"ไชยา"ยันเดินหน้าทำCLยาต้านไวรัสเอดส์ตัวใหม่ นัดหารือ 18 มิ.ย.

ผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อการบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และผู้ป่วยเอดส์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 ถึง มีนาคม 2551 พบว่ามีผู้ติดเชื้อลงทะเบียน 155,545 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ไปรับยาต้านไวรัสต่อเนื่อง 97,315 คน รับบริการให้คำปรึกษาเจาะเลือดและเจาะเลือด 80,118 คน นายจอน อึ๊งภากรณ์ ประธานอนุกรรมการพัฒนาระบบการให้บริการผู้ติดเชื้อ HIV หรือ ผู้ป่วยเอดส์ บอกว่า มาตรการบังคับใช้สิทธิ์เหนือสิทธิบัตรยา หรือ CL ยาต้านไวรัสเอดส์ ทำให้งบประมาณดำเนินการกองทุนเอดส์ ปี 2552 ลดลงจากงบประมาณ ปี 2551 คือเหลือเพียง 2,983 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 4,300 ล้านบาท ช่วยประหยัดงบประมาณได้มากถึง 1,317 ล้านบาท
นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บอกว่า งบประมาณกองทุนเอดส์จะแยกออกจากงบประมาณเหมาจ่ายรายหัว โดยรูปแบบการจ่ายชดเชย ให้หน่วยบริการเป็นการจ่ายตามผลงาน แตกต่างจากกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่จ่ายแบบเหมาจ่ายรายหัว สำหรับกองทุนเพื่อบริการผู้ติดเชื้อ เอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ จะทำการรักษาให้ยาต้านไวรัส ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ให้คำปรึกษาและป้องกันการแพร่เชื้อ
ขณะที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ยังคงเดินหน้าทำ CL ยาตัวใหม่ และหากมีความจำเป็น ก็ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการร่วม เพื่อพัฒนาการเข้าถึงระบบยาที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน โดยเตรียมหารือครั้งแรกวันที่ 18 มิถุนายนนี้