สธ.เผย 5 กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนหวัด 2009 กว่า 1.1 แสนคนแล้ว ทราบสาเหตุเสียชีวิตทารกหลังฉีดวัคซีนภายในสัปดาห์นี้ กำชับตรวจร่างกายก่อนรับวัคซีน พร้อมนำกรณีหญิงตั้งครรภ์แท้งลูก จ.สตูล เข้าพิจารารณาเยียวยาความเสียหายตาม ม.41
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขว่า ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ซึ่งเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม -29 มกราคม 2553 มีผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีน 116,000 ราย ส่วนกรณีหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีนแล้วทารกในครรภ์เสียชีวิตที่วชิรพยาบาลนั้นจะต้องรอผลพิสูจน์และได้ข้อสรุปจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนที่มี พญ.สุจิตรา นิมมานนิตย์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เป็นประธาน ภายในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ส่วนหญิงตั้งครรภ์ ที่ จ.สตูล จะทราบสาเหตุการเสียชีวิตของทารก ภายในสัปดาห์นี้
“ทางโรงพยาบาลจะดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลของหญิงตั้งครรภ์ที่ จ.สตูล ทั้งหมด ไม่คิดว่าใช้จ่าย รวมถึงค่าใช้จ่ายค่าเดินทาง และการสูญเสียรายได้ของสามีของผู้ป่วยที่ต้องมาเฝ้าภรรยา ได้ให้นายแพย์สาธารณสุขจังหวัดเข้าให้การช่วยเหลือชดเชยให้แล้ว เนื่องจากมีฐานะยากจน ซึ่งขณะนี้ที่ จ.สตูล ยังไม่มีการให้วัคซีนแก่หญิงตั้งครรภจนกว่าจะทราบผลการพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตของทารก”นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำกรณีการฉีดวัคซีนนอกจากจะรณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่ม รับวัคซีนโดยสมัครใจแล้วจะต้องรักษามาตรฐานการฉีดวัคซีนตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น การตรวจสุขภาพก่อนการฉีดวัคซีนและหลังจากที่ได้รับวัคซีนแล้ว จะต้องอยู่ในการดุแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยเฝ้าสังเกตการณ์ 30 นาที ส่วนบุคลกรทางการแพทย์นั้นจะต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ชัดเจนประกอบการตัดสินใจฉีดวัคซีน โดยที่บุคลากรการแพทย์ควรเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ. กล่าวว่า สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีควัคซีน ถือว่าเข้าข่ายตามมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ในการเยียวยาชดเชยความเสียหาย ซึ่งต้องดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ต้องรอผลการการตรวจทางพยาธิวิทยาของทารกจากผู้เชี่ยวชาญว่ามีสาเหตุมาจากการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือไม่
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพยธราดล กล่าวว่า ปัจจุบันมีหญิงตั้งครรภ์ 8 คน ในจำนวนนี้คลอดก่อนกำหนดจำนวน 5% ทำให้เด็กเสียชีวิต 0.8% ส่วนภาวะครรภ์เป็นพิษ 0.25% ดังนั้น ฉีดวัคซีนหรือไม่ ก็มีโอกาสเสียชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งสถิติดังกล่าวเป็นเรื่องปกติของทุกประเทศ และถือว่าประเทศไทยไม่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ขณะที่ผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็ไม่สูงกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดกาล
