“เอ็นจีโอ” แฉกลางวง “กมธ.” เหล้าผลาญงบชาติปีละ 3.5 แสน ลบ.มากกว่าค่าก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ นักดื่มหน้าใหม่พุ่งติดอันดับโลก ส่วนปริมาณการกินเฉลี่ยต่อคนสูงใกล้ท็อปในเอเชีย โวย “เสธ.หนั่น” ปธ.นโยบายรัฐ ทำเฉยไม่จริงใจ-มีผลประโยชน์ทับซ้อน “ไกรศักดิ์” ยอมรับ ทุนเหล้า หนุนหลัง “นักการเมือง” เตรียมระดมทุก “กมธ.” ยื่นหนังสือกดดัน “สนั่น-อภิสิทธิ์” จริงจังปราบเหล้าปั่น-ผับรอบมหาลัย
ที่รัฐสภา เวลา 10.00 น. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน ที่มี นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ข้อมูลถึงปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษา และปัญหาเหล้าปั่นที่มอมเมาเยาวชน นักเรียนนักศึกษา
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผอ.เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า สถานการณ์ของปัญหาที่มาจากเหล้าในสังคมไทยมีมากขึ้น ยิ่งช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทงจะมีเหตุการณ์เมาตกน้ำอีกจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายที่หมดกับสุราในสังคมไทยปีละ 2 แสนล้านบาท มากกว่าค่าก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ยังต้องมีค่าเสียหายอันเกิดจากเหล้าปีละ 3.5 แสนล้านบาท รัฐบาลเข้าใจผิดว่า การเก็บภาษีจากเหล้าได้มากเศรษฐกิจจะพัฒนา เพราะธนาคารโลกก็ประกาศออกมาว่าหากประเทศไหนหยุดการดื่มเหล้าไม่ได้เศรษฐกิจจะไม่พัฒนา เห็นได้ชัดจากข้อมูลของกรมสรรพสามิตที่ว่ารัฐได้ภาษีจากเหล้า 1 บาท แต่รัฐบาลต้องจ่ายค่าเสียหาย 2 บาท
นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผอ.ศูนย์วิจัยสุรา กล่าวว่า ประเทศไทยมีนักดื่มหน้าใหม่เกิดขึ้นมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยทั้งประเทศดื่มเหล้าเฉลี่ยคนละ 6-7 ลิตรต่อปี ถือว่ามากติดอันดับต้นๆ ของเอเชียใกล้เคียงกับญี่ปุ่นและเกาหลี
น.ส.จิราพร กมลรังสรรค์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยราชพฤกษ์ กล่าวว่า ปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษาขณะนี้ระบาดอย่างหนักมอมเมาเยาวชน นักศึกษาอย่างหนัก เมื่อเดือน ก.ย.ตนได้รวมตัวกับเพื่อนๆ ไปพบ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ เพื่อให้ออกมาตรการเด็ดขาดในการควบคุม ซึ่ง เสธ.หนั่น ก็รับปากว่าเห็นด้วยและจะดำเนินการในเดือนต.ค.แต่จนถึงวันนี้แล้วยังไม่มีการเรียกประชุม โดยอ้างว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ยุติเรื่องไว้ก่อน ซึ่งตนและเพื่อนไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะนายอภิสิทธิ์ เคยตอบคำถามในเว็ปไซต์ชัดเจนว่าต้องการแก้ปัญหานี้อย่างเด็ดขาด
“พวกเราคิดว่า เสธ.หนั่น ไม่มีความจริงใจ ในการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับกลุ่มธุรกิจหรือไม่” น.ส.จิราพร กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.ยอมรับว่า ขณะนี้ร้านเหล้าที่อยู่รอบสถานศึกษา และเหล้าปั่นมีจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้มากถึงเดือนละ 400 ร้าน แต่ปัญหาคือบทลงโทษค่อนข้างเบา โดยหากขายเหล้าฝรั่งถูกปรับ 2,000 บาท ส่วนเหล้าไทย 500 บาท นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจสั่งปิดด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการประชุมนายไกรศักดิ์ กล่าวว่า เหล้าเป็นธุรกิจที่จ่ายเงินสนับสนุนนักการเมืองและพรรคการเมืองมายาวนาน จึงทำให้รัฐบาลไม่สามารถมีนโยบายที่ขัดผลประโยชน์ของกลุ่มทุนเหล้าได้ เช่น การให้ชาวบ้านทำเหล้าได้เองในต่างประเทศเขาทำไวน์กันเป็นหมื่นยี่ห้อ แต่เมืองไทยชาวบ้านทำไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่ตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมายมีข่าวว่าไปเปิดร้านเหล้าเสียเองในย่านถ.รัชดาภิเษก
