ภาคประชาชนฉุนเบียร์สิงห์ ข่มขู่ “หมอสมาน” เข้มคุมเหล้า ท้าทายอำนาจรัฐ ทำตัวเหนือกฎหมาย จงใจข่มขู่เจ้าพนักงาน กระทบถึงตำรวจ-พนักงานในท้องถิ่นไม่กล้าจับผู้ฝ่าฝืน กม.เหล้า แฉข้อมูลล่าสุดสิงห์ฝ่าฝืนกฎหมายเหล้า หัวใสติดป้ายโฆษณาในท้องถนนมากสุด แพทยชนบทจี้ สธ.จับปรับ
นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า การที่บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัดได้มอบหมายให้สำนักงานทนายความชื่อดังส่งจดหมายมาเตือน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ยุติการตีความตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิ์ในการดำเนินการธุรกิจ รวมถึงอ้างว่าไม่ใช่หน้าที่และเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต หากไม่เช่นนั้นบริษัทฯจะฟ้องร้อง นพ.สมาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายการข่มขู่เจ้าพนักงาน ซึ่งภาคประชาชนยอมไม่ได้
“เรื่องนี้ภาคประชาชนยอมไม่ได้ เพราะการทำงานของ นพ.สมานก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งภาคประชาชนดูว่าจะน้อยเกินไปด้วยซ้ำ อีกทั้งการลงพื้นที่ของ นพ.สมาน ยังเป็นการกระตุ้นและสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าพนักงานในท้องที่ภูมิภาคให้มีการดำเนินจริงจัง การข่มขู่ดังกล่าวถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ ทำตัวเหนือกฎหมาย ทั้งที่เป็นธุรกิจสัญชาติไทย ควรรู้และปฏิบัติตามกฎหมายมากกว่ามุ่งข่มขู่บิดเบือน มุ่งประโยชน์ธุรกิจตนเอง” นายคำรณ กล่าว
นายคำรณ กล่าวด้วยว่า เครือข่ายฯขอให้กำลังใจนพ.สมานดำเนินการต่อไปอย่าหยุดหย่อนหรือเกรงกลัวอิทธิพลใดๆส่วนตัวเชื่อว่าทางบริษัทฯคงไม่กล้าดำเนินการอะไร เพียงแต่เป็นการข่มขู่เจ้าพนักงานเท่านั้น เพราะ นพ.สมานได้ดำเนินการตามกฎหมาย ปฏิบัติตามกลไกของราชการที่กำหนดไว้ในกฎหมายด้วย และจากการที่ตนได้เคยลงพื้นที่ร่วมกับ นพ.สมาน ก็พบว่าไม่ได้มีการดำเนินการอะไรที่เป็นการเกินเลย หรือละเมิดสิทธิกับผู้ใด โดยเฉพาะประชาชนผู้ที่มาใช้บริการ แต่กลับเน้นไปยังผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่า
“จากสิ่งที่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอกอฮอล์ได้ห้ามโฆษณา โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า บริษัท สิงห์ฯ เป็นบริษัทที่มีการฝ่าฝืนในการโฆษณาบนท้องถนนมากที่สุด อาทิ การโฆษณาเห็นรูปขวดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งถือว่าพบมากกว่าบริษัทอื่นด้วย ซึ่งส่วนตรงนี้เป็นจุดที่บริษัทพยายามบอกนักหนาว่าต้องการทำเพื่อสังคม แต่กลับไม่ปรับตัวให้ปฏิบัติตรงตามกฎหมาย แต่กลับมาข่มขู่เจ้าพนักงานอีก” นายคำรณกล่าว
ด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท กล่าวว่า การที่บริษัท สิงห์ฯ ออกมาระบุว่า ยอดขายตก 6% เนื่องมาจากปฎิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ว่า การที่ยอดขายของบริษัทสิงห์ลดลง 6% นั้นถือว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่ต้องการลดนักดื่มหน้าใหม่อยู่ ดังนั้น การที่สำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกประกาศแจ้งทางสถานีโทรทัศน์ให้ห้ามโฆษณาถือว่าถูกต้องแล้ว แต่สิงห์กลับพยายามใช้โฆษณาแฝงผ่านทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆเพื่อเพิ่มยอดขาย โดยไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีการขับรถที่มีรูปขวดเบียร์ออกมาโฆษณาทั่วประเทศ ซึ่งตนได้ถ่ายรูปเป็นหลักฐานไว้แล้ว รวมทั้งไม่ได้ปลดป้ายที่มีรูปขวดเบียร์ตามร้านค้าออกโดยอ้างว่าไม่ว่าง จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดำเนินการปรับอย่างจริงจัง โดยปรับรถโฆษณาคันละ 500,000 บาทจำนวน 200 คัน จะได้เงินมาพัฒนาประเทศกว่า 100 ล้านบาททันที
