xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ไฟเขียว ศธ.ทุ่ม 2 หมื่นล้าน พัฒนา ร.ร.ชายแดนใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จุรินทร์” เชื่อตั้งคณะกรรมการบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ ช่วยแก้ปัญหา O-NET เด็กต่ำ ทุ่มกว่า 2 หมื่นล้าน พัฒนาแผนใน 3 ปี ลั่นยกระดับ ร.ร.ดีระดับสากล 21 แห่ง ระดับอำเภอ 126 แห่ง ระดับตำบล 351 แห่ง พร้อมจัดงบ 250 ล. เพิ่มสัดส่วนคอมพ์ในโีรงเรียน 393 แห่ง เตรียมหนุนเด็กประถมต้นเรียนภาษาไทยควบภาษายาวี แถมลดสัดส่วนเด็กไม่จบการศึกษาภาคบังคับให้ได้ 70% สร้างขวัญกำลังใจมอบ 2 ล้านสำหรับครอบครัวครูเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่สงบ ทายาทเรียนฟรีจนจบ ป.ตรี

วันนี้ (9 พ.ย.) ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี จ.ปัตตานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แถลงนโยบายการบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครูทั้งรัฐและเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมรับฟังกว่า 1,000 คนว่า ปัญหาด้านการศึกษาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วย จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา มีอยู่ 3 ประเด็น ได้แก่ ปัญหาคุณภาพ ปัญหาโอกาส และสวัสดิการและสวัสดิภาพของครู ด้วยเหตุนี้ ศธ.จึงได้ตั้งคณะกรรมการบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายนิวัตร นาคะเวช รองปลัด ศธ.เป็นประธาน โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดน ซึ่งปัจจุบันพบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่อันดับสุดท้ายของประเทศ โดยภาพรวมต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ และยังพบมีปัญหาผู้เรียนที่ไม่ให้ความสำคัญกับวิชาสามัญและอาชีพ แต่มุ่งเน้นที่จะเรียนศาสนาเพียงอย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแต่ต้องให้ความสำคัญกับสายสามัญและอาชีพด้วย เพราะเมื่อจบการศึกษาภาคบังคับจะสามารถเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการตัดโอกาสทางการศึกษา รวมถึงมีปัญหาครูขาดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบฯ กว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อนำมาดำเนินการตามแผนพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างปีงบฯ 2553-2555 ซึ่งคณะกรรมการบริหารการศึกษาฯ ต้องเร่งดำเนินการตามแผนแม่บท โดยต้องยกระดับคะแนน O-NET ในปีการศึกษา 2553 ให้สูงขึ้นอย่างน้อย 2% และดำเนินการให้ครูได้สอนตรงตามวุฒิ 500 คน นอกจากนี้นักเรียนในระดับ ป.3 ต้องสามารถอ่าน เขียนภาษาไทยได้เพิ่มขึ้น 3% และเพิ่มสัดส่วนเด็กที่ยังไม่จบการศึกษาภาคบังคับให้จบการศึกษาภาคบังคับภายใน 3 ปี อย่างน้อย 70%

โดย ศธ.มีแผนที่จะดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายในโครงการดังนี้คือ โครงการ 5 ฟรี ได้แก่ เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเนื่องจากจังหวัดชายแดนภาคใต้มีสถานศึกษาเอกชนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ศธ.จะสนับสนุนเงินอุดหนุนรายหัวเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิม 60% ส่วนโรงเรียนของรัฐสนับสนุน 100% และในปี 2553 รัฐบาลได้เตรียมงบฯ 30,000 ล้านบาทไว้แล้ว นอกจากนี้ยังมีโครงการติวเตอร์แชนแนลที่ยกคุณภาพและขยายโอกาสของนักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เท่าเทียมกับนักเรียนในส่วนกลาง จึงขอให้โรงเรียนสนับสนุนให้นักเรียนได้รับชม รวมทั้งให้โรงเรียนเปิดศูนย์ติวเตอร์แล้วรับแผ่นซีดีจาก ศธ. โครงการนมฟรี อาหารกลางวันฟรี พร้อมทั้งจัดให้ผู้พิการเรียนฟรีเป็นครั้งแรกในปีงบฯ 2553 อีกทั้งให้นักศึกษามุสลิมได้กู้เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ผ่านทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2553 เป็นต้นไป


นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ศธ.ยังมีนโยบายยกระดับคุณภาพโรงเรียนดี 3 ระดับ โดยโรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งเป้ายกระดับให้เป็นโรงเรียนดีระดับสากลหรือระดับชาติ 21 แห่ง โรงเรียนดีระดับอำเภอ 126 แห่ง และโรงเรียนดีระดับตำบล 351 แห่ง ยกระดับโรงเรียนขนาดเล็กที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ และ O-NET ในระดับต่ำ โดยใช้สื่อสอนทางไกลผ่านดาวเทียมซึ่งต่อยอดจากโรงเรียนวังไกลกังวล จำนวน 319 แห่ง และพัฒนาห้องสมุดประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นห้องสมุด 3 ดี จำนวน 498 แห่ง พร้อมเตรียมงบฯ 250 ล้านบาท ในการจัดคอมพิวเตอร์เพิ่มเติมให้กับโรงเรียน จำนวน 393 โรงเรียน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้คอมพิวเตอร์ต่อนักเรียน จาก 1:40 เป็น 1:10 นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้โรงเรียนของรัฐจัดสอนอิสลามศึกษา ซึ่งปัจจุบันสอนอยู่ในโรงเรียน 274 แห่ง เพิ่มขึ้นเป็น 350 แห่ง ในปี 2553 นอกจากนี้จะมีการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนอิสลามศึกษา โดยจะมีการสอบด้วยข้อสอบเดียวกันเป็นครั้งแรกในปลายปี 2552 หรือเรียกว่า I-NET ซึ่งจัดสอบโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ยังมีการเร่งพัฒนาการเรียนการสอนภาษาไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในโรงเรียน 1,305 แห่ง ซึ่งได้เตรียมงบฯ ปี 2553 แล้ว จำนวน 32.6 ล้านบาท โดยจะสนับสนุนให้เด็กระดับประถมศึกษาตอนต้นเรียนภาษาไทยควบคู่ภาษายาวี ซึ่งมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และวิทยาลัยชุมชน เข้าจัดการศึกษาระบบทวิภาคีเพื่อสอนวิชาสามัญและอาชีพให้กับสถาบันการศึกษาปอเนาะ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และโรงเรียนตาดีกา ที่สำคัญต่อไปนี้เด็กที่เรียนศาสนาสามารถเทียบโอนหน่วยกิตกับ กศน. เพื่อให้ได้วุฒิการศึกษาในระดับชั้น ม.6 ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้นักเรียนนำวุฒิไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ นอกจากนี้จะเพิ่มสัดส่วนผู้ที่จบการศึกษาภาคบังคับภายใน 3 ปี ให้เพิ่มขึ้นเป็น 70% จากปัจจุบันมีผู้ที่ไม่จบการศึกษาภาคบังคับจำนวน 9,805 คน ที่สำคัญ ศธ.จะจัดทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 1 หมื่นทุน จากปัจจุบันมี 1,600 ทุน

“ในการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครูที่ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ศธ.จะจัดสรรงบให้กับครอบครัวครูที่เสียชีวิตจำนวน 2 ล้านบาท และจัดทุนการศึกษาให้กับทายาทของครูที่เสียชีวิตจนจบปริญญาตรี นอกจากนี้ เฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะบรรจุพนักงานราชการให้เป็นข้าราชการ 50% ขณะที่จังหวัดอื่นๆ บรรจุเพียง 25% ส่วนอีก 50% ที่เหลือจะบรรจุจากผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ นอกจากนี้ยังมีแผนสนับสนุนให้นักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เข้าศึกษาต่อในโครงการครูพันธุ์ใหม่ เพื่อที่เมื่อจบการศึกษาไปแล้วจะได้กลับมาเป็นครูในพื้นที่” รมว.ศธ.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น