นครราชสีมา- โคราชจังหวัดใหญ่อีสานเร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกร 3 พืชเศรษฐกิจหลัก รับโครงการประกันราคาพืชผลเกษตรของรัฐบาลให้ทัน 30 ก.ย.นี้ เผยเกษตรกรทั้งจังหวัดกว่า 2.6 แสนราย รุดขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 90% ขณะชาวไร่มันฯ พอใจราคาประกันรัฐ กก.ละ 1.70 บาท แต่พิษเพลี้ยแป้งระบาดหนัก ห่วงผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย เตือนอาวะวาดรุนแรงระลอกใหญ่อีกครั้งหลังปีใหม่
นายสวัสดิ์ บึงไกร เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อเข้าร่วมโครงการประกันราคาของรัฐบาล เพื่อประกันรายได้ขั้นต่ำให้เกษตรกรเป็นปีแรกในฤดูกาลผลิต 2552-53 โดยให้เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนระหว่าง ก.ค. - 30 ก.ย.นี้นั้น ขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 3 ตัวหลัก ในจ.นครราชสีมารวมกว่า 2.6 แสนราย แบ่งเป็น เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 1.9 แสนราย, เกษตรกรปลูกข้าวโพด 8 หมื่นราย และเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง 9 หมื่นราย ได้มาแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรเกือบครบทั้งหมดแล้ว
โดยดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1. การขึ้นทะเบียนเกษตรกร หรือ “ทบก.” ซึ่งล่าสุดได้ดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว 2. การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก หรือ “ทพศ.” ซึ่งเป็นพืช 3 ตัวหลักที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือตามโครงการประกันราคา คือ ข้าว ข้าวโพด และ มันสำปะหลัง ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 90% คาดว่าภายใน 30 ก.ย.นี้จะสามารถขึ้นทะเบียนได้แล้วเสร็จทั้งหมด
ทั้งนี้ ทางสำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ได้โหมประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเร่งมายื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้ทันเวลา เพราะต้องผ่านการตรวจสอบข้อมูลและการประชาคมหมู่บ้านก่อนที่จะออกใบรับรองให้ได้ เพื่อใช้ประกอบการทำสัญญาประกันราคา กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อเข้าร่วมโครงการประกันราคาของรัฐบาล
“การขึ้นทะเบียนเกษตรกรครั้งนี้ มีเวลาทำงาน และขั้นตอนการตรวจสอบรัดกุม มากกว่าทุกครั้ง จึงยากต่อการทุจริต ทั้งเรื่องการสวมสิทธิ์ และ การแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกมากกว่าที่มีอยู่จริง เนื่องจากมีการตรวจสอบของประชาคม ฉะนั้นเชื่อว่าโครงการประกันราคาจะทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง” นายสวัสดิ์กล่าว
นายสวัสดิ์กล่าต่อว่า สำหรับมันสำปะหลัง ซึ่ง จ.นครราชสีมา เป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของประเทศ นั้น ปีนี้ฤดูกาลผลิต 2552/53 จากการสำรวจล่าสุดมีพื้นที่การเพาะปลูกจำนวน 1.9 ล้านไร่ ลดลงจากปีที่ผ่านมา 1 แสนไร่ เนื่องจากการระบาดของเพลี้ยแป้งทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลงและเกษตรกรบางส่วนหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทนซึ่งได้ผลตอบแทนดีกว่า รวมทั้งเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้ง โดยจากการสอบถามเกษตรกรผู้ปลูกมันฯส่วนใหญ่พอใจกับราคาประกันของรัฐที่กิโลกรัมละ 1.70 บาท แต่เป็นห่วงกันมากคือเกรงว่าเรื่องผลผลิตที่ปีนี้จะออกสู่ตลาดน้อย จากปัญหาการระบาดเพลี้ยแป้งอย่างหนักถึง 2 ระลอก
“ล่าสุดพบมีเพลี้ยแป้งกลับมาระบาดเป็นรอบที่ 2 ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.หนองบุญมาก, เสิงสาง, ครบุรี ,ด่านขุนทด และกำลังขยายวงกว้างออกไปต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในช่วงหลังปีใหม่ 2553 นี้จะเกิดการระบาดของเพลี้ยแป้งในไร่มันสำปะหลังอย่างรุนแรงอีกครั้ง เพราะสภาพอากาศเอื้ออำนวย และ เป็นช่วงการระบาดตามฤดูกาล” นายสวัสดิ์กล่าว
