xs
xsm
sm
md
lg

น้องกอร์ปศักดิ์ไขก๊อก พ้นรองผอ.พอเพียงž

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.60 น. วานนี้ (20 ส.ค.) นายประโภชฌ์ สภาวสุ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) น้องชาย นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารหนังสือลาออกจาก รองผู้อำนวยการ สพช. มาแจกจ่ายผู้สื่อข่าว โดยในเอกสารดังกล่าวระบุว่า วันที่ 20 ส.ค.ที่สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน สำนักนายกรัฐมนตรี นายประโภชน์ สภาวสุ รองผอ.สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งแล้ว
นายประโภชน์ ระบุว่า การลาออกครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้มีการปรับโครงสร้างทั้งระบบของโครงการชุมชนพอเพียง เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โครงการนี้เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจ ฐานรากระดับชุมชน หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จจะช่วยเหลือชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศได้กว่า 80,000ชุมชน
ผมได้เข้ามาทำงานนี้ด้วยความรู้สึกเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำงานให้ชุมชนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่เมื่อโครงการนี้เป็นโครงการที่ต้องใช้เวลาในการให้ความรู้ แก่ชุมชนและชุมชนต้องมีความเข้าใจถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีภาคประชาคม ที่เข้มแข็ง ซื่อสัตย์ จึงจะประสบความสำเร็จได้ ทั้งนี้เมื่อมีการตรวจสอบโครงการก็พบว่า มีปัญหาในขั้นตอนการปฏิบัติและมีผู้แสวงหาประโยชน์กันอยู่มาก ดังนั้นเพื่อให้มีการ ตรวจสอบอย่างโปร่งใสและมีความคล่องตัว อิสระในการปรับโครงสร้างการบริหารงาน ของคณะกรรมการได้อย่ารงเต็มที่ ตนจึงขอลาออกจากการทำงานหน้าที่ในครั้งนี้และหวังว่าการเดินหน้าของดครงการชุมชนพอเพียงจะสามารถสร้างประโยชน์ให้ชุมชนได้อย่างแท้จริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามของนักเรียน นักศึกษา ในงานธรรมศาสตร์วิชาการ 52 ระหว่างปาฐกถาพิเศษเรื่อง อนาคตประเทศไทย ถึงปัญหาการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงว่าโครงการนี้ปรับมาจากโครงการ เอสเอ็มแอล ซึ่งเอสเอ็มแอลก็ไม่ต่างกับโครงการเงินผันเมื่อปี 2519 แต่ปัญหา คือ พอตั้งใจให้เงินลงไป ก็มีกระบวนการเรื่องการทุจริตเข้ามา ตนไม่ได้บอกว่า ให้ชาวบ้านทำแล้วมีการทุจริต แต่ให้ชาวบ้านทำแล้วชาวบ้านจะเห็น ข้อดีคือ ชาวบ้านเห็น
แต่ความแตกต่างและความเปลี่ยนแปลงที่ผมทำ คือโครงการต่างๆ ที่ทำกันก่อนหน้านี้ มีข้อครหา บอกได้เลยว่าไม่น้อยกว่าชุมชนพอเพียงล่ะครับ แต่พอมีเรื่องนี้ ผมก็เปิดทางให้ตรวจสอบ ให้มีการแสดงรับผิดชอบ นายกอร์ปศักดิ์ ภสวะสุ รองนายกฯ ก็เปิดทาง ปล่อยให้นายมีชัย วีระไวทยะ เข้ามาแทน และเปิดโอกาสให้นายมีชัย ทำเต็มที่ใครในสำนักงานมีปัญหา ก็ปรับได้เต็มที่ และเปิดให้สตง. ,ป.ป.ช. เข้ามาตรวจสอบอีก ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดแบบนี้ ก่อนมาเป็นนายกฯ มีคนถามว่าสัญญาได้หรือไม่ว่า อย่าให้มีทุจริต ผมตอบว่า สัญญาไม่ได้หรอก แต่ส่วนตัวผม ผมไม่ทุจริต แต่สัญญาได้ว่า ถ้ามีทุจริต ผมไม่ปกป้อง
