นักวิชาการเสนอมาตรการระยะสั้นคุม ขรก.เบิกค่ารักษาแพง งัด 2 มาตรการ บังคับใช้ยาในบัญชียาหลัก-เชือด ขรก.ชอปปิ้งยาเบิกไปขาย ส่วนมาตรการระยะยาวคาดอีก 3-4 เดือน สรุปผลเสนอทางเลือกให้รัฐบาล
นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในนักวิจัยคณะทำงานแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายงบประมาณระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการสูง เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายงบประมาณระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการสูงจะออกมาตรการในการแก้ไขปัญหา โดยเป็นมาตรการในระยะสั้น 30 วัน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวช่วงต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งแนวทางใหญ่ๆที่จะออกมาตรการนั้น คือ 1 มาตรการในการบังคับใช้หรือมีกลไกให้ข้าราชการใช้ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติมากขึ้น
“นอกจากนี้ ยังมีมาตรการในการดำเนินการทางบทลงโทษกับข้าราชการผู้ที่มีพฤติกรรมในการเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลหลายแห่งและเบิกจ่ายยาเป็นจำนวนมากและนำไปขาย โดยจะดำเนินการกับกลุ่มคนเหล่านี้มากขึ้น อย่างไรก็ตามมาตรการระยะสั้นฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการหารือเพื่อสรุปรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่ง” นพ.จิรุตม์ กล่าว
นพ.จิรุตม์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งมาตรการในระยะยาวทางฝ่ายวิชาการโดยมีศ.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เป็นประธานคณะทำงานจะศึกษารูปแบบการแก้ไขปัญหาในระยะยาวถึงแนวทางปฏิบัติ คาดว่า อีกประมาณ 3-4 เดือน จะสรุปผลการศึกษาให้เป็นองค์ความรู้ทางเลือกต่างๆ ก่อนนำเสนอให้รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินการ
“การแก้ไขปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องมีกลไกในการจัดการและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมบัญชีกลางทำหน้าที่ในการดูแลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ โดยสถานพยาบาลเบิกตรงกับกรมบัญชีกลาง แต่ตามกฎหมายกลับไม่ให้อำนาจกรมบัญชีกลางในการกำหนดราคาค่ารักษาพยาบาลกลางที่สถานพยาบาลจะเบิกจ่าย” นพ.จิรุตม์ กล่าว
นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในนักวิจัยคณะทำงานแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายงบประมาณระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการสูง เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายงบประมาณระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการสูงจะออกมาตรการในการแก้ไขปัญหา โดยเป็นมาตรการในระยะสั้น 30 วัน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวช่วงต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งแนวทางใหญ่ๆที่จะออกมาตรการนั้น คือ 1 มาตรการในการบังคับใช้หรือมีกลไกให้ข้าราชการใช้ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติมากขึ้น
“นอกจากนี้ ยังมีมาตรการในการดำเนินการทางบทลงโทษกับข้าราชการผู้ที่มีพฤติกรรมในการเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลหลายแห่งและเบิกจ่ายยาเป็นจำนวนมากและนำไปขาย โดยจะดำเนินการกับกลุ่มคนเหล่านี้มากขึ้น อย่างไรก็ตามมาตรการระยะสั้นฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการหารือเพื่อสรุปรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่ง” นพ.จิรุตม์ กล่าว
นพ.จิรุตม์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งมาตรการในระยะยาวทางฝ่ายวิชาการโดยมีศ.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เป็นประธานคณะทำงานจะศึกษารูปแบบการแก้ไขปัญหาในระยะยาวถึงแนวทางปฏิบัติ คาดว่า อีกประมาณ 3-4 เดือน จะสรุปผลการศึกษาให้เป็นองค์ความรู้ทางเลือกต่างๆ ก่อนนำเสนอให้รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินการ
“การแก้ไขปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องมีกลไกในการจัดการและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมบัญชีกลางทำหน้าที่ในการดูแลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ โดยสถานพยาบาลเบิกตรงกับกรมบัญชีกลาง แต่ตามกฎหมายกลับไม่ให้อำนาจกรมบัญชีกลางในการกำหนดราคาค่ารักษาพยาบาลกลางที่สถานพยาบาลจะเบิกจ่าย” นพ.จิรุตม์ กล่าว
