบฐานข้อมูล Bio Data ของแรงงานต่างด้าว ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนรอบล่าสุดกว่า 1 ล้านคน ขณะนี้ กกจ.กำลังตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการคัดเลือกบริษัทที่จะเข้ามาทำฐานข้อมูล Bio Data ของ แรงงานต่างด้าว โดยมีบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก 1 บริษัท จากรอบสุดท้าย 3 บริษัท ซึ่งยังไม่ได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง และได้มีบริษัทที่ไม่ผ่านการคัดเลือกได้ร้องเรียนต่อกระทรวงแรงงาน ว่า กระบวนการคัดเลือกไม่เป็นธรรม
“กกจ.ต้องทบทวนให้รอบคอบว่า ขั้นตอนการคัดเลือกขัดต่อกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าขัดต่อกฎหมายก็จะยกเลิกผลการคัดเลือก และคัดเลือกใหม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ขัดต่อกฎหมายก็จะเดินหน้าทำสัญญากับบริษัทที่คัดเลือกไว้ในเดือน ต.ค.นี้ และการทำ Bio Data จะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ จากนั้นจะพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนรอบล่าสุด โดยจะจัดส่งข้อมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดขั้นตอนและต้นทุนการพิสูจน์สัญชาติลง ขณะนี้ได้ตกลงกับประเทศกัมพูชาและลาวไปแล้ว เหลือแต่พม่าที่จะต้องหารือกัน ส่วนแรงงานต่างด้าวที่เคยขึ้นทะเบียนไว้เดิม ซึ่งยังต้องพิสูจน์สัญชาติอีก 2.5 แสนคน จะใช้ระบบจัดส่งเอกสาร ซึ่งแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้จะเร่งพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.พ.2555 ทั้งนี้ อนาคต กกจ.จะพัฒนาเครื่องมือและนำระบบการจัดส่งข้อมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ แก่ประเทศเพื่อนบ้านมาใช้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการพิสูจน์สัญชาติจากเดิมอยู่ที่ 4.5-5 พันบาท จะลดลงไป 500 บาท” รองอธิบดี กกจ.กล่าว