เมื่อถามว่า รัฐบาลทำงานเพียง 7-8 เดือน แต่มีเรื่องการทุจริตแล้ว นายอภิสิทธิ์ ตอบสวนว่า เดี๋ยวผมพูดเดี๋ยวจะมีคนไปบิดเบือนอีก เขียนกันสนุก แล้วถามว่าจำเป็นต้องลบโครงการทิ้งไหม วันนี้ทำกัน 5,000 ล้านบาท แต่พอมีปัญหาในส่วนแค่ 50 ล้านบาท ก็จะให้โละทั้ง 5,000 ล้านบาท มันไม่ถูก ก็จะให้มันลดลง แต่จะหวังให้หมดไปทันทีทันใด คงยากครับ
ด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ โครงการชุมชนพอเพียงของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน สพช.ลาออกจากตำแหน่งประธานโครงการสำนักงานยกระดับชุมชุนพอเพียง
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์ลาออกดูผิวเผินเหมือนแสดงความรับผิดชอบแต่จะลดกระแสสังคมได้หรือไม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนปล้นประชาชนอย่างไร้ยางอาย ขอให้ผู้มีอำนาจหยุดโกงกินในโครงการแต่จะหยุดความรับผิดชอบไม่ได้ เนื่องจาการลาออกเป็นเพียงแค่สับขาหลอกแต่ยังยิงประตูได้ เพราะโครงสร้าง สพช.แปลกประหลาดมหัศจรรย์ที่สุดในโลก คือ นายกอร์ปศักดิ์ 1 เป็นรองนายกฯกำกับดูแลนโยบาย นายกอร์ปศักดิ์ 2 เป็นประธานบอร์ดโครงการนี้ ทั้งนี้ยังให้บอร์ดตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายอำนวยการ ที่เป็นฝ่ายบู๊ มีนายกอร์ปศักดิ์ 3 เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการที่เป็นฝ่ายบุ๋น มีนายมีชัย วีระไวทยะ เป็นประธานด้วย
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ฝ่ายบู๊มีอำนาจอนุมัติเงินโครงการ 2.2 หมื่นล้านบาท และยังมีการตั้งรองผอ.6 คน แต่กลับไม่ใช่ รองผอ.ขับเคลื่อนงาน แต่ไปตั้งกลุ่ม ภารกิจบริหารจัดการงบประมาณ มีนายประโภชณ์ สภาวสุ รองผอ.โครงการชุมชน พอเพียงรับผิดชอบ และยังมีกลุ่มภารกิจดำเนินการสรุปผลและพิจารณาโครงการ มีนายประโภชณ์ รับผิดชอบบริหารจัดการงบภายในและชงเรื่อง ก่อนที่เส้นทางเงิน 2.2 หมื่นล้านบาทที่ทุจริตจะกระจายไปทั่วประเทศ จะเห็นได้ว่ารองนายกฯดูแลทั้งนโยบาย เป็นประธานบอร์ดอนุมัติโครงการ และเป็นประธานคณะอนุกรรมการ ที่มีอำนาจเต็มในการอนุมัติงบ ก่อนรายงานบอร์ด
ดังนั้นการกระจายงบประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาทเกี่ยวข้องกับนายกอร์ปศักดิ์ทุกกระบวนการ แม้ลาออกจากประธานบอร์ด และให้นายมีชัยขึ้นเป็นประธานบอร์ด แต่อำนาจบริหารจัดการโครงการยังอยู่ที่คณะอนุกรรมการฝ่ายอำนวยการ ที่มี นายกอร์ปศักดิ์ เป็นประธาน ดังนั้นนายกอร์ปศักดิ์ต้องลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเปิดให้มีการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น