วธ.กรี๊ด! พบผู้ประกอบการหัวหมอขอใบอนุญาตร้านวีดิทัศน์บังหน้าขายแผ่นผี ขู่หากพบให้ลงโทษปรับ 1 แสนบาท หนักสุดถอนใบอนุญาต สวช.โร่ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเข้ม วอนประชาชนแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิด
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ผ่านมา ผู้ประกอบการมีข้อกังวลเกี่ยวกับการที่ สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้ออกใบอนุญาตการประกอบกิจการร้านวิดีทัศน์ จำหน่ายหรือเช่า ดีวีดี วีซีดี ภาพยนตร์ เพลง ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย แต่กลับพบว่ามีผู้ประกอบการบางรายเปิดร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หรือแผ่นผีซีดีเถื่อน โดยมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องจาก สวช.บังหน้า ดังนั้น ตนจะสั่งการให้ สวช.เร่งดำเนินการตรวจสอบหากพบว่า ร้านใดมีใบอนุญาตแต่ใช้ในทางที่ผิดจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แผ่นซีดีเถื่อน ให้จัดการขั้นเด็ดขาด ลงโทษตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551
นายธีระกล่าวต่อไปว่า ร้านใดที่นำวิดีทัศน์ หนัง เพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจพิจารณา ถือว่ากระทำการขัด พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ในหมวดที่ 4 การประกอบกิจการวีดิทัศน์ มาตรา 47 ซึ่งระบุว่า วิดีทัศน์ที่จะนำออกฉาย ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายในราชอาณาจักรต้องผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มีโทษทางอาญา ตามมาตราที่ 81 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 46 หรือ 47 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท รวมทั้งยังขัดขัดมาตรา 58 ด้วย โดยวีดิทัศน์ที่ผู้รับใบอนุญาตมีไว้ในสถานที่ประกอบกิจการของตนเพื่อนำออกฉาย ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายต้องมีลักษณะเช่นเดียวกับวีดิทัศน์ที่ผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาต จะมีความผิดตามมาตรา 80 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากพบผู้ประกอบการกระทำความผิด ใช้ช่องว่างทางกฎหมายประกอบกิจการโดยมิชอบ ให้ สวช.ดำเนินการยึดหรือพักใบอนุญาตทันที เพื่อให้เป็นแบบอย่างกับผู้ประกอบการรายอื่น
ด้าน นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ตนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว หากพบจะดำเนินการตามกฎหมายทันที อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นร้านวีดิทัศน์ที่จำหน่ายแผ่นผีวีซีดี ดีวีดีเถื่อน ให้แจ้งมายัง สวช. ส่วนการควบคุมจำนวนการออกใบอนุญาตคงทำไม่ได้ แต่จะเข้มงวดในการตรวจสอบประวัติ พร้อมกับตรวจสอบภายหลังได้รับใบอนุญาตแล้วว่า ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ผ่านมา ผู้ประกอบการมีข้อกังวลเกี่ยวกับการที่ สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้ออกใบอนุญาตการประกอบกิจการร้านวิดีทัศน์ จำหน่ายหรือเช่า ดีวีดี วีซีดี ภาพยนตร์ เพลง ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย แต่กลับพบว่ามีผู้ประกอบการบางรายเปิดร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หรือแผ่นผีซีดีเถื่อน โดยมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องจาก สวช.บังหน้า ดังนั้น ตนจะสั่งการให้ สวช.เร่งดำเนินการตรวจสอบหากพบว่า ร้านใดมีใบอนุญาตแต่ใช้ในทางที่ผิดจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แผ่นซีดีเถื่อน ให้จัดการขั้นเด็ดขาด ลงโทษตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551
นายธีระกล่าวต่อไปว่า ร้านใดที่นำวิดีทัศน์ หนัง เพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจพิจารณา ถือว่ากระทำการขัด พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ในหมวดที่ 4 การประกอบกิจการวีดิทัศน์ มาตรา 47 ซึ่งระบุว่า วิดีทัศน์ที่จะนำออกฉาย ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายในราชอาณาจักรต้องผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มีโทษทางอาญา ตามมาตราที่ 81 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 46 หรือ 47 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท รวมทั้งยังขัดขัดมาตรา 58 ด้วย โดยวีดิทัศน์ที่ผู้รับใบอนุญาตมีไว้ในสถานที่ประกอบกิจการของตนเพื่อนำออกฉาย ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายต้องมีลักษณะเช่นเดียวกับวีดิทัศน์ที่ผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาต จะมีความผิดตามมาตรา 80 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากพบผู้ประกอบการกระทำความผิด ใช้ช่องว่างทางกฎหมายประกอบกิจการโดยมิชอบ ให้ สวช.ดำเนินการยึดหรือพักใบอนุญาตทันที เพื่อให้เป็นแบบอย่างกับผู้ประกอบการรายอื่น
ด้าน นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ตนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว หากพบจะดำเนินการตามกฎหมายทันที อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นร้านวีดิทัศน์ที่จำหน่ายแผ่นผีวีซีดี ดีวีดีเถื่อน ให้แจ้งมายัง สวช. ส่วนการควบคุมจำนวนการออกใบอนุญาตคงทำไม่ได้ แต่จะเข้มงวดในการตรวจสอบประวัติ พร้อมกับตรวจสอบภายหลังได้รับใบอนุญาตแล้วว่า ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่
