หมอร้องคณะกรรมาธิการ สธ.ตรวจสอบ “อภิสิทธิ์”- “จุรินทร์” ค้านคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย ขรก.สธ. ชี้ขัดกฎหมาย จี้ “จุรินทร์”เพิกถอนคำสั่งฯ ด้าน รมว.สธ.แอ่นอก ยินดีเข้าให้ข้อมูล ด้านสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กดดัน “จุรินทร์” ใช้อำนาจบริหารโยกย้ายหรือพักงานขรก.สธ.ที่ถูกชี้มูลความผิดทันที กังวลถูกขรก.บิดเบือนข้อมูล
พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล แพทย์ประจำโรงพยาบาลราชวิถี ในฐานะผู้ประสานงานคณะแพทย์และบุคคลเพื่อความถูกต้องกรณีกล่าวหากระทรวงสาธารณสุขทุจริตงบไทยเข้มแข็ง(พทข.) ได้ยื่นหนังสือด่วนที่สุด ถึงนพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ดำเนินการตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กรณีทำผิดกฎหมายยินยอมให้คณะกรรมการแถลงข่าวใส่ความทำลายภาพลักษณ์ของกระทรวงสาธารณสุขและข้าราชการนภาพรวม และข้าราชการที่ได้รับการระบุชื่อได้รับความเสียหายรวมถึงคำสั่งสอบวินัยข้าราชการโดยผิกฎหมายคือไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นมูลความผิด เนื่องจากยังไม่มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในงบประมาณที่ยังไม่ผ่านสภา
โดยพญ.อรพรรณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เรื่อง ขอให้ยกเลิกคำสั่งสอบวินัยข้าราชการเนื่องจากคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยฯ เป็นคำสั่งที่มิชอบ และขัดต่อกฎหมาย พระราชบัญญัติ(พรบ.)ระเบียบข้าราชการพลเรือน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของข้าราชการ สธ.และข้าราชการที่จะถูกดำเนินคดีทางวินัยได้เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้น รวมทั้งขอให้ตั้งคณะกรรมการทบทวนความเหมาะสมในเชิงบริหารโครงการหรือต่อยอดคณะกรรมการของสธ.ที่แต่งตั้งแล้ว
พญ. อรพรรณ์ กล่าวต่อว่า นายจุรินทร์ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)เป็นประธานสอบวินัยข้าราชการ 5 คนที่ถูกชี้มูลอย่างขัดต่อกฎหมาย เพราะยังไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นมูลความผิดทุจริต ซึ่งเป็นข้อกำหนดของพรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน เนื่องจากยังไม่มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในงบประมาณไทยเข้มแข็ง ยังเป็นขั้นตอนการจัดทำคำขอ วงเงินงบประมาณและคุณลักษณะกว้างๆ หากเห็นว่าการจัดทำคำขอไม่เหมาะสม ควรตั้งคณะกรรมการพิจารณา ทบทวน ความเหมาะสม ไม่อาจตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทุจริตในเรื่องที่ยังไม่มีกิจกรรมด้านการจัดซื้อจัดจ้าง คำร้องว่ามีการทุจริตของผู้ร้องต้องตกไป รมว.สธ.จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการไม่ได้ ขอให้เพิกถอนคำสั่งตั้งคณะกรรมการฯที่ผิดกฎหมายนี้
“ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ทำผิดกฎหมายในการให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งในการกระทำผิดความอาญา ใส่ความผู้อื่นและใส่ความสธ.ว่ามีทุจริตงบไทยเข้มแข็งจนประชาชนขาดความวางใจสธ. ข้าราชการและแพทย์สธ. กระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างแพทย์กับประชาชนและแพทย์กับคนไข้ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม เพาะคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งของสธ.ที่มีนพ.บรรลุ ศิริพานิชเป็นประธาน จะแถลงระบุชื่อ สกุลในผลสอบเบื้องต้นให้ผู้อื่นเสียหายไม่ได้” พญ.อรพรรณ์ กล่าว
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สธ. กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่พญ.อรพรรณ์ดำเนินการ แต่อย่างให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่า ตนตัดสินใจตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบราชการ ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้ง หรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทำให้ฝ่ายใดเสียหาย แต่เมื่อมีการชี้มูลความผิด ผู้ที่รับผิดชอบต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยตามขั้นตอน เมื่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยสรุปอย่างไรก็ต้องยึดตามนั้น ใครจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ส่วนกรณีที่ยื่นเรื่องให้กมธ.สธ.ตรวจสอบตนนั้น หากได้รับเชิญก็ยินดีที่จะไปชี้แจง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
“ผมไม่ติดใจว่าการดำเนินการนี้จะเข้าข่ายไม่เคารพผู้บังคับบัญชา เพราะทราบดีว่าเมื่อเข้ามารับตำแหน่งต้องมีปัญหาและได้รับผลกระทบ แต่ต้องมีหลักในการทำงาน ซึ่งผมก็ยึดหลักโปร่งใส สามัคคี มีส่วนร่วม”นายจุรินทร์กล่าว
ขณะที่ นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า สมาคมฯ ไม่ขัดข้องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตั้งคณะกรรมสอบสวนวินัยข้าราชการสธ.ทั้ง 5 ราย สานงานต่อจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดนพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน และขอเสนอให้รมว.สธ.ใช้อำนาจทางการบริหารโยกย้ายหรือพักราชการ ข้าราชการที่ถูกชี้มูลความผิด อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งนพ.สุชาติ เลาหบริพัตร อดีตผอ.สำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค ถูกย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานปลัดสธ.ก่อนหน้านี้แล้ว
นายไพศาล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ คาดหวังให้คณะกรรมการทำงานอย่างตรงไปตรงมามีความกล้าหาญเพียงพอในการชี้ถูกผิดและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อให้สังคมไม่มีความเคลือบแคลงสงสัย ซึ่งสมาคมฯ จะติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบข้าราชการที่ถูกชี้มูลจะแสดงท่าทีรับผิดชอบแต่อย่างไร แต่ให้สัมภาษณ์ในลักกษณะที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่นักการเมืองได้แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกไปแล้ว โดยข้าราชการสธ.ควรกล้าที่จะออกมาบอกกับสังคมว่า จะขอเว้นจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้คณะกรรการสอบสวนฯ สามารถหาข้อเท็จจริงได้โดยไม่ถูกปกปิด และไม่ให้เกิดผลกระทบทำให้ข้อมูลเกิดความเสียหายได้แต่เมื่อพ้นมลทินก็สามารถกลับเข้ามาทำงานได้เหมือนเดิม