ปธ.คกก.ตรวจสอบชุมชนพอเพียงเพื่อไทยได้คืบเอาศอก จี้ “กอร์ปศักดิ์” ลาออกจากรองนายกฯ ในฐานะกำกับดูแลนโยบายด้านเศรษฐกิจ และมีอำนาจอนุมัติเงินโครงการ 2.2 หมื่นล้านซึ่งกระจายไปทั่วประเทศ
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่รัฐสภา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานโครงการสำนักงานยกระดับชุมชนพอเพียง (สพช.) ลาออกจากตำแหน่งประธานโครงการสำนักงานยกระดับชุมชุนพอเพียง โดย น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์ลาออกดูผิวเผินเหมือนแสดงความรับผิดชอบ แต่จะลดกระแสสังคมได้หรือไม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนปล้นประชาชนอย่างไร้ยางอาย ขอให้ผู้มีอำนาจหยุดโกงกินในโครงการ แต่จะหยุดความรับผิดชอบไม่ได้ เนื่องจาการลาออกเป็นเพียงแค่สับขาหลอก แต่ยังยิงประตูได้ เพราะโครงสร้างสพช.แปลกประหลาดมหัศจรรย์ที่สุดในโลก คือ นายกอร์ปศักดิ์ 1.เป็นรองนายกฯ กำกับดูแลนโยบาย 2.เป็นประธานบอร์ดโครงการนี้ ทั้งนี้ยังให้บอร์ดตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายอำนวยการ ที่เป็นฝ่ายบู๊ มีนายกอร์ปศักดิ์ เป็นประธาน และ 3.คณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการที่เป็นฝ่ายบุ๋น มีนายมีชัย วีระไวทยะ เป็นประธานด้วย
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ฝ่ายบู๊มีอำนาจอนุมัติเงินโครงการ 2.2 หมื่นล้านบาท และยังมีการตั้งรอง ผอ.6 คน แต่กลับไม่ใช่รอง ผอ.ขับเคลื่อนงาน แต่ไปตั้งกลุ่มภารกิจบริหารจัดการงบประมาณ มีนายประโภชฌ์ สภาวสุ รอง ผอ.โครงการชุมชนพอเพียงรับผิดชอบ และยังมีกลุ่มภารกิจดำเนินการสรุปผลและพิจารณาโครงการ มีนายประโภชฌ์รับผิดชอบบริหารจัดการงบภายในและชงเรื่อง ก่อนที่เส้นทางเงิน 2.2 หมื่นล้านบาทที่ทุจริตจะกระจายไปทั่วประเทศ จะเห็นได้ว่ารองนายกฯ ดูแลทั้งนโยบาย เป็นประธานบอร์ดอนุมัติโครงการ และเป็นประธานคณะอนุกรรมการที่มีอำนาจเต็มในการอนุมัติงบ ก่อนรายงานบอร์ด ดังนั้น การกระจายงบประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท เกี่ยวข้องกับนายกอร์ปศักดิ์ทุกกระบวนการ แม้ลาออกจากประธานบอร์ด และให้นายมีชัยขึ้นเป็นประธานบอร์ด แต่อำนาจบริหารจัดการโครงการยังอยู่ที่คณะอนุกรรมการฝ่ายอำนวยการที่มีนายกอร์ปศักดิ์เป็นประธาน ดังนั้น นายกอร์ปศักดิ์ต้องลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเปิดให้มีการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่รัฐสภา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานโครงการสำนักงานยกระดับชุมชนพอเพียง (สพช.) ลาออกจากตำแหน่งประธานโครงการสำนักงานยกระดับชุมชุนพอเพียง โดย น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์ลาออกดูผิวเผินเหมือนแสดงความรับผิดชอบ แต่จะลดกระแสสังคมได้หรือไม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนปล้นประชาชนอย่างไร้ยางอาย ขอให้ผู้มีอำนาจหยุดโกงกินในโครงการ แต่จะหยุดความรับผิดชอบไม่ได้ เนื่องจาการลาออกเป็นเพียงแค่สับขาหลอก แต่ยังยิงประตูได้ เพราะโครงสร้างสพช.แปลกประหลาดมหัศจรรย์ที่สุดในโลก คือ นายกอร์ปศักดิ์ 1.เป็นรองนายกฯ กำกับดูแลนโยบาย 2.เป็นประธานบอร์ดโครงการนี้ ทั้งนี้ยังให้บอร์ดตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายอำนวยการ ที่เป็นฝ่ายบู๊ มีนายกอร์ปศักดิ์ เป็นประธาน และ 3.คณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการที่เป็นฝ่ายบุ๋น มีนายมีชัย วีระไวทยะ เป็นประธานด้วย
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ฝ่ายบู๊มีอำนาจอนุมัติเงินโครงการ 2.2 หมื่นล้านบาท และยังมีการตั้งรอง ผอ.6 คน แต่กลับไม่ใช่รอง ผอ.ขับเคลื่อนงาน แต่ไปตั้งกลุ่มภารกิจบริหารจัดการงบประมาณ มีนายประโภชฌ์ สภาวสุ รอง ผอ.โครงการชุมชนพอเพียงรับผิดชอบ และยังมีกลุ่มภารกิจดำเนินการสรุปผลและพิจารณาโครงการ มีนายประโภชฌ์รับผิดชอบบริหารจัดการงบภายในและชงเรื่อง ก่อนที่เส้นทางเงิน 2.2 หมื่นล้านบาทที่ทุจริตจะกระจายไปทั่วประเทศ จะเห็นได้ว่ารองนายกฯ ดูแลทั้งนโยบาย เป็นประธานบอร์ดอนุมัติโครงการ และเป็นประธานคณะอนุกรรมการที่มีอำนาจเต็มในการอนุมัติงบ ก่อนรายงานบอร์ด ดังนั้น การกระจายงบประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท เกี่ยวข้องกับนายกอร์ปศักดิ์ทุกกระบวนการ แม้ลาออกจากประธานบอร์ด และให้นายมีชัยขึ้นเป็นประธานบอร์ด แต่อำนาจบริหารจัดการโครงการยังอยู่ที่คณะอนุกรรมการฝ่ายอำนวยการที่มีนายกอร์ปศักดิ์เป็นประธาน ดังนั้น นายกอร์ปศักดิ์ต้องลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเปิดให้มีการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่