สปสช.รับรางวัลกองทุนเงินหมุนเวียนผลการดำเนินงานดีเด่นจาก ก.คลังเป็นปีที่ 2 ติดกัน หวังสร้างแรงจูงใจ ภาคภูมิใจ พัฒนางานต่อเนื่อง
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทุนหมุนเวียนนับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐสำเร็จบรรลุเป้าหมายและตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ปัจจุบันกระทรวงการคลังกำกับดูแลการดำเนินงานขององทุนเงินนอกงบประมาณประเภททุนหมุนเวียนจำนวน 107 กองทุน มีสินทรัพย์รวม 1.74 ล้านบาท ซึ่งในปี 2551 เป็นปีแรกที่กรมบัญชีกลางได้พิจารณาคัดเลือกกองทุนหมุนเวียนดีเด่น และในปี 2552 ก็ดำเนินงานต่อเนื่อง ซึ่งจะทำเป็นประจำทุกปี โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น และรางวัลการพัฒนาดีเด่น เพื่อสร้างแรงจูงใจ ความภาคภูมิใจ และผลักดันให้กองทุนหมุนเวียนต่างๆ พัฒนาการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะทำให้ประชาชนและผู้รับบริการของกองทุนหมุนเวียนต่างๆได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินงานต่อ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และว่าจ้างที่ปรึกษาภายนอกในการติดตามประเมินผลและคัดเลือก
นพ.พฤฒิชัย กล่าวต่อว่า ในปี 2552 มีกองทุนหมุนเวียนที่ได้รับรางวัลดังนี้ 1.ประเภทผลการดำเนินงานดีเด่น 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา และเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการแสดงเหรียญกษาปณ์และเงินตราไทย 2.ประเภทการพัฒนาดีเด่น 2 กองทุน ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียนโรงงานเภสัชกรรมทหาร และเงินทุนหมุนเวียนศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ
ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช.ในฐานะองค์กรบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น มีหน้าที่บริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพให้กับประชาชนไทยที่ไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลจากระบบประกันสังคม หรือระบบสวัสดิการข้าราชการ โดย สปสช.มีการบริหารงบประมาณที่ให้ความสำคัญกับการกระจายความเป็นธรรม มุ่งเน้นการกระตุ้นให้เกิดประสิทธิภาพและคุณภาพการจัดบริการ รวมทั้งบริหารเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงบริการของประชาชนกลุ่มที่มีความจำเป็นด้านสุขภาพมากที่สุด
ทั้งนี้ ในปี 2552 กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีงบประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ครอบคลุมคนไทยร้อยละ 99.18 หรือ 47 ล้านคนที่มีหลักประกันสุขภาพ การรักษาพยาบาล การป้องกันโรค และการฟื้นฟูสุขภาพ และการส่งเสริมป้องกันโรคให้กับคนไทยทั่วประเทศ และได้รับการประเมินจากบริษัท ไทยเรตติ้งแอนด์อินฟอร์เมชันเซอร์วิส จำกัด(สถาบันทริส) ให้เป็นกองทุนที่มีผลงานดีเด่นต่อเนื่องติดต่อเป็นปีที่ 2 จากกระทรวงการคลัง
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทุนหมุนเวียนนับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐสำเร็จบรรลุเป้าหมายและตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ปัจจุบันกระทรวงการคลังกำกับดูแลการดำเนินงานขององทุนเงินนอกงบประมาณประเภททุนหมุนเวียนจำนวน 107 กองทุน มีสินทรัพย์รวม 1.74 ล้านบาท ซึ่งในปี 2551 เป็นปีแรกที่กรมบัญชีกลางได้พิจารณาคัดเลือกกองทุนหมุนเวียนดีเด่น และในปี 2552 ก็ดำเนินงานต่อเนื่อง ซึ่งจะทำเป็นประจำทุกปี โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น และรางวัลการพัฒนาดีเด่น เพื่อสร้างแรงจูงใจ ความภาคภูมิใจ และผลักดันให้กองทุนหมุนเวียนต่างๆ พัฒนาการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะทำให้ประชาชนและผู้รับบริการของกองทุนหมุนเวียนต่างๆได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินงานต่อ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และว่าจ้างที่ปรึกษาภายนอกในการติดตามประเมินผลและคัดเลือก
นพ.พฤฒิชัย กล่าวต่อว่า ในปี 2552 มีกองทุนหมุนเวียนที่ได้รับรางวัลดังนี้ 1.ประเภทผลการดำเนินงานดีเด่น 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา และเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการแสดงเหรียญกษาปณ์และเงินตราไทย 2.ประเภทการพัฒนาดีเด่น 2 กองทุน ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียนโรงงานเภสัชกรรมทหาร และเงินทุนหมุนเวียนศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ
ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช.ในฐานะองค์กรบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น มีหน้าที่บริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพให้กับประชาชนไทยที่ไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลจากระบบประกันสังคม หรือระบบสวัสดิการข้าราชการ โดย สปสช.มีการบริหารงบประมาณที่ให้ความสำคัญกับการกระจายความเป็นธรรม มุ่งเน้นการกระตุ้นให้เกิดประสิทธิภาพและคุณภาพการจัดบริการ รวมทั้งบริหารเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงบริการของประชาชนกลุ่มที่มีความจำเป็นด้านสุขภาพมากที่สุด
ทั้งนี้ ในปี 2552 กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีงบประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ครอบคลุมคนไทยร้อยละ 99.18 หรือ 47 ล้านคนที่มีหลักประกันสุขภาพ การรักษาพยาบาล การป้องกันโรค และการฟื้นฟูสุขภาพ และการส่งเสริมป้องกันโรคให้กับคนไทยทั่วประเทศ และได้รับการประเมินจากบริษัท ไทยเรตติ้งแอนด์อินฟอร์เมชันเซอร์วิส จำกัด(สถาบันทริส) ให้เป็นกองทุนที่มีผลงานดีเด่นต่อเนื่องติดต่อเป็นปีที่ 2 จากกระทรวงการคลัง