“ม.ล.วัลย์วิภา” นำทีมยื่นฟ้องศาลแพ่ง มี “ฮุนเซน” เป็นจำเลยที่ 1 ตามด้วย “ฮอร์ นัม ฮง” และ “ซก อาน” ข้อหาละเมิดสิทธิ์ตาม รธน.ขอให้ศาลชี้ว่า อธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร และบริเวณพิพาทเป็นของไทย ให้มีคำสั่งขับจำเลยพร้อมบริวารออกจากพื้นที่ และเรียกร้องขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว พร้อมวอน “นายกฯมาร์ค” เข้าใจและเห็นใจในหัวใจรักชาติของประชาชน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายเทพมนตรี ลิมปพยอม ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (11 ก.ย.) ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ สถาบันไทยคดีศึกษา แกนนำกลุ่มภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร จำนวนกว่า 10 คน เดินทางไปยังศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้องสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา เป็นจำเลยที่ 1 ยื่นฟ้องนายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศกัมพูชา เป็นจำเลยที่สอง ยื่นฟ้องนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา พร้อมบริวาร ในข้อหาละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมี นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระ เป็นโจทก์รายที่ 1 และมีโจทก์ร่วมฟ้องในคดีนี้อีก 9 ราย
เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษา ว่า อำนาจอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร และบริเวณพื้นที่ในคดีนี้เป็นของโจทก์ของคนไทยทั้งประเทศ และของราชอาณาจักรไทย ขอให้จำเลยทั้ง 3 พร้อมบริวาร ออกไปจากบริเวณอำนาจอธิปไตยของโจทก์ของปวงชนชาวไทย และของราชอาณาจักรไทย พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้จำเลยพร้อมพวกหยุดการกระทำที่ละเมิดต่อโจทก์
“ศาลแพ่งประทับรับฟ้องคดีนี้เป็นคดีดำเลขที่ 5317/2552 ซึ่งเราดีใจมากที่ศาลประทับรับฟ้อง เพราะนั่นแสดงว่ามีมูล กรณีนี้เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนเราอยู่ในบ้านเรา ฮุนเซนเป็นเจ้าของสถานประกอบการที่มาลงทุนทำกิจการในประเทศไทยนานกว่า 2 ปี หลังจาก 2 ปีแล้วบริวารของเขาก็เข้ามารุกล้ำในบ้านเรา มาทำมาหากินหาประโยชน์ในบ้านเรา เราจึงฟ้องเพื่อให้บริวารของเขาออกไปจากบ้านเรา เพราะเราเหล่าบริวารของเขาแล้วก็ไม่ออก เราจึงต้องฟ้องเจ้าของสถานประกอบการ นี่คือเปรียบเทียบให้เห็นชัดแบบง่ายๆ นะคะ”
ม.ล.วัลย์วิภา ยังแสดงความเห็นต่อข่าวที่กองกำลังเขมรรุกคืบเข้ามาในบริเวณปราสาทตาเมือนธมของไทย และตั้งฐานปฏิบัติการส่วนหน้าอยู่ห่างไปเพียงแค่ 100 เมตร ว่า เป็นท่าทีที่แสดงออกอย่างชัดเจนของกัมพูชา ที่ต้องการได้พื้นที่ของไทยตามแผนที่ที่เขาได้ประโยชน์
“เขาต้องการเปลี่ยนเส้นเขตแดนให้เป็นไปตามแผนที่ฉบับอัตราส่วนพื้นที่ 1 ต่อ 2 แสน เห็นชัดมากว่าเขาต้องการพื้นที่ประเทศไทย ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลไทยต้องไปรื้อฟื้นคำตัดสินศาลโลกขึ้นมาตีความอีก จริงๆ ก็ยินดีหากต้องร่วมตีความในเชิงวิชาการ แต่คำตัดสินศาลโลกมันจบตั้งแต่ปี 2505 รัฐบาลไทยทำแบบนี้เหมือนไปเอื้อเขา ไปช่วยให้ ไปเอาคำพิพากษามาดูใหม่ในจังหวะที่มีเรื่องของวาระซ่อนเร้นกรณีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลบริเวณพื้นที่ที่อ้างว่าเป็นเขตทับซ้อน”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ม.ล.วัลย์วิภา ได้ฝากข้อความถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า ขอให้เห็นใจและเข้าใจในความรักชาติรักแผ่นดินของคนไทยบ้าง ไม่ใช่ว่าขึ้นไปทำงานในระดับบริหารแล้วจะไม่สนใจ ไม่เข้าใจ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีประเทศ แต่รัฐบาลไทยกลับไม่ทำอะไร ปล่อยให้ประชาชนต้องออกมาเรียกร้องปกป้องประเทศกันเอง
นายวีรา ชัยฤทธิไชย ซึ่งเป็นทนายของ นายเทพมนตรี ลิปพยอม ได้นำเอกสารมายื่นฟ้องที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดา ในคดีี นายเทพมนตรี กับพวก 9 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสมเด็จฮุนเซน กับพวกอีก 2 คน ในข้อหาทำการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญปี 2550