xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด สธ.เผยหนังสือเปลี่ยนงบฯ รพ.ราชบุรีมี 2 ฉบับ เบรกสมาพันธ์ฯ อย่าเคลื่อนไหว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หมอไพจิตร์” เผยหนังสือขอเปลี่ยนงบฯ ก่อสร้าง รพ.ราชบุรี มาแปลกมี 2 ฉบับ ฉบับจริงไม่ผ่านปลัด-รองปลัด สธ.ส่งตรง สบภ.เลย ส่วนคู่สำเนาไม่ได้ระบุเป็นงบฯ ไทยเข้มแข็ง เข้าใจว่าเป็นการขอเปลี่ยนแปลงงบฯ ปกติทั่วไป เลยเซ็นตามปกติ ชี้ไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับแพทย์ชนบท เชื่อทุกคนเจตนาดี ต้องให้ความรักและเมตตา เป็นธรรม เบรกสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไปอย่าออกมาเคลื่อนไหว

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หนังสือที่ตนลงนามให้มีการเปลี่ยนแปลงงบก่อสร้างของโรงพยาบาลราชบุรี มีเอกสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นหนังสือตัวจริงมีตราครุฑ เลขที่ รบ 0027/8137 ลงวันที่ 13 พ.ค.2552 ลงนามโดยนายปราโมทย์ เข็มทรัพย์ เจ้าพนักงานสาธารณสุข อาวุโส รักษาราชการแทน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี เรื่องขอเปลี่ยนแปลงคำของบลงทุน จังหวัดราชบุรี ปี 2553 และส่งถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น ซึ่งเนื้อหาระบุว่า จ.ราชบุรี มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงรายการคำของบลงทุน ปี 2553 ของโรงพยาบาลราชบุรี จากอาคารอุบัติเหตุ 5 ชั้น เปลี่ยนแปลงเป็นอาคารอุบัติเหตุ 10 ชั้นและอาคารจอดรถ 7 ชั้น ซึ่งหนังสือฉบับจริงนี้ไม่ได้ผ่านปลัด สธ. และรองปลัด สธ. โดยกลุ่มบริหารทั่วไปได้ส่งหนังสือผ่านไปที่สบภ.


นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ส่วนหนังสือฉบับที่ 2 เป็นสำเนาคู่ฉบับ ไม่มีตราครุฑ เรื่องขอเปลี่ยนแปลงคำของบลงทุน จังหวัดราชบุรี ปี 2553 ลงนามโดยนายปราโมทย์ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2552 และเนื้อหาสาระเช่นเดียวกัน แต่หนังสือสำเนาคู่ฉบับนี้กลับมีการลงนามผ่านเรื่องโดยนายประศาสตร์ ทองปากน้ำ เลขานุการ รมช.สธ.เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2552 ระบุในบันทึกว่า เรียน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โปรดมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเสนอรมช.สธ.ต่อไป ซึ่งหนังสือฉบับนี้ส่งมาถึงตนที่ขณะนั้นเป็นรองปลัด สธ. ปฏิบัติราชการแทนปลัดสธ.ในวันที่ 22 พ.ค.2552 และมีบันทึกไปว่า ดำเนินการตามเสนอ โดยเข้าใจว่าเป็นการขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณตามปกติ เนื่องจากไม่มีข้อความส่วนใดที่ระบุว่าเป็นงบประมาณภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง และมอบให้สบภ.พิจารณาเสนอผู้มีอำนาจต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเป็นการสอดไส้หนังสือหรือไม่ นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ตนก็ยังงงกับเรื่องนี้ ตามปกติหนังสือจะส่งมาเฉพาะที่เป็นหนังสือตัวจริงเท่านั้น ซึ่งเรื่องก็ไม่ได้ผ่านตน ส่วนหนังสือสำเนาคู่ฉบับจะเก็บไว้ที่จังหวัด แต่คราวนี้มีการส่งหนังสือคู่สำเนามาให้ลงนามด้วยและผ่านไปยังทีมทำงานของ รมช.สธ.เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2552 ทั้งที่มีการส่งหนังสือตัวจริงมาด้วยแล้ว ตนก็มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเป็นเรื่องปกติของการลงนามหนังสือ คิดว่าเป็นงบฯ ปกติ เพราะหากเป็นเรื่องไทยเข้มแข็ง ทีมเลขานุการของตนจะดำเนินการคัดกรองหนังสืออย่างละเอียด

ต่อข้อถามว่า จำเป็นต้องเคลียร์กับกลุ่มแพทย์ชนบทหรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้นำเอกสารดังกล่าวมาเปิดเผย นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ถ้าเคลียร์ก็จะกลายเป็นคู่กรณีกัน ซึ่งไม่ใช่ และหากมีโอกาสจะคุยกับทุกกลุ่ม โดยไม่เกี่ยวกับเคลียร์หรือไม่ ตนบอกตั้งแต่แรกที่เข้ารับตำแหน่งแล้วว่า ถึงวันนี้ต้องตอบแทนกระทรวงสาธารณสุข และเชื่อว่าน้องๆ ทุกคนเจตนาดีต่อกระทรวงฯทุกคน วันนี้ตนเป็นปลัดสธ.ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและทุกกลุ่ม ถ้าปลัดมาสร้างความแตกแยกเองคงแย่ เพราะตนก็เป็นเหมือนพี่ของพวกเขา ถ้าไม่ยุติธรรมคงจะลำบาก ต้องให้ความรักความเมตตา

ส่วนกรณีที่สมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไปจะออกมาเคลื่อนไหวหากมีการโยกย้ายปลัด สธ. นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ขอร้องอย่าออกมาเคลื่อนไหว ทุกอย่างขอให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล เพราะโครงการไทยเข้มแข็งเป็นโครงการที่ดีของรัฐบาลและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน อยากให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้

เมื่อถามว่า มีการเสนอให้ดำเนินการทางวินัยต่อข้าราชการประจำที่ถูกชี้มูลว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเตรียมการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของรัฐบาล การดำเนินการต่างๆ ขึ้นอยู่กับนายกฯ เป็นผู้พิจารณา ซึ่งตนเข้าใจว่าก่อนที่นายวิทยา แก้วภราดัย จะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกฯ ได้บอกให้มีการว่ากล่าวตักเตือนแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น