“เสน่ห์” เผย ก.ค.ศ.สั่งเชือดผู้แทนครูหลังพบทุจริต 15 คน และรอสอบวินัยเพิ่มอีก 10 คน ถือเป็นการคาดโทษขนานใหญ่ ไม่เคยเกิดมาก่อน ส่งผลหมดสิทธิ์ในทุกกรณี ชี้ยังมีเรื่องเก่ารอสางอีกเพียบ ขณะที่ “เลขาฯ ก.ค.ศ.” เตรียมส่งข้อมูลแจงศาลปกครอง กรณีรอง ผอ.สพท.นครศรีฯ เขต 1 ฟ้องหลักเกณฑ์การได้มาของผู้แทนครูมิชอบ ยันคำสั่งศาลออกมาอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้น
จากการที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ตัดสินให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา รวม 5 เขตพื้นที่ พ้นจากตำแหน่งและถูกสอบวินัยจำนวน 15 คน และสอบวินัยเพิ่มอีก 10 คน รวมถูกสอบวินัยทั้งสิ้น 25 คน เนื่องจากพบการทุจริตในหน้าที่หลายกรณี ตามหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งใน อ.ก.ค.ศ.นั้น
นายเสน่ห์ ขาวโต รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ถือเป็นการตัดสินลงโทษล็อตใหญ่เป็นครั้งแรกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนับแต่เข้าโครงสร้างใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผลตัดสินดังกล่าว ทำให้อนุกรรมการทั้ง 15 คนพ้นจากการเป็นอนุกรรมการ ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาทันที และหมดสิทธิ์ที่จะกลับเข้ามาเป็นอนุกรรมการ ในอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่อีกต่อไป แม้ว่าผลการสอบสวนทางวินัยยังไม่เสร็จก็ตาม
นายเสน่ห์ กล่าวต่อว่า การสอบวินัยในความผิดแต่ละกรณี อาจใช้ระยะเวลาพิจารณาไม่เท่ากัน แต่โดยหลักการแล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ และประธาน ก.ค.ศ.ให้นโยบายว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 6 เดือน แต่หากไม่เสร็จ สามารถเสนอต่อที่ประชุม ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาการสอบวินัยออกไปเป็นรายกรณีได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามา เหลือแต่เรื่องเก่าที่ต้องเร่งทำให้เสร็จ ซึ่งมีอยู่เยอะพอสมควรและมีทุกเรื่อง อาทิ ร้องเรียนเรื่องเรียกรับเงิน การโยกย้ายครูและผู้บริหารที่ไม่โปร่งใส เป็นต้น อย่างไรก็ตามคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญรับร้องเรียน จะต้องเร่งพิจารณาตรวจสอบโดยเร็ว โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีผลการพิจารณานำเสนอต่อที่ประชุม ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณาทุกเดือน
“เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก ฝากถึงข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาในแต่ละเขตพื้นที่ฯ ว่าขอให้ความระมัดระวังและเลือกคนที่ดีที่สุดเข้ามาเป็นผู้แทนครูและบุคลากรทางการศึกษาในอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ซึ่งจะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 14 ธันวาคมนี้” รองเลขาฯ กพฐ.กล่าว
ด้านนายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวถึงกรณี นายวิชิต ชัยเดชะ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (รอง ผอ.สพท.) นครศรีธรรมราช เขต 1 ยื่นฟ้อง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และตนในฐานะเลขาธิการ ก.ค.ศ.ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีการออกกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2552 จำนวน 2 ฉบับ โดยมิชอบ ขัดกับเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และฉบับแก้ไข พ.ศ.2551และยังทำให้รองผอ.สพท.เสียสิทธิในการสมัครเลือกตั้งเป็นกรรมการผู้แทน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่า สำนักงาน ก.