“ผมจะให้ กมธ.ชุดนี้ร่างหนังสือแล้วไปประสานงานกับกมธ.ส.ส.ทุกคณะให้ร่วมลงชื่อ ส่งไปถึง พล.ต.สนั่น ให้รีบออกมาตรการแก้ปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษาอย่างจริงจัง และอีกฉบับหนึ่งจะส่งไปยังนายอภิสิทธิ์ ให้กดดัน พล.ต.สนั่น อีกทางหนึ่ง” นายไกรศักดิ์ กล่าว
ที่รัฐสภา เวลา 10.00 น. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน ที่มี นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ข้อมูลถึงปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษา และปัญหาเหล้าปั่นที่มอมเมาเยาวชน นักเรียนนักศึกษา
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผอ.เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า สถานการณ์ของปัญหาที่มาจากเหล้าในสังคมไทยมีมากขึ้น ยิ่งช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทงจะมีเหตุการณ์เมาตกน้ำอีกจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายที่หมดกับสุราในสังคมไทยปีละ 2 แสนล้านบาท มากกว่าค่าก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ยังต้องมีค่าเสียหายอันเกิดจากเหล้าปีละ 3.5 แสนล้านบาท รัฐบาลเข้าใจผิดว่า การเก็บภาษีจากเหล้าได้มากเศรษฐกิจจะพัฒนา เพราะธนาคารโลกก็ประกาศออกมาว่าหากประเทศไหนหยุดการดื่มเหล้าไม่ได้เศรษฐกิจจะไม่พัฒนา เห็นได้ชัดจากข้อมูลของกรมสรรพสามิตที่ว่ารัฐได้ภาษีจากเหล้า 1 บาท แต่รัฐบาลต้องจ่ายค่าเสียหาย 2 บาท
นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผอ.ศูนย์วิจัยสุรา กล่าวว่า ประเทศไทยมีนักดื่มหน้าใหม่เกิดขึ้นมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยทั้งประเทศดื่มเหล้าเฉลี่ยคนละ 6-7 ลิตรต่อปี ถือว่ามากติดอันดับต้นๆ ของเอเชียใกล้เคียงกับญี่ปุ่นและเกาหลี
น.ส.จิราพร กมลรังสรรค์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยราชพฤกษ์ กล่าวว่า ปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษาขณะนี้ระบาดอย่างหนักมอมเมาเยาวชน นักศึกษาอย่างหนัก เมื่อเดือน ก.ย.ตนได้รวมตัวกับเพื่อนๆ ไปพบ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ เพื่อให้ออกมาตรการเด็ดขาดในการควบคุม ซึ่ง เสธ.หนั่น ก็รับปากว่าเห็นด้วยและจะดำเนินการในเดือนต.ค.แต่จนถึงวันนี้แล้วยังไม่มีการเรียกประชุม โดยอ้างว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ยุติเรื่องไว้ก่อน ซึ่งตนและเพื่อนไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะนายอภิสิทธิ์ เคยตอบคำถามในเว็ปไซต์ชัดเจนว่าต้องการแก้ปัญหานี้อย่างเด็ดขาด
“พวกเราคิดว่า เสธ.หนั่น ไม่มีความจริงใจ ในการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับกลุ่มธุรกิจหรือไม่” น.ส.จิราพร กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.ยอมรับว่า ขณะนี้ร้านเหล้าที่อยู่รอบสถานศึกษา และเหล้าปั่นมีจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้มากถึงเดือนละ 400 ร้าน แต่ปัญหาคือบทลงโทษค่อนข้างเบา โดยหากขายเหล้าฝรั่งถูกปรับ 2,000 บาท ส่วนเหล้าไทย 500 บาท นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจสั่งปิดด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการประชุมนายไกรศักดิ์ กล่าวว่า เหล้าเป็นธุรกิจที่จ่ายเงินสนับสนุนนักการเมืองและพรรคการเมืองมายาวนาน จึงทำให้รัฐบาลไม่สามารถมีนโยบายที่ขัดผลประโยชน์ของกลุ่มทุนเหล้าได้ เช่น การให้ชาวบ้านทำเหล้าได้เองในต่างประเทศเขาทำไวน์กันเป็นหมื่นยี่ห้อ แต่เมืองไทยชาวบ้านทำไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่ตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมายมีข่าวว่าไปเปิดร้านเหล้าเสียเองในย่านถ.รัชดาภิเษก
“ผมจะให้ กมธ.ชุดนี้ร่างหนังสือแล้วไปประสานงานกับกมธ.ส.ส.ทุกคณะให้ร่วมลงชื่อ ส่งไปถึง พล.ต.สนั่น ให้รีบออกมาตรการแก้ปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษาอย่างจริงจัง และอีกฉบับหนึ่งจะส่งไปยังนายอภิสิทธิ์ ให้กดดัน พล.ต.สนั่น อีกทางหนึ่ง” นายไกรศักดิ์ กล่าว