“น่าแปลกใจว่าพอบริษัท สิงห์ ออกมาเรียกร้องให้ออกกฎกระทรวงเรื่องการโฆษณาเหล้าเบียร์ให้ชัดเจน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกประชุมด่วนเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ทั้งๆที่กลุ่มเยาวชนเรียกร้องให้ประชุมแก้ปัญหาเหล้าปั่นรอบสถานศึกษามานาน 2 เดือนแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้ปรับวาระการประชุมเพื่อนำเรื่องโฆษณาขึ้นมาก่อน ทำให้เห็นชัดเจนว่ารองนายกรัฐมนตรีทำเพื่อประโยชน์ของใคร” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า การที่บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัดได้มอบหมายให้สำนักงานทนายความชื่อดังส่งจดหมายมาเตือน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ยุติการตีความตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิ์ในการดำเนินการธุรกิจ รวมถึงอ้างว่าไม่ใช่หน้าที่และเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต หากไม่เช่นนั้นบริษัทฯจะฟ้องร้อง นพ.สมาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายการข่มขู่เจ้าพนักงาน ซึ่งภาคประชาชนยอมไม่ได้
“เรื่องนี้ภาคประชาชนยอมไม่ได้ เพราะการทำงานของ นพ.สมานก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งภาคประชาชนดูว่าจะน้อยเกินไปด้วยซ้ำ อีกทั้งการลงพื้นที่ของ นพ.สมาน ยังเป็นการกระตุ้นและสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าพนักงานในท้องที่ภูมิภาคให้มีการดำเนินจริงจัง การข่มขู่ดังกล่าวถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ ทำตัวเหนือกฎหมาย ทั้งที่เป็นธุรกิจสัญชาติไทย ควรรู้และปฏิบัติตามกฎหมายมากกว่ามุ่งข่มขู่บิดเบือน มุ่งประโยชน์ธุรกิจตนเอง” นายคำรณ กล่าว
นายคำรณ กล่าวด้วยว่า เครือข่ายฯขอให้กำลังใจนพ.สมานดำเนินการต่อไปอย่าหยุดหย่อนหรือเกรงกลัวอิทธิพลใดๆส่วนตัวเชื่อว่าทางบริษัทฯคงไม่กล้าดำเนินการอะไร เพียงแต่เป็นการข่มขู่เจ้าพนักงานเท่านั้น เพราะ นพ.สมานได้ดำเนินการตามกฎหมาย ปฏิบัติตามกลไกของราชการที่กำหนดไว้ในกฎหมายด้วย และจากการที่ตนได้เคยลงพื้นที่ร่วมกับ นพ.สมาน ก็พบว่าไม่ได้มีการดำเนินการอะไรที่เป็นการเกินเลย หรือละเมิดสิทธิกับผู้ใด โดยเฉพาะประชาชนผู้ที่มาใช้บริการ แต่กลับเน้นไปยังผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่า
“จากสิ่งที่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอกอฮอล์ได้ห้ามโฆษณา โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า บริษัท สิงห์ฯ เป็นบริษัทที่มีการฝ่าฝืนในการโฆษณาบนท้องถนนมากที่สุด อาทิ การโฆษณาเห็นรูปขวดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งถือว่าพบมากกว่าบริษัทอื่นด้วย ซึ่งส่วนตรงนี้เป็นจุดที่บริษัทพยายามบอกนักหนาว่าต้องการทำเพื่อสังคม แต่กลับไม่ปรับตัวให้ปฏิบัติตรงตามกฎหมาย แต่กลับมาข่มขู่เจ้าพนักงานอีก” นายคำรณกล่าว
ด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท กล่าวว่า การที่บริษัท สิงห์ฯ ออกมาระบุว่า ยอดขายตก 6% เนื่องมาจากปฎิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ว่า การที่ยอดขายของบริษัทสิงห์ลดลง 6% นั้นถือว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่ต้องการลดนักดื่มหน้าใหม่อยู่ ดังนั้น การที่สำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกประกาศแจ้งทางสถานีโทรทัศน์ให้ห้ามโฆษณาถือว่าถูกต้องแล้ว แต่สิงห์กลับพยายามใช้โฆษณาแฝงผ่านทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆเพื่อเพิ่มยอดขาย โดยไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีการขับรถที่มีรูปขวดเบียร์ออกมาโฆษณาทั่วประเทศ ซึ่งตนได้ถ่ายรูปเป็นหลักฐานไว้แล้ว รวมทั้งไม่ได้ปลดป้ายที่มีรูปขวดเบียร์ตามร้านค้าออกโดยอ้างว่าไม่ว่าง จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดำเนินการปรับอย่างจริงจัง โดยปรับรถโฆษณาคันละ 500,000 บาทจำนวน 200 คัน จะได้เงินมาพัฒนาประเทศกว่า 100 ล้านบาททันที
“น่าแปลกใจว่าพอบริษัท สิงห์ ออกมาเรียกร้องให้ออกกฎกระทรวงเรื่องการโฆษณาเหล้าเบียร์ให้ชัดเจน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกประชุมด่วนเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ทั้งๆที่กลุ่มเยาวชนเรียกร้องให้ประชุมแก้ปัญหาเหล้าปั่นรอบสถานศึกษามานาน 2 เดือนแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้ปรับวาระการประชุมเพื่อนำเรื่องโฆษณาขึ้นมาก่อน ทำให้เห็นชัดเจนว่ารองนายกรัฐมนตรีทำเพื่อประโยชน์ของใคร” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
