“หมออนามัย” นับพัน แสดงพลังบุก สธ. จี้หนุนร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุข เรียกร้อง 5 ข้อ ด้านปลัด สธ.ยันกระทรวงฯ เห็นชอบควรมี พ.ร.บ.นี้ แต่ต้องรอ รมว.สธ.ใหม่ลงนามส่งหนังสือถึงสภาฯ-สำนักเลขานายกฯ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 มกราคม เจ้าหน้าที่สาธาณสุขจากทั่วประเทศประมาณ 1 พันคน นำโดย นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อประกาศเจตนารมณ์ผลักดัน พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุข และขอให้ สธ.ออกหนังสือตอบสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในการสนับสนุน พ.ร.บ.ฉบับนี้
นายไพศาล กล่าวว่า การเดินทางมาชุมนุมครั้งนี้ ต้องการเรียกร้องใน 5 ข้อ ได้แก่ 1.สธ.ต้องทำหนังสือชี้แจงไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุถึงการรับรองและสนับสนุนการให้มี พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุข ที่เป็นฉบับที่ยื่นเสนอโดย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และฉบับภาคประชาชนที่ร่วมกันยื่นในวันที่ 19 สิงหาคม 2552 ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ฉบับเดียวกัน 2.ควรเร่งตอบข้อหารือต่อสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า สธ.มีนโยบายสนับสนุนการมี พรบ.วิชาชีพสาธารณสุข ฉบับที่เสนอเข้าสู่สภาไปแล้ว และอีกหนึ่งฉบับคือ พ.ร.บ.การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแห่งชาติ
นายไพศาล กล่าวต่อว่า 3.จากการตอบข้อหารือ สธ.ไปยังสภาผู้แทนราษฎร และการลงนามของ นพ.เสรี หงส์หยก ในบันทึกเสนอนายวิทยา แก้วภราดัย ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นไปในลักษณะไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นี้ แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในการขัดขวางไม่ให้มี พ.ร.บ.วิชาชีพสาธารณสุข เท่ากับผู้บริหารมีความผิดพลาดและบกพร่องอย่างรุนแรง ถือว่า ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขขาดความจริงใจต่อเรื่องนี้ จึงขอให้มีการพิจารณาเปลี่ยน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ แทน นพ.เสรี หงส์หยก
นายไพศาล กล่าวอีกว่า 4.ควรแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณา เพื่อวิเคราะห์เนื้อหาของกฎหมาย ร่วมกับสภาวิชาชีพต่างๆ ในขั้นตอนการแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการ เพื่อพิจารณารับหลักการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และ 5.สธ.ควรเร่งปฏิรูประบบสาธารณสุขใหม่ โดยให้มีการแยกบทบาทการทำงานในมิติการส่งเสริมสุขภาพและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและชุมชนในสังคมไทยที่มีมาตรฐานและมีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยสนับสนุนการตราเป็นกฎหมายบังคับใช้โดยตรง
“หากมีกฎหมายคุ้มครองผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนในด้านสาธารณสุข จะส่งผลต่อความภาคภูมิใจ ความมีศักดิ์ศรีในอาชีพของพวกเราและเกิดความทัดเทียมเสมอภาคกับวิชาชีพอื่นในวงการสาธารณสุข ประการที่สำคัญ การมีมาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรมแห่งวิชาชีพจะทำให้มีความซื่อสัตย์ และมุ่งมั่นต่อการปฏิบัติงานให้บริการประชาชนได้อย่างมีคุณภาพ และทั้งหมดล้วนเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในสังคมไทยทั้งสิ้น ทั้งนี้ในวันที่ 27 มกราคมจะเดินทางมารอฟังคำตอบอีกครั้ง”นายไพศาลกล่าว
ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ร่างบันทึกข้อความ เรื่อง ร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเพียงเสนอต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาลงนามก่อนส่งหนังสือไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาสาระระบุว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านการพิจารณาจากฝ่ายกฎหมายของพรรค ปชป.ที่มีการปรับเปลี่ยน แก้ไขแล้ว และส.ส.จำนวน 28 คนได้รับรองแล้ว สธ.จึงเห็นว่าจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.ฉบับนี้ และถ้าเนื้อหาสาระของ พ.ร.บ.มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอื่นต้องมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามหลักการของการเสนอกฎหมาย