“ประธาน กมธ.การศึกษา วุฒิสภา” ห่วงผลสอบจัดซื้อจัดจ้างอาชีวะทำสังคมสับสน โดยเฉพาะกลุ่ม ICT ผลสอบระบุจัดทำสเปกล่าช้า ความจริงเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ ก.ค.52 แล้ว แต่ผู้มีอำนาจไม่ยอมสั่งดำเนินการเอาสเปกขึ้นเว็บประชาพิจารณ์ แฉเหตุสั่งยื้อมีรับ 30% จากบริษัท แลกปรับแก้สเปกเอื้อประโยชน์ ฝาก “ชินวรณ์” ดูแลใกล้ชิด
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา กล่าวว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง งบโครงการไทยเข้มแข็งประจำปี 2553 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โดยมีนายนิวัตร นาคะเวช เป็นประธาน ที่ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธิ์ รมช.ศึกษาธิการ ได้แถลงผลไปก่อนหน้านี้ว่า ตนมีข้อสังเกตว่า แม้ผลสอบสวนจะมีข้อเท็จจริงรองรับอยู่บางส่วนก็ตามแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ตนเป็นห่วงผลจากการสอบสวนอาจจะทำให้สังคมสับสนในข้อเท็จจริงที่เป็นปัญหาว่า สอศ.มีปัญหาอยู่ที่ใด และอย่างไรกันแน่
โดยเฉพาะในส่วนครุภัณฑ์กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่อยู่ในโครงการยกระดับคุณภาพอาชีวะศึกษาสู่ความทันสมัย 6 รายการ ประมาณ 600 ล้านบาท และโครงการปัจจัยสนับสนุนการศึกษา 16 รายการ จำนวน 660 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการนี้ผลสอบที่ออกมาว่ามีการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ หรือ สเปก มีความล่าช้าผิดปกตินั้น ไม่น่าจะถูกต้องเมื่อเทียบกับผลจากศึกษาตรวจสอบของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา เพราะข้อเท็จจริงที่คณะกรรมาธิการฯ พบคือ การจัดทำสเปก ได้สำเร็จตั้งแต่เดือน ก.ค.2552 มีการปรับเพียงรหัสเรียกให้ตรงกับของสำนักงบประมาณเมื่อเดือน ต.ค.2552 เท่านั้น จึงถือว่าสเปกสมบูรณ์มานานแล้ว
“ปัญหาจึงอยู่ที่สเปกอาจดีเกินไป หรือตึงเกินไปหรือไม่ ถึงทำให้ สอศ.ไม่ยอมให้เดินหน้าตามขั้นตอนปกติ คือนำขึ้นเว็บไซต์ของ สอศ. เพื่อเปิดเผยต่อสาธารณะให้เกิดการตรวจสอบหรือประชาพิจารณ์ เหมือนอีก 30 กลุ่มครุภัณฑ์ ทั้ง ๆ ที่มีข่าววิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างหนักหน่วงว่าผู้มีอำนาจเรียก 30% จากบริษัทที่ตกลงรับงาน โดยบริษัทมีเงื่อนไขว่าให้ผู้มีอำนาจต้องแก้สเปกครุภัณฑ์นี้ และทั้ง ๆ ที่คณะกรรมาธิการฯ วุฒิสภา ก็ทำหนังสือขอให้ส่งสเปกมาเปิดเผยและให้ขึ้นเว็บไซต์ สอศ. แต่ผู้มีอำนาจก็ไม่ยอมดำเนินการ จึงอยากถามว่าที่ล่าช้าก็ล่าช้าตรงที่พยายามแก้สเปกเพื่อเอื้อบริษัทใช่หรือไม่” นายสิริวัฒน์กล่าว
นายสิริวัฒน์กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนเคยเรียนอาชีวะและได้รับรางวัลคนดีศรีอาชีวะระดับชาติเมื่อปี 2550 ถือว่าตนก็เป็นชาวอาชีวะด้วยคนหนึ่ง จึงขอเรียกร้องต่อผู้บริหารอาชีวะและบุคคลภายนอกอื่นๆ ว่าถ้าหากถูกเชิญให้เข้าไปแก้สเปกอย่างไม่เปิดกว้าง เพื่อล็อคและลดหย่อนให้เกิดประโยชน์เฉพาะผู้มีอำนาจและบริษัท ก็ขอร้องว่าอย่าทำ ให้คำนึงถึงลูกหลานที่จะเรียนรู้กับครุภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของสถานศึกษา พร้อมทั้งขอฝากนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศธ.คนใหม่ว่าให้เข้ามากำกับดูแล สอศ.ให้ใกล้ชิดหากต้องการจะจัดการกับปัญหาการทุจริตจริง ตนยินดีที่จะให้ข้อมูล ในการทางลึกเพิ่มเติม และฝากให้ดูแลกำลังใจของข้าราชการประจำที่ทำงานตรงไปตรงมา เพราะตอนนี้บางคนที่ไม่สนองประโยชน์ของผู้มีอำนาจกลับถูกย้ายอย่างไม่เป็นธรรมแล้ว
“คณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ตั้งใจที่จะสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งคาดว่า 2 สัปดาห์นับจากนี้ก็น่าจะเสร็จ โดยในวันที่ 21 ม.ค.นี้ จะได้เชิญนายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคาเลขาธิการ (กอศ.) เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา” นายสิริวัฒน์ กล่าว
ข่าวเกี่ยวข้อง : กรณีSP2ครุภัณฑ์อาชีวศึกษา