xs
xsm
sm
md
lg

รณรงค์ให้ “นมแทนเหล้า” ลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผนึกกำลังรณรงค์ “ให้นมแทนเหล้า” งัดแผนลดอุบัติเหตุปีใหม่ 2553 บขส.จับโชเฟอร์วัดแอลกอฮอล์ก่อนขับ จับตาสิงห์มอเตอร์ไซค์ กระจายเครือข่ายทั่วประเทศ ดึงเยาวชน-หมออนามัย-อปท.-อสม.-สามล้อเอื้ออาทร นับ 4 หมื่น เฝ้าระวังจุดเสี่ยง ตั้งจุดตรวจทั่วประเทศ ปล่อยคาราวาน “สามล้อนักรณรงค์”ทั่วกรุง ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ 50% ขานรับทศวรรษปลอดภัยทางถนน

วันที่ 25 ธันวาคม ที่สถานีขนส่งหมอชิต กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บริษัท ขนส่ง จำกัด และบริษัท ดัชมิลล์ ร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ 2553 ภายใต้โครงการ “ดื่มนมทั่วไทย ปลอดภัยทั่วประเทศ นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่ประกาศให้ปี 2553 เป็นปีแห่งความปลอดภัยและกำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ โดยตั้งเป้าหมายลดอุบัติเหตุลงให้ได้ 50% ภายใน 10 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการลดความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศ เพราะที่ผ่านมาอุบัติเหตุทางถนนสร้างความเสียหายเฉลี่ยปีละ 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 3% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมกันลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงจัง ให้สมกับที่ทุกประเทศร่วมกันผลักดันแก้ปัญหานี้ โดยในปี 2555 ได้กำหนดให้เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยมีเป้าหมายลดผู้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือปีละ 14.15 คน ต่อประชากร 1 แสนคน
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญ และตระหนักในเรื่องดังกล่าว โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ร่วมกันกำหนดให้ช่วงเวลาระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2552 - 4 ม.ค. 2553 เป็นช่วง “7 วัน ขับขี่ปลอดภัย เทอดไท้องค์ราชัน”เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน เพราะจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาพบว่า ผู้บาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต เป็นเพศชาย 75% โดยมีอายุ 15-24 ปี ซึ่งการบาดเจ็บในช่วงเทศกาลจะพบมากกว่าช่วงปกติถึง1.4 เท่า ส่วนรถที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด ได้แก่รถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับถึง 50% ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ 6.6 เท่า และเสี่ยงต่อการเสียชีวิต 9.6 เท่า ของผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลเสียให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล สถานีอนามัยและองค์กรต่างๆ ต้องแบกรับภาระและทำงานในช่วงเทศกาล มากกว่าช่วงเวลาปกติ 2–4 เท่า ทำให้มีค่าใช้จ่ายของภาครัฐเพิ่มขึ้น

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผอ.สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า เพื่อเฝ้าระวังลดการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ สคอ. และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศทำหน้าที่เป็น“ ศูนย์ประสานงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุภาคประชาสังคมเพื่อความปลอดภัยทางถนน” โดยมีมาตรการเน้นหนัก ได้แก่ 1.ประชาสัมพันธ์โดยเน้นกลุ่มรถจักรยานยนต์เป็นหลักโดยเฉพาะเมาแล้วขับ และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด 2. จัดกิจกรรมเฝ้าระวังตลอดช่วงปีใหม่ 7 วัน โดยกลุ่มเยาวชนกว่า 20,000 คน จากมูลนิธิเครือข่ายศูนย์เสมาส่งเสริมศีลธรรม ทำหน้าที่ตั้งจุดบริการ ตามปั๊มน้ำมัน สถานีขนส่ง สถานศึกษา สถานที่จัดงานรื่นเริง เพื่อเฝ้าระวัง แจ้งจุดสกัดรถเมาแล้วขับ พร้อทั้งบริการแจกนมพร้อมดื่ม ผ้าเย็น

นายพรหมมิมทร์ กล่าวว่า ข้อที่ 3 การรณรงค์จากภาคีเครือข่าย โดยสมาคมหมออนามัย จำนวน 12,000 คน สมาคมอาสาสมัครเพื่อการพัฒนาสังคมไทย (อสม.) จำนวน 10,000 คน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 8,000 คน เตรียมตั้งจุดตรวจความปลอดภัยในท้องถิ่น 75 จังหวัดทั่วประเทศ และจัดทำแผนแม่บทชุมชนว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่นำร่อง 25 จังหวัด รณรงค์มอบของขวัญด้วยนมแทนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และ 4.มาตรการรณรงค์ในส่วนกลาง โดยความร่วมมือจากสหกรณ์สามล้อเอื้ออาทรเพื่อคนจน จำกัด กว่า 200 คน เตรียมปล่อยคาราวาน “รถสามล้อรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์” ในเขตกรุงเทพฯ ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวว่า ปีใหม่นี้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัว หรือท่องเที่ยวในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก บริษัทฯได้เตรียมแผนรองรับประชาชนในการเดินทาง โดยพนักงานขับรถ รถโดยสาร สถานีขนส่ง จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนโดยเฉพาะพนักงานขับรถ จะมีการตรวจสุขภาพ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ และสารเสพติดก่อนการปฏิบัติหน้าที่ หากตรวจพบว่ามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ และปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในทันที นอกจากนี้ เส้นทางที่มีระยะทางเกิน 400 กิโลเมตร ได้จัดให้มีพนักงานขับรถ 2 คน เพื่อสร้างความมั่นใจและช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ในระดับหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น