xs
xsm
sm
md
lg

กาฬสินธุ์เดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร ยันไม่มีการสวมสิทธิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบุรินทร์ รุ่งมณี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรของจ.กาฬสินธุ์ พร้อมทั้งเข้าดูบรรยากาศการทำสัญญาระหว่างเกษตรกรและธ.ก.ส.ที่บ้านลาด ต.หลักเหลี่ยม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์เดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร เผยยอดขึ้นทะเบียนนับแสนคน ด้านผู้ตรวจฯสำนักนายกลุยพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย ระบุไม่พบปัญหา ยันไม่มีการสวมสิทธิ์เหมือนกับการรับจำนำข้าว เพราะรัฐบาลให้สิทธิ์เกษตรกรทุกคนตั้งเป้าไว้ 4.3 ล้านคน อีกทั้งมีการทำประชาคม และจ่ายเงินเข้าบัญชีให้กับเกษตรกรโดยตรง

วันนี้ (21 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ชั้น 4 นายบุรินทร์ รุ่งมณี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรของจ.กาฬสินธุ์ พร้อมทั้งเข้าดูบรรยากาศการทำสัญญาระหว่างเกษตรกรและธ.ก.ส.ที่บ้านลาด ต.หลักเหลี่ยม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายธนูสินธุ์ ไชยสิริ นายอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรในระดับพื้นที่ คณะที่ 12 เข้าร่วมกว่า 50 คน

นายบุรินทร์ รุ่งมณี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทุกครัวเรือน ให้มีรายได้และสามารถลืมตาอ้าปากได้ โดยมีโครงการประกันรายได้ให้กับเกษตรกร ในรูปแบบการประกันราคาพืชผลการเกษตรนำร่อง 3 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวนาปี มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรทุกราย ซึ่งตั้งเป้าไว้ทั่วประเทศประมาณ 4.3 ล้านคน พร้อมทั้งให้เร่งทำสัญญาให้กับเกษตรกร เพื่อที่จะดำเนินการจ่ายเงินให้ทันกับผลผลิตที่ออกมา

นายบุรินทร์กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในเขตรับผิดชอบจ.สกลนคร จ.ร้อยเอ็ด และ จ.กาฬสินธุ์ พบว่า มีปัญหาเล็กน้อย เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการนำร่อง เป็นนโยบายใหม่ ซึ่งต้องเกิดปัญหาบ้าง แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้

อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีที่มีข้อห่วงใยว่าโครงการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรจะมีการสวมสิทธิ์ เหมือนกับโครงการรับจำนำข้าวเหมือนหลายพื้นที่ที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่าการสวมสิทธิ์เป็นไปได้ยาก และไม่มีการสวมสิทธิ์อย่างแน่นอน เนื่องจากโครงการดังกล่าวได้มีการทำประชาคม ซึ่งมีเกษตรกร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ราชการเข้าร่วมตรวจสอบ อีกทั้งยังมีการโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรง และที่สำคัญโครงการดังกล่าวรัฐบาลได้ให้สิทธิ์กับเกษตรกรทุกราย ทุกครัวเรือน

โดยตั้งเป้าหมายการขึ้นทะเบียนเกษตรกรทุกรายทั่วประเทศไว้ 4.3 ล้านคน ซึ่งไม่เหมือนโครงการรับจำนำข้าว แต่ละจังหวัด และเกษตรกรแต่ละรายล้วนมีโควต้าในการรับจำนำ และเกษตรกรได้สิทธิ์อยู่ประมาณ 7-8 แสนคนเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงเปิดปัญหาการสวมสิทธิ์

ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์มีพื้นที่ปลูกพืชการเกษตรทั้งหมด 2,787,850 ไร่ แยกเป็นพื้นที่ปลูกพืช 3 ชนิด ที่รัฐบาลได้ประกันราคาเป็นข้าวนาปี 1,657,640 ไร่ มันสำปะหลัง 216,669 ไร่ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 401 ไร่ โดยภายหลังจากรัฐบาลได้มีโครงการประกันรายได้เกษตรกร ขณะนี้มีเกษตรกรในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์แล้ว 106,559 ราย ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของภาคอีสาน

แยกเป็นขึ้นทะเบียนปลูกข้าวนาปี 90,082 ราย มันสำประหลัง 15,923 ราย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 72 ราย ซึ่งจ.กาฬสินธุ์ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบระดับตำบลเพื่อทำงานประชาคมเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถขึ้นทะเบียน ทำประชาคม และทำสัญญาระหว่างเกษตรกรกับธ.ก.ส.แล้วเสร็จทันตามกำหนดเปิดโครงการประกันรายได้ของรัฐบาลอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามได้กำชับไปยังนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ทำปฏิบัติงาน รวมไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกรที่ร่วมกันตรวจสอบและทำประชาคมในพื้นที่ ให้ยึดข้อมูลที่เป็นจริง มีความเที่ยงตรงและซื่อสัตย์ เพื่อที่จะเปิดประโยชน์กับเกษตรกรมากที่สุด

กำลังโหลดความคิดเห็น