xs
xsm
sm
md
lg

“วิทยา” โล่ง! ไม่มีคนตายหวัดใหญ่รอบสัปดาห์ เข้มจับตา “ปอดบวม” เป็นพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข (รมว.สธ.)
“วิทยา” เฮไม่มีคนตายหวัดใหญ่ 2009 ในรอบสัปดาห์ แต่ต้องใช้มาตรการเข้มเหมือนเดิม เน้นจับตาโรคปอดบวมเป็นพิเศษ “หมอไพจิตร์” วอนอย่าโทร.ป่วน สายด่วน 1142 หลังพบป่วน 70-80% พร้อมยุติการแถลงรายสัปดาห์ รายงานในเว็บไซต์แทน

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.- 3 ต.ค.ทั่วประเทศ ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมเท่าเดิม 165 ราย ใน 54 จังหวัด การเข้าถึงยาต้านไวรัสของผู้ป่วยดีขึ้นมากเฉลี่ย 3-4 วันหลังป่วย ทำให้การรักษาได้ผล

“การแถลงในวันนี้ไม่ใช่แถลงชัยชนะของ สธ.ไม่ได้บอกว่าไม่มีผู้ป่วย คือ ชัยชนะของเรา แต่ยืนยันว่า มีผู้ป่วย และมีการแพร่ระบาดยังคงอยู่ ดังนั้น ยังคงไม่ยุติการรณรงค์ และจะดำเนินการต่อไปอย่างเข้มข้น ซึ่งหากมีการระบาดอีกครั้งก็จะพิจารณาความจำเป็นว่าอาจจะมีการแถลงข่าวรายสัปดาห์อีกครั้ง แต่ในระหว่างนี้จะรายงานผลสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเว็บไซด์ของสำนักระบาดวิทยา” นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 หนาแน่น ใน 11 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี ร้อยเอ็ด เชียงราย ลำปาง พะเยา กำแพงเพชร ลพบุรี สระบุรี ชลบุรี และระยอง ทั้งนี้ มีจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ ตาก แม่ฮ่องสอน ลำปาง น่าน พะเยา ลำพูน เลย ชัยภูมิ หนองคาย กาฬสินธุ์ สระแก้ว ระยอง ตราด อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ยะลา นราธิวาส พังงา พัทลุง สตูล และ ระนอง

นายวิทยา กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่พุทธศาสนิกชนจะเดินทางเข้าวัดทำบุญ ดังนั้น สธ.จึงได้ประสานร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ได้ถวายความรู้พระภิกษุจำนวนกว่า 400 รูป เพื่อให้เผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนที่เดินทางมาทำบุญด้วย ส่วนนักเรียนที่กำลังจะเปิดเทอมได้สั่งการให้สถานีอนามัยทุกแห่งดำเนินการคัดกรองให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนยึดแนวปฏิบัติตัวที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ คือกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หากมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ และไม่ดีขึ้น ไข้ไม่ลงใน 2 วัน ต้องรีบพบแพทย์ และให้ทุกจังหวัดคงมาตรการความเข้มข้นในการเฝ้าระวัง ควบคุมกำกับการกระจายยา รวมทั้งประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง

“ขอขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงสื่อมวลชน ที่ช่วยกันรณรงค์เผยแพร่ความรู้ ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วยดีมาโดยตลอด ทำให้ประชาชน ตระหนักและให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ อาทิเช่น การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัดและมีอาการไอ จาม การล้างมือบ่อยๆ ทำให้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในประเทศมีแนวโน้มที่ลดลงมาก” นายวิทยา กล่าว

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รักษาราชการแทนปลัด สธ.กล่าวว่า สำหรับการแถลงข่าวสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ต่อจากนี้ไปจะไม่แถลงทุกสัปดาห์ จะแถลงเมื่อมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง เพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบ โดยจะเผยแพร่ข้อมูลทุกสัปดาห์ ทางเว็บไซต์ www.moph.go.th ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นเดียวกับองค์การอนามัยโลก

