xs
xsm
sm
md
lg

“หมอมงคล” หนุน “วิทยา” ทำซีแอล หาก บ.ยาไม่ลดราคาช่วยผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หมอมงคล” หนุน “วิทยา” เจรจาต่อรองยามะเร็งต่อมน้ำเหลือง จนถึงที่สุด หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีผู้เสียชีวิตจากการเข้าไม่ถึงยาจำนวนมากก็สนับสนุนให้ทำซีแอล ชี้ หากบริษัทยายอมลดราคาลงมาจะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นคนจน แม้กำไรไม่เยอะแต่ก็ถือเป็นรายได้เพิ่ม และยังจำหน่ายยาราคาเดิมให้กับคนรวย และ รพ.เอกชนได้ด้วย
นพ.มงคล ณ สงขลา
นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีที่เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง ขอให้ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุขแสดงจุดยืนเรียกร้องให้บริษัทยาลดราคายาริทูซิแมบ (Rituximab) เพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ได้เข้าถึงยา เนื่องจากปัจจุบันยาริทูซิแมบ ไม่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และไม่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของทั้งระบบประกันสังคมและระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เนื่องจากยามีราคาแพงมากกว่า 4 แสนบาทต่อหนึ่งคอร์สการรักษา ทำให้ผู้ป่วยเข้าไม่ถึงยาจำเป็นนี้กว่า 1,500 รายว่า ตนสนับสนุนให้ นายวิทยา แสดงบทบาทในเรื่องดังกล่าว เพราะถือเป็นหน้าที่หลักของ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยเบื้องต้นต้องเจรจาเพื่อขอลดราคายาริทูซิแมบก่อน หากเมื่อพยายามถึงที่สุดแล้วไม่เป็นผล และเห็นว่าส่งความเสียหาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จึงค่อยมาพิจารณาเรื่องการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา หรือ ซีแอล ซึ่งตนสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว เพราะการทำซีแอลเป็นกระบวนการตามกฎหมายที่องค์การอนามัยโลก (WTO) เปิดโอกาสไว้ให้ และเมื่อเป็นการดำเนินการที่ถูกกฎหมายทั้งกฎหมายภายในประเทศและระหว่างประเทศ ก็ไม่สามารถโจมตีประเทศไทยได้ว่าไม่เคารพสิทธิบัตร

น.พ.มงคล กล่าวต่อไปว่า การเจรจาต่อรองลดราคายาลงนั้น บริษัทยาสามารถจำหน่ายยาได้ 2 ลักษณะ คือ การจำหน่ายยาให้กับโรงพยาบาลเอกชน คนรวย หรือผู้มีฐานะยังสามารถจำน่ายได้ในราคาปกติ แต่ต้องผลิตยาอีกชุดหนึ่งที่มีคุณภาพเดียวกันจำหน่ายให้กับคนจน ซึ่งหากทำในลักษณะดังกล่าวบริษัทยาก็สามารถอยู่ได้ โดยบริษัทยาก็จะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนจนที่ถึงแม้จะได้กำไรน้อย แต่ก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงยาเลย และบริษัทยาไม่เคยมีรายได้จากลูกค้ากลุ่มนี้ ดังนั้น สธ.ต้องพยายามอธิบายให้บริษัทยาได้เข้าใจ

“คนจนที่เป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เขาไม่มีโอกาสได้ใช้ยาพวกนี้อยู่แล้ว เพราะยามีราคาสูง แต่หากขายยาราคาถูก เอากำไรพอสมควร เขาก็ได้มาเป็นลูกค้า จากที่ไม่เคยมีโอกาสได้กำไรจากลูกค้ากลุ่มนี้เลย ก็ได้ลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น อยากให้บริษัทยาได้มองในแง่ดีด้วย”อดีต รมว.สาธารณสุข กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น