xs
xsm
sm
md
lg

ปี 51 สปสช.ทุ่ม 4.3 พันล้าน จ่ายยาต้านไวรัสผู้ป่วยเอดส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สปสช.สรุปผลการดำเนินงานกองทุนเอดส์ปี 50 พบมีผู้ป่วยได้รับยาต้านเกือบ 8 หมื่นราย จากผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ลงทะเบียนกว่า 1 แสนราย ระบุผลจากทำ CL ทำให้ซื้อยาราคาถูก ประหยัดงบนำมาใช้กับสิทธิประโยชน์โรคไตวายเรื้อรัง-วัคซีนหวัดใหญ่กว่า 1 พันล้านบาท เผยปี 51 มีงบดำเนินการ 4.3 พันล้าน ตั้งเป้าผู้ป่วยรับยา 1.3 แสนคน ขณะที่ปี 52 ของบสำหรับกองทุนเอดส์ 2.9 พันล้านบาท ลดลงจากเดิม เหตุค่ายาต้านไวรัสเอชไอวีมีราคาถูกลง

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ที่สำคัญหนึ่งของระบบหลักประกันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คือการบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ โดย สปสช.รับถ่ายโอนภารกิจโครงการจ่ายยาต้านไวรัส หรือโครงการ NAPHA เดิม ต่อจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และเริ่มดำเนินการอย่างสมบูรณ์ในปีงบประมาณ 2550 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 เป็นต้นมา โดยจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ งบประมาณแยกจากงบเหมาจ่ายรายหัว เป็นกองทุนที่ตั้งขึ้นเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์เข้าถึงบริการโดยเฉพาะยาต้านไวรัสเอชไอวี

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปี 2550 นั้น มีผู้ติดเชื้อสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าลงทะเบียนทั้งสิ้นจำนวน 107,011 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่รับยาต้านไวรัสเอดส์ ไม่ว่าจะเป็นสูตรพื้นฐาน สูตรดื้อยา และสูตรอื่นๆจำนวน 79,185 ราย ใช้งบประมาณในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์เป็นเงิน 1,041 ล้านบาท และหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการมีทั้งสิ้น 1,109 แห่ง

เลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการให้ยาต้านไวรัสแล้ว กองทุนฯยังดำเนินการด้านการพัฒนาระบบบริการและบุคลากรด้วย โดยมีการจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุข เช่น การอบรมแพทย์ผู้อนุมัติสูตรยา การอบรมอาสาสมัครผู้ติดเชื้อ และอบรมผู้ประสานงานโรคเอดส์ เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาคุณภาพบริการ เช่น การดำเนินการควบคุมคุณภาพทางห้องปฏิบัติการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและสมาคมเทคนิคการแพทย์ และสนับสนุนการจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพการรักษาในหน่วยบริการ

สำหรับกองทุนฯสามารถประหยัดงบประมาณค่ายาต้านไวรัสเอชไอวีได้ จากการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาเอดส์ของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้เหลืองบประมาณส่วนหนึ่ง จึงได้จัดสรรสนับสนุนโครงการบริการทดแทนไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังปี 2550 เป็นเงิน 836 ล้านบาท และจัดสรรงบสำหรับจัดซื้อวัคซีนหวัดใหญ่ให้กับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นเงิน 103 ล้านบาท รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 3,855 ล้านบาท

นพ.วินัย กล่าวว่า ในปี 2551 นั้น กองทุนเอดส์มีงบดำเนินการ 4,382 ล้านบาท ตั้งเป้ามีผู้ป่วยรับยา 132,000 ขณะที่ในปี 2552 ได้เสนอของบประมาณสำหรับกองทุนเอดส์ 2,983 ล้านบาท โดยงบประมาณลดลงกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการประหยัดซื้อยาต้านไวรัสที่มีราคาถูกลง ซึ่งการดำเนินงานกองทุนเอดส์ของสปสช. เพื่อให้ผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวีเข้าถึงบริการ และผู้ที่ต้องได้รับยาก็เข้าถึงยาอย่างทั่วถึง เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น