ศาลปกครองไม่รับฟ้องกรณี “รมว.ศธ. - ผอ.ร.ร.นวมินทร์ฯ บดินทรเดชา” ถูกร้อง ศธ.ออกประกาศเรื่องเงินบำรุงการศึกษา ระบุกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ตามพ.ร.บ.การศึกษาฯ ระดมทรัพยากรเพิ่มสำหรับการเรียนพิเศษไม่ขัดกฎหมาย ให้ไม่ให้แล้วแต่สมัครใจ ด้านนิติการ ศธ.ยันประกาศกระทรวงแม้ไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก็มีผลใช้บังคับได้อยู่
จากกรณีที่นายคมเทพ ประภายนต์ ยื่นฟ้องร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และผู้อำนวยการโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา เรื่องที่ศธ.ได้ออกประกาศเรื่องเงินบำรุงการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัดศธ. ลงวันที่ 27 มิถุนายน2551 กำหนดให้สถานศึกษาเก็บเงินบำรุงการศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนนอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้น
วันนี้(20 พ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเพราะมีความเห็นว่าการดำเนินการของโรงเรียนช่วงที่ผ่านมาเป็นกรณีของการระดมทรัพยากรสำหรับการเรียนการสอนนอกเหนือจากการเรียนการสอนปกติ ซึ่งกฎหมายเปิดโอกาสให้ดำเนินการได้ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ สำหรับผู้ไม่ประสงค์เข้ารวมโครงการเรียนพิเศษก็สามารถไม่เข้าร่วมได้ เพราะทั้งหมดเป็นไปตามความสมัครใจ และผู้ที่มาเข้าร่วมก็ไม่กระทบสิทธิในการเรียนตามภาคปกติได้ จึงถือว่าการระดมทรัพยากรเพิ่มสำหรับการเรียนพิเศษไม่ขัดต่อกฎหมาย อย่างไรก็ตามทราบว่าทางผู้ร้องยังไม่พอใจจึงไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุดอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งคงต้องให้ศาลปกครองสูงพิจารณาต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับปีการศึกษา2553 นั้นตนไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการฟ้องร้องในลักษณะนี้เพิ่มอีกหรือไม่ แต่เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยออกมาก็จะเป็นบรรทัดฐานว่าสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามในคำวินิจฉัยของศาลปกครองกลางที่ไม่รับฟ้องก็ได้เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้ว และได้มีการอ้างคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาเพิ่มเติมด้วย โดยที่ผ่านมากฤษฎีกาเคยวินิจฉัยอย่างชัดเจนว่ากรณีการระดมทรัพยากรนอกเหนือจากการเรียนตามปกติสามารถทำได้หากเป็นไปตามความสมัครใจ ทั้งนี้การเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมโรงเรียนไม่สามารถทำได้ตามอำเภอใจ ซึ่งศธ.ได้ออกประกาศไว้แล้วว่าจะเก็บอะไรได้บ้างและกำหนดเพดานการเก็บค่าใช้จ่ายไว้ด้วย ซึ่งหากมีเรื่องที่ไม่ถูกต้องผู้ปกครองสามารถร้องเรียนมาได้โดยตนจะให้สำนักงาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ตรวจสอบเป็นรายกรณีไป
ด้าน นายปัญญา ประเสริฐศรี สำนักนิติการ สำนักงานปลัด ศธ. กล่าวว่า ประกาศ ศธ.ที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตรมว.ศธ. ลงนามนั้นเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การระดมทรัพยากรทางการศึกษาตามาตรา 58 พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 และเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีความเห็นว่า ศธ.สามารถเก็บเงินบำรุงการศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนนอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานได้
โดยกรณีนี้สถานศึกษาได้ประกาศให้ผู้ปกครองนักเรียนทราบเป็นการล่วงหน้าแล้ว และในการออกประกาศกระทรวงดังกล่าวเป็นการอาศัยอำนาจในการบริหารราชการทั่วไปของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่จะกำหนดแนวปฏิบัติของข้าราชการใน ศธ.ได้ ฉะนั้นแม้ประกาศดังกล่าวจะมิได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็ยังคงมีผลใช้บังคับได้อยู่