เอกชนค้าแนวคิด”ชุมพล” ตั้ง กรอ.ท่องเที่ยว ระบุมีคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติอยู่แล้ว ควรใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่ามาตั้งเพิ่มให้งานทับซ้อน ฉะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นผลงานของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวเลย ทั้งที่ท่องเที่ยวเจอปัญหาหนัก ตั้งมากว่า 1 ปี เรียกประชุมเพียงไม่กี่ครั้ง
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างเตรียมการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนในสายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว(กรอ.ท่องเที่ยว) โดยมุ่งหวังใช้เป็นเวทีระดมความคิดระหว่างภาครัฐและเอกชนในการที่จะทำงานด้านการส่งเสริมและการแก้ปัญหาข้อติดขัดให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งระบบ คาดว่าการเปิดเวทีให้ภาครัฐและเอชนได้ทำงานร่วมกันแบบนี้จะช่วยพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขันได้เพิ่มมากขึ้น
ล่าสุดอยู่ระหว่างการคัดเลือกตัวบุคคลที่จะเข้ามานั่งเป็นคณะกรรมการใน กรอ.ท่องเที่ยวดังกล่าวนี้ ซึ่งจะมีตัวแทนทั้งจากภาครัฐและเอกชน เน้นคุณสมบัติ ต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาทิ จากสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
สิ่งที่ กรอ.ท่องเที่ยวจะต้องเร่งดำเนินการเป็นลำดับต้นๆ หากจัดตั้งแล้วเสร็จ คือเรื่อง การจัดทำแผนงานด้านการท่องเที่ยวที่ยังค้างอยู่, การเตรียมความพร้อม ที่จะรับมือกับผลกระทบที่จะมีผลกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ภายหลังการเปิดเสรีการค้าและการบริการ ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทยอยเปิดในบางธุรกิจไปแล้ว รวมถึงการระดมความคิดด้านการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟตต้า) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการตั้งกรอ.ท่องเที่ยวของนายชุมพล ศิลปอาชา เพราะเห็นว่า รัฐบาลมีคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ที่ตั้งขึ้นมาถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว โดยมีภาระกิจหน้าที่ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งคณะกรรมการก็มาจากภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะมาร่วมกันระดมความคิดเห็นอยู่แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ค่อยมีผลงานคืบหน้ามากนัก
“เรามีการตั้งคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติมาเป็นปีแล้ว แต่มีการประชุมไปเพียงไม่กี่ครั้ง ทั้งที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ประสบปัญหามากมาย จึงต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้มีบทบาทให้มากขึ้นแทนที่จะไปตั้งคณะกรรมการใหม่มาให้ทำงานทับซ้อนกันเปล่าๆ”
ขณะที่นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน นายชุมพล สิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนอยู่แล้ว เพื่อรับทราบปัญหาข้อติดขัด โดยเป็นการทำงานร่วมกัน ซึ่งการทำแบบนี้ก็เท่ากับเป็นเวทีการประชุม กรอ.อยู่แล้ว ทำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่เห็นความจำเป็นต้องตั้ง กรอ. ท่องเที่ยวขึ้นมาเพิ่มเติม เพราะ ถ้าจะทำแบบมีกฎหมายรองรับ ก็มีคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ที่จะดำเนินการอยู่แล้วเพียงแต่ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์จริง เกิดการทำงานด้านการแก้ไขช่วยเหลือพัฒนาได้จริง
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างเตรียมการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนในสายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว(กรอ.ท่องเที่ยว) โดยมุ่งหวังใช้เป็นเวทีระดมความคิดระหว่างภาครัฐและเอกชนในการที่จะทำงานด้านการส่งเสริมและการแก้ปัญหาข้อติดขัดให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งระบบ คาดว่าการเปิดเวทีให้ภาครัฐและเอชนได้ทำงานร่วมกันแบบนี้จะช่วยพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขันได้เพิ่มมากขึ้น
ล่าสุดอยู่ระหว่างการคัดเลือกตัวบุคคลที่จะเข้ามานั่งเป็นคณะกรรมการใน กรอ.ท่องเที่ยวดังกล่าวนี้ ซึ่งจะมีตัวแทนทั้งจากภาครัฐและเอกชน เน้นคุณสมบัติ ต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาทิ จากสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
สิ่งที่ กรอ.ท่องเที่ยวจะต้องเร่งดำเนินการเป็นลำดับต้นๆ หากจัดตั้งแล้วเสร็จ คือเรื่อง การจัดทำแผนงานด้านการท่องเที่ยวที่ยังค้างอยู่, การเตรียมความพร้อม ที่จะรับมือกับผลกระทบที่จะมีผลกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ภายหลังการเปิดเสรีการค้าและการบริการ ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทยอยเปิดในบางธุรกิจไปแล้ว รวมถึงการระดมความคิดด้านการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟตต้า) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการตั้งกรอ.ท่องเที่ยวของนายชุมพล ศิลปอาชา เพราะเห็นว่า รัฐบาลมีคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ที่ตั้งขึ้นมาถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว โดยมีภาระกิจหน้าที่ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งคณะกรรมการก็มาจากภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะมาร่วมกันระดมความคิดเห็นอยู่แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ค่อยมีผลงานคืบหน้ามากนัก
“เรามีการตั้งคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติมาเป็นปีแล้ว แต่มีการประชุมไปเพียงไม่กี่ครั้ง ทั้งที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ประสบปัญหามากมาย จึงต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้มีบทบาทให้มากขึ้นแทนที่จะไปตั้งคณะกรรมการใหม่มาให้ทำงานทับซ้อนกันเปล่าๆ”
ขณะที่นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน นายชุมพล สิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนอยู่แล้ว เพื่อรับทราบปัญหาข้อติดขัด โดยเป็นการทำงานร่วมกัน ซึ่งการทำแบบนี้ก็เท่ากับเป็นเวทีการประชุม กรอ.อยู่แล้ว ทำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่เห็นความจำเป็นต้องตั้ง กรอ. ท่องเที่ยวขึ้นมาเพิ่มเติม เพราะ ถ้าจะทำแบบมีกฎหมายรองรับ ก็มีคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ที่จะดำเนินการอยู่แล้วเพียงแต่ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์จริง เกิดการทำงานด้านการแก้ไขช่วยเหลือพัฒนาได้จริง