ค.ศ.กำลังเตรียมข้อมูลชี้แจงศาลปกครองซึ่งการออกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ ร่างไปตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เพราะในมาตรา 7(5) ของกฎหมายฉบับนี้ ได้ระบุชัดเจนว่า กรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 7 คนประกอบด้วย ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา, ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา, ผู้แทนข้าราชการครู และ ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งนี้ การฟ้องร้องเป็นสิทธิที่ทำได้ หากศาลมีคำสั่งออกมาอย่างไรก็ตามปฏิบัติตามนั้น
“ผมไม่คิดว่ากรณีนี้จะซ้ำรอยกับกรณีการฟ้องร้องเรื่องการเลือกตั้ง ผอ.สพท.เพราะเป็นคนละส่วนและเรื่องนี้ก็เขียนไว้ในกฎหมายชัดเจนแล้ว อีกทั้งหลักเกณฑ์ที่ออกมาก็เป็นไปตามที่ก.ค.ศ.กำหนด ซึ่งการที่จะให้ออกกฎ ก.ค.ศ.เหนือกฎหมายนั้นคงทำไม่ได้” เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า สำหรับการรับสมัครกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ.ที่ดำเนินการไปเมื่อวันที่ 23-25 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ในส่วนของสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้ทำการรับสมัครกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด และกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น ใน ก.ค.ศ.ซึ่งมีผู้สมัครเป็นกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 11 คน และผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น จำนวน 7 คน โดยมีรายชื่อและหมายเลขผู้สมัคร ดังนี้
1.ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ได้แก่ หมายเลข 1 นายวิรงค์ แก้ววิเศษ สพท.ขอนแก่น เขต 4, หมายเลข 2 นายนิพนธ์ ชื่นตา สพท.กรุงเทพมหานคร เขต 1, หมายเลข 3 นายสำเริง กุจิรพันธ์ สพท.นครปฐม เขต 1, หมายเลข 4 นายวัชรินทร์ ศรีบุรินทร์ สพท.อุดรธานี เขต 1, หมายเลข 5 นายสุริยัน พลตื้อ สพท.กาฬสินธุ์ เขต 1, หมายเลข 6 นายสุพิชัย วิจิตรโสภา สพท.สุราษฎรธานี เขต 3, หมายเลข 7 นายเมธี จิตต์ภักดี สพท.ราชบุรี เขต 2,
หมายเลข 8 นายสกลธ์ ขุนสนิท สพท.สระแก้ว เขต 2, หมายเลข 9 นายไกรรัฐ สว่างเดือน สพท.สมุทรสาคร, หมายเลข 10 นายไพศาล ภูวงศ์วนันท์ สพท.มหาสารคาม เขต 2, หมายเลข 11 นายบุณย์ธรรม บุญเลี้ยง วิทยาลัยการอาชีพบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
2.ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น ได้แก่ หมายเลข 1 นายอวยชัย ศรีบุตรวงษ์ สพท.อุดรธานี เขต 1, หมายเลข 2 นายบุญช่วย พันธ์งาม สพท.สระบุรี เขต 1, หมายเลข 3 นายอมร นิยมค้า สพท.อ่างทอง, หมายเลข 4 นายวิศร์ อัครสันตติกุล สพท.ขอนแก่น เขต 4, หมายเลข 5 นายชาญ คำภิระแปง สพท.เชียงใหม่ เขต 2, หมายเลข 6 นายสุรเดช น้อยจันทร์ สพท.นครสวรรค์ เขต 1, หมายเลข 7 นายวันเฉลิมพร วัดกลาง สพท.นครราชสีมา เขต 4
เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ยังไม่ได้ส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาให้เป็นผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษานั้นที่ประชุม ก.ค.ศ.นัดพิเศษที่ผ่านมาได้ขยายเวลาการส่งรายชื่อตามที่คุรุสภาเสนอออกไปอีก 15 วัน โดยให้ส่งรายชื่อภายในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ จากเดิมที่ต้องส่งรายชื่อในวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของผู้สมัครเป็นผู้แทนคุรุสภานั้นมีประมาณ 1,000 กว่าคน
