xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คสั่งรื้อระบบสวัสดิการขรก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมการจัดสวัสดิการข้าราชการ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รวมถึงกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ว่า จริงๆแล้วเรื่องนี้ต้องให้ นายวิทยา แก้วภารดัย รมว.สาธารณสุข เป็นผู้ชี้แจง เพราะกระทรวงการคลัง เป็นเพียง ผู้ร่วมประชุมเท่านั้น และ เรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบายระดับสูง แต่จุดประสงค์ที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมในครั้งนี้คือ ต้องการให้มาดูค่ารักษาพยาบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรี ต้องการให้มองในเชิงโครงสร้างทั้งระบบว่าควรจะดำเนินการอย่างไรดี
นายสถิตย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการศึกษาระบบสวัสดิการสุขภาพทั้งระบบ คือ ระบบสวัสดิการข้าราชการ ระบบประกันสังคม และ ระบบสุขภาพถ้วนหน้า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่า จะต้องศึกษาภายใน กรอบเวลาระยะสั้นให้เสร็จภายใน 30 วัน ส่วนในระยะปานกลางให้มาหารือกันอีกครั้งหนึ่งซึ่งโดยหลักการใหญ่ คือ ต้องร่วมมือกันทำงานระหว่าง กรมบัญชีกลาง สศช. กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงสาธารณสุข
ผู้สื่อข่าวถามว่าระบบสวัสดิการข้าราชการปัจจุบันเป็นภาระงบประมาณมาก ใช่หรือไม่จ งต้องมีการปรับปรุงใหม่ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าพูดได้เพียงว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบายระดับสูง
รายงานข่าวแจ้งว่า นายกฯ ต้องการให้เรื่องระบบสวัสดิการการรักษาพยาบาล เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาแต่ละระบบ ต่างคนต่างทำกันคนละแบบ โดยเน้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาศึกษา เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการหารือเรื่องสวัสดิการข้าราชการครั้งนี้นายกรัฐมนตรี ต้องการปรับปรุงระบบการรักษาพยาบาลทั้ง 3 ระบบ ให้มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ โดยเฉพาะสิทธิความเท่าเทียมกัน เนื่องจากทั้ง 3 ระบบยังมีความไม่เท่าเทียมกันจนเกิดความลักลั่นระหว่างกันมาก จึงมอบหมายให้กรมบัญชีกลาง สศช. และกระทรวงสาธารณสุข เร่งไปหารือเพื่อปรับระบบโครงสร้างการรักษาพยาบาลใหม่ทั้งหมด
ก่อนหน้านี้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการสูงมากและถูกวิจารณ์มากว่าเบิกจ่ายโดยไม่จำเป็น หรือบางครั้งไม่ได้เป็นการรักษาพยาบาลที่แท้จริง เช่นการนวดแผนโบราณ หรือการทำสปา เป็นต้น
เห็นว่าควรปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เช่นอาจให้ข้าราชการจ่าย เองบ้าง 10-20 % ซึ่งจะเร่งหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อหาทางลดค่าใช้จ่ายด้าน การรักษาพยาบาลลงจากปัจจุบันที่มีอัตราเติบโตสูงถึงปีละ 15,000 ล้านบาท รวมทั้งการเบิกจ่ายแต่ละปีก้าวกระโดดมากโดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจากที่เคยเบิกจ่ายปีละ 30,000 ล้านบาท เป็น 80,000 ล้านบาทในปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น