xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” เล็งหาช่องลดราคาหนังสือดึงเด็กอ่านเพิ่ม คุยเรียนฟรี 15 ปีเจ๋ง ใครเป็น รบ.ไม่กล้าเมิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“มาร์ค” แย้มแผนปฏิรูปการศึกษารอ บ2 ลดปริมาณตำราแก้ปัญหานักเรียนลากกระเป๋าเดินทางไปเรียน ชี้ ยุคนี้มีอินเทอร์เน็ต แต่ผู้ใหญ่หวังดียังจับยัด เล็งหาช่องลดราคาหนังสือให้เด็กอ่านมากขึ้น คุยเรียนฟรี 15 ปี เจ๋งจริง รัฐบาลใหม่ไม่กล้าตัดออกจากนโยบายแน่นอน

วันนี้ (20 ก.ย.) ในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามกลุ่มเยาวชน “แรงคิด” ซึ่งเป็นกลุ่มลูกหลานบุคคลเดือนตุลาฯ และ น้องเดียว หรือ ด.ช.พันธดนย์ เกลี้ยงจันทร์ เด็กอัจฉริยะจากรายการเกมทศกัณฐ์เด็ก ถึงปัญหาต่างๆ ของเยาวชนทั้งเรื่องการศึกษาและปัญหายาเสพติด เนื่องจากวันที่ 20 ก.ย.เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ ว่า ในส่วนของกิจกรรมวันเยาวชนแห่งชาติโดยปกติแล้วกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) จะเป็นหน่วยงาน ที่รับผิดชอบ ก็จะมีการจัดงาน แต่ว่าจริงๆ สำคัญกว่านั้นก็คือช่วงนี้เป็นช่วงที่เราพยายามที่จะเร่งงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนด้วย โดยจะมีการเตรียมการเรื่องของการที่จะมีการจัดเป็นสมัชชา เพราะว่าตอนนี้เรามีเรื่องของสภาเด็กและเยาวชน ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ เพราะฉะนั้น ก็จะมีกิจกรรมต่อเนื่อง แต่ว่าเรื่องของเด็ก เยาวชน ก็มีประเด็นเยอะไปหมดเลย

ชู 5 รั้วป้องกัน ขจัดยาเสพติด
ตัวแทนเยาวชนถามว่า จะมีการจัดการอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดที่ระบาดอยู่ในประเทศ เพราะว่ามีผลต่อการศึกษาของเด็กและเยาวชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็มีนโยบายที่เราเรียกว่า 5 รั้วป้องกัน ไม่ให้ยาเสพติดเข้ามา ให้ครอบครัว ชุมชน โรงเรียนต่างๆ มาช่วยกันทำงาน ก็อยากจะบอกว่ายังน่าเป็นห่วงอยู่ แต่ระยะยาวจริงๆ นี้อยู่ที่เด็กๆ ถ้าพวกเราทุกคนโตขึ้น ไม่มีใครสนใจที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลย ไม่มียาเสพติด พ่อค้ายาเสพติดไม่รู้จะไปขายใคร เพราะฉะนั้นอยู่ที่ทุกคนตรงนี้ ถ้าบอกว่าไม่ยุ่งไม่เกี่ยวกับยาเสพติด ยาเสพติดหมดไปเอง

เมื่อถามถึงเรื่องการศึกษาตอนนี้เด็กๆ เรียนหนักมากถ้าจบออกมาจะต้องใช้นำไปใช้มากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกว่าเด็กของเราเรียนเยอะเกิน เพราะว่ามีความคิดว่าในยุคสมัยนี้ ที่จริงอยากจะรู้อะไร มันไม่มีวันสิ้นสุด ถ้ามาบอกว่าเด็กต้องรู้ทุกอย่างจนตายก็เรียนไม่จบ ต้องเรียนไปเรื่อยๆ มันมีอะไรเยอะแยะไปหมด แต่สิ่งสำคัญจริงๆ คือ ว่าที่เราเรียนและเราจะได้ใช้ มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น ถ้าเริ่มจากเด็กๆ ก็ต้องคำนวณได้ ใช้ภาษาได้ แต่รู้จักที่จะอยู่กับเพื่อน เล่นกับเพื่อน และเริ่มมีความรู้เกี่ยวกับตัวเอง ประเทศ สังคม ประวัติศาสตร์ของเรา และก็วิทยาศาสตร์ ว่าสภาพความเป็นจริง ธรรมชาติเป็นอย่างไรและเติบโตขึ้นมาก็ค่อยไปดูในเรื่องของการที่ว่าจะไปประกอบอาชีพอะไร ก็ต้องมีความรู้ มีทักษะ มีสิ่งที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ แต่ว่าจริงๆ มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น ยุคนี้ก็มีเรื่องคอมพิวเตอร์อีกเรื่องหนึ่ง อาจจะแถมไปนอกจากคำนวณกับภาษา