ทั้งนี้ นายวิทยา และผู้บริหาร นักวิชาการได้เห็นชอบร่วมกันว่า ต้องรณรงค์ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยให้ประชาชนได้สบายใจว่าเลิกแถลงข่าวจะเลิกดำเนินการ แต่ยังดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป

นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ต่อจากนี้จะเพิ่มการเฝ้าระวังโรคปอดบวมเป็นพิเศษ เนื่องจากโรคนี้จะเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อที่ปอด ซึ่งมีหลายโรคทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 โรคไข้หวัดนก และขอให้ดูโรคอื่นๆที่แทรกเข้ามาในช่วงนี้ที่มีฝนตกน้ำท่วม อาทิ โรคฉี่หนู โรคทางเดินอาหาร โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดงโดยเฉพาะเด็กนักเรียน ซึ่งช่วงปิดเทอมอาจมีการออกไปเที่ยวตามศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ สวนสนุก ร้านอาหาร ขอให้ผู้ปกครองเอาใจใส่ให้เด็กดูแลป้องกันตัวเป็นพิเศษด้วย

“สธ.อยากขอความกรุณา อย่าโทรศัพท์มาป่วนสายด่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของ สธ.หมายเลข 1422 เพราะที่ผ่านมา มีโทรศัพท์ป่วน70-80% ของสายที่โทร.มาทั้งหมด จึงขอความกรุณาด้วย เพราะเกรงว่าคนที่ต้องการจะปรึกษาจะไม่ได้ปรึกษา” นพ.ไพจิตร์ กล่าว

ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัส วิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการถอดรหัสพันธุกรรม เดือนละ 10 ตัว 5 เดือนที่ผ่านมา ไม่พบการกลายพันธุ์ในจุดสำคัญ หมายถึงเชื้อยังมีความเสถียรอยู่ ส่วนการดื้อยาทำไปแล้วกว่า 300 สายพันธุ์ ยังไม่พบการดื้อยา ในต่างประเทศมีการศึกษาบางตำแหน่งว่ามีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ เช่น ตำแหน่งที่ 627 ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เชื้อมีการแบ่งตัวได้ดีขึ้นซึ่งพบที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่เมื่อพิสูจน์แล้วไม่พบว่าทำให้เชื้อมีความรุนแรงขึ้น ซึ่งได้มีการติดตามเชื้ออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การระบาดระลอก2 ในต่างประเทศยังพบว่า เป็นไวรัสสายพันธุ์เดิม 2009 ที่เป็นการระบาดใหญ่ในช่วงต้นปี มีการติดตามจากธนาคารข้อมูลของเชื้อไวรัส

นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้รายงานการใช้ยาโอเซลทามิเวียร์ มีจำนวนลดลง ส่วนวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังมีการทดลองต่อเนื่องมีการผลิตเพาะเลี้ยงเชื้อไวรัสเป็นล็อตๆ ทุกสัปดาห์ แต่สาเหตุที่มีการเลื่อนทดลองวัคซีนในอาสาสมัครออกไป เนื่องจากในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเป็นการเตรียมส่วนผสมให้วัคซีนมีความคงตัว ซึ่ง ตามหลักของวัคซีนทั่วไปจะต้องทำให้วัคซีนคงตัวในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส แต่การทดลองครั้งนี้ไม่เป้นไปตามที่คาดหวังไว้ จึงต้องหาสูตรที่เหมาะสมกับภูมิอากาศในประเทศจึงอาจต้องใช้เวลาในการวิจัยพอสมควรและต่อจากนี้คงไม่กดดันนักวิจัยในเรื่องของเวลา เมื่อพร้อมจึงจะมีการทดลองในคนต่อไป ส่วนการสำรองวัคซีน ขณะนี้เป็นจำนวนตามที่องค์การอนามัยโลกได้ให้คำแนะนำ
กำลังโหลดความคิดเห็น