สปส.-สปสช.และ กรมบัญชีกลาง ไม่เห็นด้วยในการรวม 3 กองทุนรักษาพยาบาลในขณะนี้ ระบุหลักการดี แต่ยังไม่มีความพร้อม เพราะมาตรฐานยังไม่เท่ากัน เชื่อแรงต้านสูงหากรีบร้อนดำเนินการ
ในงานเสวนา เรื่องทิศทางการคุ้มครองสุขภาพคนไทยในอนาคต ซึ่งสำนักงานประกันสังคม (สปส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมบัญชีกลางในฐานะกำกับดูแลกองทุนสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ร่วมหารือถึงแนวทางในการรวม 3 กองทุนเข้าด้วยกัน
ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคม กล่าวว่า ปัญหาการรวม 3 กองทุนเป็นปัญหาที่มีมานาน แม้หลักการจะดีแต่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากมาตรฐานในการดูแลและบริหารจัดการทั้ง 3 กองทุน ยังไม่เท่าเทียมกัน อาทิ การเบิกจ่ายยานอกบัญชียาหลักของข้าราชการ ที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกินความจำเป็น ส่วน สปสช.ยังมีปัญหาในการยกระดับมาตรฐานโรงพยาบาลในชนบท ส่วนสปส.มีปัญหามาตรฐานการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนบางกลุ่ม ที่ทำให้ผู้ประกันตนขอปลี่ยนไปรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ ทำให้โรงพยาบาลรัฐต้องประสบปัญหาขาดทุนในขณะนี้
ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการเงินการคลัง สปสช. กล่าวว่า แนวคิดในการรวม 3 กองทุน เป็นแนวคิดที่กลับหัวกลับหาง เพราะทั้ง 3 กองทุนมีความแตกต่างกันมาก ควรทำงานวิจัยเพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างการใช้สิทธิของ 3 หน่วยงานนี้ หากผลีผลามรวมกองทุนเข้าด้วยกันจะเกิดแรงต้านจากประชาชนมาก ทางแก้ปัญหา คือ ต้องทยอยปรับสิทธิประโยชน์ ของ 3 กองทุนให้เหมือนกัน จนประชาชนไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง ดังนั้น จึงอยากให้ชะลอการรวม 3 กองทุนไปก่อน แต่ต้องมีเป้าหมายและขั้นตอนที่กำหนดระยะเวลา ให้ชัดเจนในอนาคต
นายมนัส แจ่มเวหา ที่ปรึกษากรมบัญชีกลาง กองทุนสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการรวม 3 กองทุนเข้าด้วยกัน หาก สปสช.และ สปส.อยู่ในระบบที่มีมาตรฐานเดียวกับข้าราชการ โดยยืนยันว่าต้องไม่มีการรอนสิทธิเดิม ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและตรวจสอบการเบิกจ่ายยาที่ไม่ถูกต้อง
ในงานเสวนา เรื่องทิศทางการคุ้มครองสุขภาพคนไทยในอนาคต ซึ่งสำนักงานประกันสังคม (สปส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมบัญชีกลางในฐานะกำกับดูแลกองทุนสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ร่วมหารือถึงแนวทางในการรวม 3 กองทุนเข้าด้วยกัน
ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคม กล่าวว่า ปัญหาการรวม 3 กองทุนเป็นปัญหาที่มีมานาน แม้หลักการจะดีแต่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากมาตรฐานในการดูแลและบริหารจัดการทั้ง 3 กองทุน ยังไม่เท่าเทียมกัน อาทิ การเบิกจ่ายยานอกบัญชียาหลักของข้าราชการ ที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกินความจำเป็น ส่วน สปสช.ยังมีปัญหาในการยกระดับมาตรฐานโรงพยาบาลในชนบท ส่วนสปส.มีปัญหามาตรฐานการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนบางกลุ่ม ที่ทำให้ผู้ประกันตนขอปลี่ยนไปรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ ทำให้โรงพยาบาลรัฐต้องประสบปัญหาขาดทุนในขณะนี้
ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการเงินการคลัง สปสช. กล่าวว่า แนวคิดในการรวม 3 กองทุน เป็นแนวคิดที่กลับหัวกลับหาง เพราะทั้ง 3 กองทุนมีความแตกต่างกันมาก ควรทำงานวิจัยเพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างการใช้สิทธิของ 3 หน่วยงานนี้ หากผลีผลามรวมกองทุนเข้าด้วยกันจะเกิดแรงต้านจากประชาชนมาก ทางแก้ปัญหา คือ ต้องทยอยปรับสิทธิประโยชน์ ของ 3 กองทุนให้เหมือนกัน จนประชาชนไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง ดังนั้น จึงอยากให้ชะลอการรวม 3 กองทุนไปก่อน แต่ต้องมีเป้าหมายและขั้นตอนที่กำหนดระยะเวลา ให้ชัดเจนในอนาคต
นายมนัส แจ่มเวหา ที่ปรึกษากรมบัญชีกลาง กองทุนสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการรวม 3 กองทุนเข้าด้วยกัน หาก สปสช.และ สปส.อยู่ในระบบที่มีมาตรฐานเดียวกับข้าราชการ โดยยืนยันว่าต้องไม่มีการรอนสิทธิเดิม ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและตรวจสอบการเบิกจ่ายยาที่ไม่ถูกต้อง