“มันก็เป็นเรื่องแปลกว่า คือ ผมว่าบางทีผู้ใหญ่หวังดีใช่ไหม จะทำหลักสูตร เรื่องนี้ก็น่ารู้นะ เรื่องนี้ก็น่าจะใส่ๆ เข้าไป เพราะผมก็พูดมาตลอดว่ามันน่าสงสารน่ะ สมัยผมเป็นเด็กตัวเล็กมาก ผมก็ถือกระเป๋า เมื่อก่อนก็ถือกระเป๋าอย่างนี้ กระเป๋ามันก็อ้วนมาก และวันไหนเรียนมากๆ เดินไปโรงเรียนตัวเอียงอย่างนี้ ทีนี้ตอนหลังเขาก็เปลี่ยนมาเป็นเป้ ก็หนัก ๆ มากเริ่มหงายหลัง เดี๋ยวนี้ผมเห็นเด็กๆลากกระเป๋าอย่างกับไปสุวรรณภูมิ กระเป๋าเดินทาง ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก เราปล่อยอย่างนี้ไม่ได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เน้นปฏิรูปการศึกษารอบ 2 สร้างเด็กคิดเป็น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้ขอให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนการปฏิรูปการศึกษารอบ2 ว่าจริง ๆ จะต้องปรับลดอย่างไร เพราะสิ่งสำคัญคือ นอกจากสิ่งพื้นฐานที่จำเป็นต้องรู้ และต่อไปก็มองในแง่ของการประกอบอาชีพแล้ว สิ่งที่การศึกษาควรจะให้เด็กมากกว่าก็คือ ทำอย่างไรเขาเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ตอนนี้ถามว่าเวลาอยากจะรู้อะไร ทำอะไร ก็ต้องเข้าเว็บไซต์ เข้าอินเตอร์เน็ต และต้องดูว่าอันไหนของจริง อันไหนของปลอม ต้องคิดเองได้ เพราะฉะนั้น ถ้าสามารถทำให้เด็กคิดได้ คิดเป็น นั่นสำคัญที่สุด

“คนที่รู้เยอะตอนนี้แต่คิดไม่เป็นกับคนที่อาจจะเริ่มจากแทบไม่รู้อะไรเลยนะ แต่คิดเป็น ผมให้ว่าไม่เกิน 2-3 ปี คนที่คิดเป็นไปได้ คนที่รู้ทุกอย่างแต่คิดไม่เป็น มันก็คือของเดิม แล้วก็ลืมไปเรื่อย และก็มีความรู้คือใช้ไม่ได้แล้ว ก็ลดลงไปเรื่อย ลดลงไปเรื่อย เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นเรื่องท้าทายรัฐบาลว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร” นายกฯ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันด้วยว่า หลายเรื่องเรียนจากหนังสือไม่ได้ อาทิ เรื่องประชาธิปไตย เรียนจากการอ่านก็ยาก สมัยตนเรียนหนังสือ จำได้อย่างเดียว สมัยที่เขาสอนเรื่องประชาธิปไตย เขาก็บอกอำนาจอธิปไตยแบ่งเป็น 3 ฝ่าย นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เราเข้าใจจริงๆ ว่า ประชาธิปไตยคืออะไร แล้วก็ต่อมาตอนหลังก็มีทำกิจกรรมบ้าง ให้เด็กเลือกตั้ง อะไรต่างๆ แต่ก็ยังไม่ถึงแก่นของมันจริงๆ หลายเรื่องยืนยันว่าต้องเรียนจากกิจกรรม

รับห่วงคณิต-วิทย์ฯ หลังคะแนนเด็กต่ำ
เมื่อถามว่าเรื่องคุณภาพการศึกษาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีหลายเรื่องน่าเป็นห่วง เพราะว่าเขาจะมีการทดสอบความรู้พื้นฐานเด็ก วิชาที่เรียกว่า เป็นวิชาพื้นฐาน ก็จะพบว่าเด็กคะแนนเรื่องคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ค่อนข้างจะต่ำ เป็นตัวที่สะท้อนว่าระบบของเราต้องปรับปรุง เราก็จะพยายามใช้เรื่องของการเข้ามาประเมินคุณภาพและดูว่าจุดอ่อนอยู่ที่ไหน อาจจะเป็นเพราะว่าครูไม่พอ จริงๆ อย่างระดับมัธยมศึกษา ครูวิทยาศาสตร์มีปัญหาความขาดแคลน ก็จะได้แก้ให้ตรงจุด แต่ว่าของอย่างนี้ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เพราะทำวันนี้อาจจะอีกนานกว่าจะเห็นผล

พยายามเข้าใจเรื่องใหญ่ ก่อนดูรายละเอียด เคล็ดลับเรียนดี
เมื่อถามว่ามีเคล็ดลับยังไงที่ให้ผู้อื่นเรียนหนังสือเก่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อันนี้ตอบยากจริงๆ เพราะว่าตนก็สังเกตว่าแต่ละคนมีเคล็ดลับไม่เหมือนกัน บางคนอ่านหนังสือต้องอยู่คนเดียวเงียบๆ บางคนไม่ได้อ่านไปต้องมีขนมกินไปด้วยถึงจะจำได้ บางคนอ่านไปฟังเพลงไป บางคนขี้เหงาอ่านคนเดียวไม่ได้ต้องมีเพื่อนอ่านด้วย คือ ต้องหาจุดของตัวเองก่อน ว่าแบบไหนที่ทำให้สามารถที่จะเข้าใจ สามารถที่จะจดจำเรื่องต่างๆ ได้ สำหรับตนเวลาเรียนหนังสือ คือใช้คำว่าพยายามเข้าใจก่อน ว่าเรื่องใหญ่มันเป็นอย่างไร ให้เข้าใจก่อน แล้วค่อยไปดูรายละเอียด สังเกตว่าหลายคนไปกังวลว่ารายละเอียดยังไม่เข้าใจ และเสียเวลากับมันมาก เสร็จแล้วเหมือนกับภาพต่อที่มันต่อไม่เสร็จ

เมื่อถามว่ามีวิธีอย่างไรให้เด็กในประเทศไทยอ่านหนังสือให้มากขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะทำทั้งโครงการหนังสือเล่มแรกและจะมีเรื่องการเพิ่มห้องสมุดแหล่งเรียนรู้ และตอนนี้กำลังหาทางว่าทำอย่างไรหนังสือราคาถูกลงด้วย เพราะตอนหลังกระดาษหนังสือ รู้สึกว่าแพงขึ้น โดยเฉพาะหนังสือเด็กแพงมาก เพราะว่าต้องรูปเล่มเยอะหน่อย

คุยเรียนฟรี 15 ปีเจ๋ง ใครเป็นนายกฯ ก็ไม่กล้าตัดทิ้ง
เมื่อถามว่า โครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ จะดำเนินต่อไปหรือไม่เมื่อนายกฯ หมดวาระแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่จริงถ้าเป็นนโยบายทั่วๆ ไปก็ต้องตอบว่ามันต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่า ใครมาเป็นผู้นำเขาตัดสินใจยังไง แต่กรณีนี้คิดว่ายังไงก็ต้องเดินต่อ เพราะว่าจริงๆ ตามรัฐธรรมนูญมันเป็นสิทธิ์ของคนไทยทุกคนที่จะได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างน้อย12ปี เพราะฉะนั้นถ้าเกิดใครไม่อยากทำจริงๆ อย่างมากก็ลดมา 3 ปี คือ 15 เหลือ 12 ปี

“ผมยังค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะมีใครนั้นถ้ามาเป็นนายกฯ ในอนาคต แล้วมาคิดว่าไม่เอาแล้ว ไม่ให้เด็กเรียนฟรี โดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตยซึ่งต้องแข่งขันกันอยู่แล้ว ผมก็ยังนึกภาพไม่ออกว่ามีพรรคไหนจะขึ้นหาเสียงบอกว่า ถ้าให้เป็นนายกฯ แล้ว เรียนฟรีจะไม่ให้แล้ว” นายกฯ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น